สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า ชี้แจง ปมตัดหัวกระทิงที่บางลาง
วันที่ 29 ก.ค. 2560 ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส ได้รายงานว่ามีการแชร์ข้อความทีโพสต์ผ่านเฟชบุ๊คของฮาลา ที่โพสต์ R.I.P. กระทิงแม่มะลิที่มีอายุมากถูกฝูงทิ้งและมาติดหล่มโคลนเสียชีวิตแม้ว่าจะมีการพยายามช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน สุดท้ายแม่มะลิก็จากไปอย่างสงบ ซึ่งหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่อุทยานได้ทำการตัดหัวกระทิงมะลิ จึงมีการตั้งประเด็นสอบถามจากชาวบ้านและสังคมว่า "ทำไมต้องตัดหัวกระทิงกลับไป เพื่อประดับสำนักงาน"
#ข้อเท็จจริง
เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติบางลางนำหัวกระทิงมาไม่ใช่วัตถุประสงค์เพื่อการประดับประดาสำนักงานตามที่เป็นข่าว หากแต่เป็นการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติบางลางตามมาตรา 19 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 ซึ่งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการไปเพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองและดูแลรักษาอุทยานแห่งชาติ หรือการศึกษาหรือวิจัยทางวิชาการ
โดยวัตถุประสงค์ของเจ้าหน้าที่ที่นำซากหัวกระทิงกลับมายังสำนักงานเพื่อ
1. เป็นการปกป้องทรัพยากรในพื้นที่อุทยานเนื่องจากหัวกระทิงเป็นสิ่งมีมูลค่าราคาแพง เพื่อเป็นการป้องกันการลักลอบขุดซากหัวกระทิงไปจำหน่ายหรือ ครอบครองส่วนบุคคล เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องนำหัวกระทิงมาเก็บรักษาไว้ที่สำนักงานอุทยานแห่งชาติบางลางเพื่อเป็นสมบัติของประเทศชาติ โดยทางอุทยานแห่งชาติบางลางได้จัดทำบัญชีซากสัตว์ป่าและ จัดทำรายงานต่อกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
2. เพื่อจัดเก็บซากสัตว์ป่าให้เป็นแหล่งเรียนรู้แก่เยาวชนและ ประชาชนที่เข้ามาเยี่ยมชมในพื้นที่ เพื่อเป็นการปลูกฝังให้เกิดความตระหนักในการอนุรักษ์ทรัพยากร สัตว์ป่าในพื้นที่และเกิดการเรียนรู้และทราบข้อมูลทางวิชาการ โดยเฉพาะหัวกระทิงนอกจากจะทำให้ได้เรียนรู้ลักษณะสัณฐานวิทยาของเขากระทิงเพื่อจำแนกชนิดจากเขาสัตว์แล้ว ยังสามารถเรียนรู้การประเมินอายุของกระทิงจากการนับวงพาลี ซึ่งปกติโคนเขาของกระทิงจะหยักเป็นลอนคลื่น เรียกว่า "พาลี" พาลีจะปรากฏเป็นรูปร่างเมื่อกระทิงอายุย่างเข้าปีที่ 6 ซึ่งหากไม่ตัดและนำออกมาทันทีจะทำให้ลักษณะของพาลีที่เกิดขึ้นอาจถูกทำลายโดยแมลงที่กัดแทะปลอกเขาของซากกระทิง