หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

'นิด้าโพล' เผยปชช. 61.76 % หนุนใช้มาตรา 44 เข้าปฏิรูปตำรวจไทย

Share แชร์บอร์ด ข่าววันนี้ โพสท์โดย mviadad

 

'นิด้าโพล' เผยปชช. 61.76 % หนุนใช้มาตรา 44 เข้าปฏิรูปตำรวจไทย
 
 
'นิด้าโพล' เปิดเผยผลสำรวจปชช. หัวข้อ' การปฏิรูปตำรวจไทย' พบ 61.76 % หนุนใช้ม.44 เข้าปฏิรูปตำรวจ 30.32 % หนุนให้อยู่ใต้สังกัดนายกรัฐมนตรีเช่นเดิม

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “การปฏิรูปตำรวจไทย”ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 13 – 14 กรกฎาคม 2560 โดยสอบถามความคิดเห็นจากประชาชนทั่วประเทศ กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพรวมทั้งสิ้น จำนวน 1,250 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการปฏิรูปตำรวจไทย

จากการสำรวจเมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการสังกัดหน่วยงานหรือรูปแบบสถานะที่เหมาะสมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติมากที่สุด พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 30.32 ระบุว่า ให้คงเดิม (ไม่สังกัดกระทรวงใด ไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี แต่ขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี) รองลงมา ร้อยละ 24.48 ระบุว่า ย้ายไปสังกัดกระทรวงยุติธรรมร้อยละ 18.72 ระบุว่า ย้ายกลับไปกระทรวงมหาดไทยร้อยละ 9.92 ระบุว่า ให้ไปสังกัดขึ้นตรงกับผู้ว่าราชการจังหวัด(ส่วนภูมิภาค) ร้อยละ 6.40 ระบุ ให้จัดตั้งเป็นกระทรวงใหม่ ร้อยละ 0.56 ระบุ อื่น ๆ ได้แก่ ควรย้ายไปสังกัดกระทรวงกลาโหม หรือส่วนใดก็ได้ แต่ต้องให้ประชาชนแสดงความคิดเห็น และต้องอยู่ในองค์กรที่สามารถตรวจสอบได้ และร้อยละ 9.60 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ

ด้านความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการแยกอำนาจการสอบสวนของตำรวจออกมาให้หน่วยงานอื่นรับผิดชอบ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 50.48 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย ควรให้อำนาจในการสอบสวนไว้กับตำรวจเช่นเดิม เพราะถือเป็นหน้าที่ของตำรวจโดยตรง

ซึ่งตำรวจมีความรู้ มีประสบการณ์ มีความชำนาญในงานสอบสวน และทำหน้าที่ได้ดีอยู่แล้ว อีกทั้งตำรวจมีความใกล้ชิดกับประชาชนอยู่แล้ว การสะสางคดีต่างๆ จะได้มีความเชื่อมโยงและต่อเนื่องกัน หากให้หน่วยงานอื่นรับผิดชอบ อาจเป็นการก้าวก่ายในหน้าที่ และเกิดความซ้ำซ้อนกัน ดังนั้นควรให้อำนาจการสอบสวนไว้ที่ตำรวจเช่นเดิม

ขณะที่ร้อยละ 44.24 ระบุว่า เห็นด้วยกับการแยกอำนาจในการสอบสวนของตำรวจออกมา เพราการปราบปราม การจับกุม และงานสอบสวนควรแยกออกจากกัน ในปัจจุบันงานสอบสวนอยู่ในความรับผิดชอบของตำรวจมากเกินไป เป็นการช่วยลดภาระงานและของตำรวจให้น้อยลง ควรมีการแบ่งงาน กระจายหรือถ่วงดุลอำนาจ เป็นการป้องกันการใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่มิชอบ หรือการแทรกแซงของอำนาจมืด เป็นการสร้างความยุติธรรม เกิดความโปร่งใส

 

ซึ่งหน่วยงานอื่นควรเข้ามามีส่วนร่วมในงานสอบสวนด้วย ทำให้การสอบสวนมีความชัดเจน และมีประสิทธิภาพเพิ่มมากยิ่งขึ้น ร้อยละ 0.64 ระบุว่า อื่น ๆ ได้แก่ อยากให้ตรวจสอบทุกฝ่าย ให้ทำร่วมกันระหว่างตำรวจกับหน่อยงานอื่น ๆ ที่มารับผิดชอบ ขึ้นอยู่กับประเภท ความยากง่ายของคดี และยังคงให้อำนาจกับตำรวจแต่ควรให้หน่วยงานอื่นได้มีส่วนร่วมด้วย และร้อยละ 4.64 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ

สำหรับความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ที่ควรพิจารณาเป็นอันดับแรกในการคัดเลือกบุคลากรเข้ามารับราชการตำรวจในปัจจุบัน พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 31.20 ระบุว่า การจบจากสถาบันที่ผลิตบุคลากรตำรวจโดยตรง เช่น โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ร้อยละ 30.72 ระบุว่า คุณธรรม จริยธรรม ร้อยละ 19.76 ระบุว่า คะแนนสอบ รวมไปถึงทักษะและความสามารถ ร้อยละ 6.96 ระบุว่า ประสบการณ์ในการทำงาน ร้อยละ 4.56 ระบุว่า การจบจากสถาบันการศึกษาอื่น ๆ ร้อยละ 3.28 ระบุว่า ประวัติส่วนบุคคล ร้อยละ0.72 ระบุว่า อื่น ๆ ได้แก่ ต้องรักในอาชีพตำรวจ มีคุณวุฒิ วัยวุฒิ และความชำนาญเฉพาะด้านและควรจบหรือมีความรู้ทางด้านกฎหมาย และร้อยละ 2.80 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ

ท้ายที่สุด เมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการนำมาตรา 44 มาช่วยในการปฏิรูปตำรวจ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 61.76 ระบุว่า เห็นด้วย เพราะเป็นการช่วยให้การปฏิรูปตำรวจ เป็นไปด้วยความรวดเร็ว มีระบบ มีระเบียบ และเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น จะได้ไม่มีความยืดหยุ่นในการทำงาน ลดการทุจริตและปัญหาคอร์รัปชันได้ โดยเฉพาะการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของตำรวจบางคน

ซึ่งการแก้ไขหรือดำเนินการบางอย่างต่างมีข้อจำกัด ดังนั้นการใช้ ม. 44 น่าจะส่งผลดีต่อการปฏิรูปตำรวจ ขณะที่ร้อยละ 27.84 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย เพราะ เป็นการแทรกแซงอำนาจเกินขอบเขตและใช้ ม. 44 พร่ำเพรื่อจนเกินไป ดูเป็นการกดดัน บังคับกึ่งเผด็จการกับตำรวจมากเกินไป ควรปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการและขั้นตอน

ซึ่งโครงสร้างและระบบบริหารงานของตำรวจมีกฎหมาย ข้อระเบียบบังคับ ไว้ควบคุมการทำงานและการปฏิบัติหน้าที่อยู่แล้ว เป็นการแก้ไขที่ปลายเหตุ และไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ของการปฏิรูปตำรวจ และร้อยละ 10.40 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ

 
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
mviadad's profile


โพสท์โดย: mviadad
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
8 VOTES (4/5 จาก 2 คน)
VOTED: Tabebuia, บอม ปลานิล
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
นักดื่มกระทิงแดง กำลังมองหากระป๋อง ที่มีจุดสีน้ำเงินอยู่ข้างใต้9 วิธีเด็ดแก้ปัญหา แอร์กินไฟช่วงหน้าร้อนปรี๊ดเลย! "ครูไพบูลย์" โดนแซวว่าเล็ก..โต้กลับทันที "ผมเล็กหรือคุณโบ๋" กันแน่นักข่าวปาเลสไตน์โพสต์รูป ทหารอิสราเอลถือธงชาติไทยสุดอึ้ง! พบหัวแกะมัมมี่นับพันตัวและซากพระราชวังที่ค้นพบในอียิปต์เผยโฉมหน้า "แบงค์" ที่ "เจ๊ปิ่น ทรงหิว" เต๊าะจนสำเร็จ..งานนี้ไม่หิวอีกต่อไปแล้ว!5 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่มีสถาปัตยกรรมอันน่าทึ่งแม่น้ำที่อันตรายที่สุดในโลกสาวสั่งอาหารผ่านแอพฯ แต่ไรเดอร์แชทบอกเธอให้เปลี่ยนร้าน เพราะร้านนี้สกปรกมาก 😌
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ยลโฉมความงดงามของนครวัดก๊อปเกรดเอจากฝีมือจีน อลังการไม่แพ้นครวัดของกัมพูชา!🤓 เข้ามาร่วมค้นพบสิ่งที่น่าประหลาดใจมากมายของเหล่าผู้คนในโลก Social 😆ถ้าเราดื่มน้ำน้อย หรือมาเกินไป จะเกิดอะไรกับร่างกายของเรา?ปรี๊ดเลย! "ครูไพบูลย์" โดนแซวว่าเล็ก..โต้กลับทันที "ผมเล็กหรือคุณโบ๋" กันแน่
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
โจรใต้ลอบยิงทหารพรานหญิงนักดื่มกระทิงแดง กำลังมองหากระป๋อง ที่มีจุดสีน้ำเงินอยู่ข้างใต้JKN ขาดทุน 2,157 ล้านบาท ครั้งแรกในรอบ 10 ปี ธุรกิจคอนเทนต์แผ่วนางแบบสาวสวย คิดที่จะเข้าวงการ A.V ต้องการหาเงินใช้หนี้
ตั้งกระทู้ใหม่