วิถีฟุตบอลของ มงคล ทศไกร จากนักเตะโรงงานสู่รั้วทีมชาติ
ชีวิตคนเรามีต้นทุนที่แตกต่างกันไปซึ่งไม่มีใครกำหนดได้หรอกว่าจะให้เราเดินไปทิศทางไหน เจ้าเย็น หรือ จ่าเย็น ที่เพื่อนพี่น้องนักฟุตบอลเรียกขานกัน ในฐานะนักเตะหนุ่มสู้ชีวิต จากหนุ่มโรงงานเข้าสู่รั้วทีมชาติในนาม "มงคล ทศไกร"
มงคล ทศไกร เกิดเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 1987 ที่จังหวัดขอนแก่น ปัจจุบันอายุ 31 ปี สังกัดสโมสร เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด จ่าเย็น หรือ มงคล ชีวิตในวัยเด็กเป็นคนซื่อๆ สไตค์เด็กภูธร โดยฐานะทางบ้านก็ค่อนข้างยากจน โดยที่ครอบครัวของเขามีชีวิตหาเช้ากินค่ำเหมือนกับครอบครัวคนต่างจังหวัดทั่วไป หลังจากจบในชั้นประถมศึกษา มงคล ทศไกร ก็พกพาความฝันเดินทางเข้าสู่รั่วโรงเรียนกีฬาจังหวัดอ่างทอง และที่นี่นั่นเองก็เป็นที่บ่มเพาะศาสตร์ทางลูกหนังให้กับ “เจ้าเย็น” มาจนถึงทุกวันนี้ โดยในช่วงที่เขาอยู่กับโรงเรียนกีฬาจังหวัดอ่างทองเขาก็พาต้นสังกัดคว้าแชมป์ฟุตบอลเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 21 ที่จังหวัดชัยภูมิ และหลังจากเมื่อจบชั้นมัธยมศึกษา เจ้าเย็นก็เดินทางมาตามความฝันที่ต้องการที่จะค้าแข้งระดับสโมสรและในนามทีมชาติ โดยเจ้าตัวพุ่งเข้าสู่เมืองหลวงโดยที่ไม่รู้เลยว่าหนทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร
ซึ่งหลังจากที่เขาเดินทางเข้ามาในเมืองหลวง โดยเป็นความโชคดีหรือความบังเอิญก็ไม่ทราบได้ เจ้าเย็น ได้พบกับ อนาวิน จูจีน เพื่อนซี้ในสมัยเรียน ซึ่ง “อนาวิน” ก็ได้ชักชวนให้เขาไปลองคัดสโมสรธนาคารกรุงไทย แต่ด้วยเบี้ยเลี้ยงซ้อมแค่วันละ 205 บาท ทำให้เขาไม่พอใช้จ่ายกับค่าครองชีพที่สูงได้ และยิ่งเวลาผ่านเลยไปความท้อแท้ก็เริ่มถาโถม บวกกับยุคสมัยนั้นฟุตบอลอาชีพยังไม่มีใครกล้าการันตีว่าจะสามารถหาเลี้ยงชีพได้ดีอย่างทุกวันนี้ และหลังจากนั้นไม่นาน “มงคล ทศไกร” จึงตัดสินใจไปสมัครเป็นหนุ่มโรงงาน ย่านบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ แต่ด้วยความที่มีใจรักในฟุตบอล เขาก็ยังคิดจะหวนคืนสู่วงการตลอดเวลา จนเมื่อ “โค้ชแต๊ก” อรรถพล ปุษปาคม หยิบยื่นโอกาสมาให้อีกครั้ง โดยเสนอเงินให้ 4,000 บาทต่อเดือน ซึ่งนั้นเองก็ทำให้ “เจ้าเย็น” ตัดสินใจหวนกลับสู่วงการฟุตบอลอีกครั้ง และนั้นเองคือจุดเปลี่ยนสำหรับ “เจ้าเย็น” มงคล ทศไกร ที่เรารู้จักกันในวันนี้ และอีกจุดเปลี่ยนที่สำคัญก็คือ ครั้งที่เจ้าเย็นถึงวัยที่ต้องทำหน้าที่ลูกผู้ชายในการเกณฑ์ทหาร เจ้าเย็นจับได้ใบแดงโดยที่เจ้าตัวต้องเข้ากรมเป็นทหารบก และจากคนที่มีทักษะทางด้านฟุบอลอยู่แล้ว เจ้าเย็นจึงถูกเลือกไปร่วมทีมกรมสวัสดิการทหารบก และอยู่กับทีมจนกระทั่งการเปลี่ยนแปลงของวงการฟุตบอลมาถึงกรมสวัสดิการทหารถูกยุบรวมกับทหารบก และเปลี่ยนมาเป็น “อาร์มี่ ยูไนเต็ด” อย่างที่ทุกคนรู้จักกันมาถึงทุกวันนี้ และนั่นก็คืออีกหนึ่งจุดเริ่มต้นการเป็นนักเตะอาชีพอย่างแท้จริงของเขา
และจากการที่เป็นนักเตะที่มีระเบียบวินัยและขยันฝึกซ้อม จนทำให้นักเตะโนเนมอย่างเขากลายเป็นตัวหลักของสโมสร อาร์มี่ ยูไนเต็ด ไปในที่สุด ซึ่งในช่วงที่อยู่กับ สโมสร อาร์มี่ ยูไนเต็ด เจ้าเย็นจัดได้ว่าเป็นดาวรุ่งที่น่าจับตาคนนึงและด้วยฟอร์มอันโดดเด่นของเขา ทำให้ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เรียกเขาเข้ามาติดทีมชาติในชุดลุยอาเซียน และหลังจากนั้นเป็นต้นมา เขาก็ได้โลดแล่นอยู่ในนามทีมชาติเลื่อยมาจนถึงทุกวันนี้












