ประสบการณ์ซื้อผู้ชายครั้งแรกในชีวิต
ภาพประกอบจากอินเตอร์เนต
ออกเดินทางจากกรุงเทพสู่พัทยาพร้อมเพื่อนอีก 3 คน
1 ในนั้นมีเพื่อนร่วมอุดมการณ์ที่อยากใช้เงินฟาดผู้ด้วยเหมือนกัน
อีก 2 คนอยากรู้อยากเห็นว่ามันจะเป็นยังไง
ตัดภาพมาตอนที่เริ่มออกเดินทางไปหาแหล่งซื้อตอน 20.30
จากหน้าโรงแรม holiday inn พัทยาเหนือ ติดชายหาด
พวกเราเดินทางโดยเท้าเพราะแถวนั้นปิดถนนไม่ให้รถวิ่ง
เนื่องจากมีงาน international firework festival 2014 ตลอดทาง
เราดั้งด้นเดินทางไปถึงพัทยาใต้ สายสาม แยกโทนี่
ตามที่สายลับกรีนแมมบ้าได้สืบข่าวมาว่าแถวนั้นเป็นแหล่งค้าขายผู้ชายแท้ของพัทยาที่เยอะที่สุด
ช่วงเวลา 5 ทุ่มกว่าๆ เดินมาถึงแยกโทนี่
ก็เริ่มเห็นแล้วว่ามีร้านทำผมซึ่งมีผู้ชายมาต่อคิวเยอะมาก
1 ร้าน 2 ร้าน 3 ร้าน ผ่านไปปป
อีเ...้ยยยย แม่งทำทรงเดียวกันทุกร้านเลยยยย
เดินดูไปก็หัวเราะคิกคัก ... ทำไมหน้าบ้งทุกคนเลย
คราวนี้แหล่ะไม่ผิดแน่ ออฟฟิตพวกแม่งต้องอยู่แถวนี้
แต่แม่งประจำร้านอะไรกันบ้างวะ
ด้วยความอยากรู้ จึงแสร้งทำเป็นสั่งบะหมี่เกี๊ยวหมูแดง
ร้านข้างๆร้านทำผมของชาวโฮสต์มานั่งแดก แล้วเฝ้าสังเกตุการณ์
ซักพัก มีชายวัยรุ่นหน้าบ้งผมเซ็ตสูงทรงเซ้นเซย่า
เข้ามาสั่งบะหมี่กินกับแก๊งเพื่อน
ไม่นานก็มีชายวัยรุ่นอีกคนขับมอไซต์พาผู้ชายหน้าดีเข้ามา
ตะโกนบลัฟกันว่า “นี่ขนาดเด็กกูไม่เซ็ตผม ยังหล่อกว่า...เลย”
ชายวัยรุ่นหน้าบ้งตอกกลับอย่างมั่นหน้าว่า “เดี๋ยว...คอยดูแล้วกันว่าคืนนี้ใครจะได้ดริ้งเยอะกว่า”
(นั่นแหน่ะ! อีเ...้ย! ไปเอาความมั่นใจผิดๆนี้มาจากไหน /กู คิดในใจ พลางแดกไปหัวเราะไป)
เมื่อสอดส่องไปเรื่อยๆ ก็ได้พบว่า โฮสต์จำนวนมากเดินออกมาจากซอยๆหนึ่ง
แสดงว่าร้านแม่งต้องอยู่ในซอยนั้นแหล่ะ
ด้วยความอยากรู้ จึงเดินเข้าไปกระซิบถามคิวมอไซต์ว่า
กู (กระซิบถาม): “พี่คะๆ แถวนี้มีบาร์สำหรับผู้หญิงมั้ยคะ”
ลุงวิน(ตอบเสียงดัง): “บาร์ผู้ชายหรอ?”
กู + เพื่อน(เอามือป้องปาก): “เออๆ นั่นแหล่ะค่ะ”
...ลุงตอบกลับมาด้วยเสียงดังเกินกว่า 120 เดซิเบลว่า : “อ๋อออออ ข้างในนี่แหล่ะ โน่นไงๆ มีร้าน Jacky กับ Jupiter”
กู + เพื่อน (หัวเราะ พร้อมเอามือปิดหน้าตัวเอง): 55555555555555
เพื่อน : แล้วมีหล่อๆเยอะไหมลุง
ลุง : ลุงก็ไม่รุ้ว่า หล่อๆสำหรับคนเรามันแนวไหนอ่ะนะ
#อีลุง...เล่นกูล้ะไง
สอบถามเส้นทางเสร็จก็เดินหาร้านไปเรื่อยๆ อยากบอกว่า
ร้านดีๆนี่แทบไม่มีเลย และเซ็ตโลเกชั่นได้น่ากลัวและดูลูกทุ่งมาก
อยากถอดรองเท้าตบหน้า interior design และสถาปนิกทุกคน
ที่ออกแบบและตกแต่งสถานที่แบบนี้ขึ้นมา
เหมือนเข้าไปแล้วกูต้องเสียตังค์ เสียตัว และเสียชีวิตไปในคราวเดียวกัน
เดินแล้วเดินเล่า ถามวินมอไซต์แถวนั้น อีก 2 วิน
ก็ไปเจอร้านนึง ซึ่งดูปลอดภัยและเป็นกันเองมากที่สุด
ชื่อร้าน Boy Band ดู๊ดู ...ดูชื่อร้านแต่ละชื่อ หนัง...สุดๆ
แแแแแแแแแแแแแแแ บอกเลยว่า ที่กล้าเข้าไปเพราะ
ผู้จัดการร้านนางดูไร้พิษสง และดีเจหน้าดีหุ่นดีส่งยิ้มเชิญชวนให้
(จริงๆ คือเข้ามาเพราะอีดีเจนั่นแหล่ะ แแแแแแแแแแแแ)
เข้ามาก็มาทันรอบออดิชั่นพอดี มีผู้ชาย 10 คนขึ้นมายืนบนเวที
ยืนขายของกันอยู่แต่หน้าไม่ดีซักคน (นี่มองไม่เห็น พอดีเพื่อนบอก)
โต๊ะเราก็เลยไม่ได้เลือก แต่โต๊ะอื่นเขาก็เลือกกันไปป
ซักพักก็นั่งรอนั่งมอง อีเหี้ยมีหล่อๆอีกป่ะวะ
เพื่อนกระซิบบอกว่า ...ง มีฝรั่งด้วยว่ะ หน้าดีนะ
พอชั้นเห็น เออ ก็หน้าดีนี่หว่า ดีที่สุดในร้านและหน้าสวยดีด้วย
ชั้นก็กำลังคิดในใจว่า รอบหน้ากูจะเลือกคนนี้ดีไหมนะ
ขอดูหุ่นก่อน แต่หุ่นไม่เร้าใจเลยอ่ะ ผอมๆ
แต่ whatever น้องคือ the face ในร้านนี้ค่ะ
จากนั้นก็พอมีขึ้นโชว์รอบสอง ก็เริ่มเกรงใจเพื่อนอีกสองคนที่ไม่ได้คิดซื้อ
กูก็แอ๊บถามดีเจหน้าดีคนนั้นว่า จะมีเด็กล็อตใหม่มาอีกไหมหรือมีแค่นี้
พอนางบอกมีแค่นี้ ก็แสดงว่าต้องซื้อมาคุยแล้ว เพราะไหนๆก็เข้ามาล้ะ
กูก็เลยซื้อฝรั่งมาคุย เพื่อนอีกคนเลยต้องจำใจเลือกหนุ่มล่ำที่มองไกลๆแล้วดีสุดในอีก 9 คนที่เหลือ
แล้วก็คุยๆ กันชั่วโมงนึงก็จบบบ เอาเงินฟาดหน้าไป 250 แล้วชั้นก็เดินออกมา
นั่งวินมอไซต์กลับโรงแรม 80 บาท คืนนี้มีเรื่องเม้าท์ล้ะ
ประสบการณ์ซื้อผู้ครั้งแรกในชีวิต ไว้เล่าให้ลูกหลานฟังกันค่ะ
แแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแ
ปล. กลับมากรุงเทพ ความคันทวีคูณกว่าเดิมอี๊ก