แอพพลิเคชันที่คุณใช้อยู่ทุกวัน รักษ์โลกแค่ไหน?
บทความโดย แกรี่ คุก
คุณรู้หรือไม่ว่า บางแอพพลิเคชันที่เราใช้อยู่ทุกๆวัน สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงเพื่อจะนำไปสู่อนาคตสีเขียวได้ โดยเราสามารดูได้ที่การเลือกใช้พลังงานที่จะนำมาใช้เดินระบบในศูนย์ข้อมูลของพวกเขา (และชีวิตดิจิตอลของเรา) ว่ามาจากพลังงานหมุนเวียนหรือไม่?
การปฏิวัติพลังงานมาถึงแล้ว และผู้นำด้านเทคโนโลยีทั้งหลายกำลังเปิดรับพลังงานสีเขียวที่เป็นมิตรและยั่งยืน แต่ก็ยังมีหลายแห่งที่ยังคงพึ่งพาถ่านหินและแหล่งพลังงานสกปรกอื่นๆที่มีส่วนก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
จาก เฟสบุ๊ค ถึง เน็ตฟลิกซ์ ด้านล่างนี้คือรายชื่อผู้นำด้านพลังงาน กลุ่มที่กำลังปรับตัวเองให้ดีขึ้น และกลุ่มที่ยังล้าหลังซึ่งยังคงใช้พลังงานสกปรกๆอย่างถ่านหินอยู่
ผู้นำการแข่งขัน:
เฟสบุ๊ค (เกรด: เอ)
Facebook (Grade: A)
หลังจากที่เรารณรงค์กับเฟสบุ๊ค ไม่ให้กดถูกใจถ่านหิน เมื่อปี 2554 ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีนี้ได้ผลักดันเรื่องพลังงานหมุนเวียนและสร้างความเชื่อมั่นให้เราว่า ทุก ๆ การกดถูกใจและแชร์จะเป็นมิตรต่อโลกมากกว่าที่ผ่านๆมา
กูเกิล (เกรด: เอ)
Google (Grade: A)
ราชาแห่งโปรแกรมค้นหา (เสิร์ชเอนจิน) เป็นบริษัทด้านอินเทอร์เน็ตเจ้าแรกที่ลงนามในสัญญาที่มีความสำคัญอย่างมากเกี่ยวกับการใช้พลังงานหมุนเวียนเมื่อปี 2553 และมีความคืบหน้าที่น่าดีใจที่จะไปสู่การใช้พลังงานหมุนเวียนเต็มร้อย
วอตส์แอปป์ (เกรด: เอ)
WhatsApp (Grade: A)
ตั้งแต่ตกเป็นของเจ้าของสื่อสังคมออนไลน์ยักษ์ใหญ่ ซึ่งก็คือ เฟสบุ๊ค ในปี 2557 ผู้ให้บริการส่งข้อความที่เป็นที่รู้จักอย่างมากนี้ ได้เข้าร่วมลงแรงเพื่อให้มีอินเทอร์เน็ต ที่จะขับเคลื่อนโดยพลังงานหมุนเวียน ข้อความวอตส์แอปป์ถึง 3 หมื่นล้านข้อความที่เราส่งกันในทุกๆวัน เป็นส่วนหนึ่งในความพยายามที่จะมุ่งไปสู่อนาคตแห่งพลังงานหมุนเวียน
ไอทูนส์ (เกรด: เอ)
iTunes (Grade: A)
ตราบใดที่ยังมีดนตรี เราก็ยังมีความหวัง! แอปเปิลเป็นหนึ่งในหลายบริษัทที่จริงจังมากๆเรื่องการทำให้บางส่วนของพวกเขาบนโลกอินเทอร์เน็ตเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งหมายความว่า เมื่อคุณดาวน์โหลดเพลงจากไอทูนส์ แอปเปิลได้เลือกใช้พลังงานหมุนเวียนในการทำให้เพลงของคุณนั้นใช้การได้อย่างเป็นมิตรต่อโลกแล้ว
ยูทูป (เกรด: เอ)
YouTube (Grade: A)
ในปี 2558 การดูวีดิโอบนอินเทอร์เน็ตนับเป็น ร้อยละ 63 ของการใช้อินเทอร์เน็ตโลก ทำให้การดูวีดิโอเช่นนี้ ถือเป็นการใช้พลังงานที่มากที่สุด ภายในปี 2563 มีการคาดการณ์ว่าการดูวีดิโอผ่านอินเทอร์เน็ตจะเพิ่มถึงร้อยละ 80 และนั่นจะกินพลังงานเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
กำลังปรับปรุง
เอทซี่ (เกรด: บี)
Etsy (Grade: B)
เอทซี่ได้เริ่มเดินไปในทางที่จะนำตลาดออนไลน์ของพวกเขาไปสู่การใช้พลังงานที่สะอาดกว่าเดิม พวกเขาได้เปลี่ยนบางส่วนของระบบการดำเนินการไปสู่ศูนย์ข้อมูลที่ใช้พลังงานหมุนเวียน พวกเขาได้เริ่มเห็นความสำคัญ และเรียกร้องให้ผู้นำรัฐบาลต่างๆลงมือทำเพื่อเปลี่ยนแปลงไปสู่การใช้พลังงานหมุนเวียน
ลิงด์อิน (เกรด: บี)
LinkedIn (Grade: B)
การค้นหางานของคุณเพิ่มรอยเท้าคาร์บอนหรือไม่? ครั้งสุดท้ายที่เราวัดระดับ ลิงด์อิน เมื่อปี 2558 พวกเขายังอยู่ในเกรดซี ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พวกเขาก็ได้ยอมรับข้อตกลงเพื่อที่จะใช้พลังงานหมุนเวียนอย่างเต็มที่ และได้พลักดันให้การดำเนินการในศูนย์ข้อมูลและเครื่องใช้ต่างๆ ใช้พลังงานหมุนเวียน
อย่างไรก็ตาม พวกเขายังคงใช้พลังงานหมุนเวียนเพียงร้อยละ 10 ลิงด์อินจำเป็นจะต้องสนใจและให้ความสำคัญมากกว่านี้ และวางแผนเพื่อดำเนินงานเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียนทั้งหมด
สไกป์ (เกรด: บี)
Skype (Grade: B)
หากเรายังคงติดต่อกับครอบครัวและเพื่อนจากทั่วโลก แต่ยังสงสัยว่าการโทรของคุณใช้พลังงานหมุนเวียนหรือไม่ นี่คือคำตอบ สไกป์เป็นแอพพลิเคชันที่มีการพัฒนาโดย ไมโครซอฟท์ เช่นเดียวกับลิงด์อิน ซึ่งเคยถูกจัดให้อยู่ในเกรด ซี มาก่อน อย่างไรก็ดี พวกเขาได้เริ่มพยายามดำเนินการอินเทอร์เน็ตจากพลังงานหมุนเวียน เพื่อตามให้ทันคู่แข่งอย่างแอปปิลและกูเกิลแล้ว
ในทางกลับกัน...
ทวิตเตอร์ (เกรด: เอฟ)
Twitter (Grade: F)
ในขณะที่ทวิตเตอร์ได้กลายเป็นพื้นที่ให้กับคนที่ไม่ยอมรับและปฏิเสธประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง ตัวอักษร 140 ตัว จากทวิตเตอร์ สามารถถูกเผยแพร่โดยพลังงานหมุนเวียนได้ หากทวิตเตอร์เลือกที่จะตามรอย เฟสบุ๊ค กูเกิล แอปเปิล และผู้นำด้านเทคโนโลยีสารสนเทศอื่นๆ
อเมซอน ไพรม์ (เกรด: ซี)
Amazon Prime (Grade: C)
ในขณะที่การบริการบนเว็บไซท์ของอเมซอน (Amazon Web Services - AWS) ซึ่งรวมถึงเพลงและวีดิโอจาก อเมซอน ไพรม์ ได้มีพันธะสัญญาการตั้งเป้าหมายการใช้พลังงานหมุนเวียนเต็มที่ และได้ลงนามในหลายสัญญาใหญ่ๆเกี่ยวกับการใช้พลังงานหมุนเวียน แต่ยังคงเป็นไปไม่ได้ที่เหล่าลูกค้าจะสามารถทราบผลการดำเนินการที่พวกเขากำลังทำอยู่ บริษัทนี้เก็บเงียบเรื่องข้อมูลการใช้พลังงานและปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนของพวกเขา การวิเคราะห์ของกรีนพีซแสดงให้เห็นว่าการบริการบนเว็บไซต์ของอเมซอนยังคงขยายตัวไปอย่างรวดเร็ว ในด้านที่อาศัยพลังงานจากถ่านหินและแหล่งพลังงานสกปรกอื่น ๆ ที่ไม่ใช่พลังงานหมุนเวียน
อาลีบาบา (เกรด: ดี)
Alibaba (Grade: D)
พื้นที่การตลาดออนไลน์โลกที่โด่งดังนี้ยังคงถูกดำเนินการด้วยถ่านหิน จนถึงวันนี้ยังไม่มีการประกาศออกมาว่าทางบริษัทจะหันไปส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน ประธานบริหารของอาลีบาบา หรือ แจ็ค หม่า มักถูกพูดถึงว่าเป็นคนที่มักจะมีวิสัยทัศน์และมีความกังวลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพราะฉะนั้น อะไรคือสิ่งที่ทำให้อาลีบาบายังไม่ทำให้การซื้อของของเราเป็นมิตรกับโลกมากขึ้นล่ะ?
เน็ตฟลิกซ์ (เกรด: ดี)
Netflix (Grade: D)
เน็ตฟลิกซ์ได้เปลี่ยนวิถีการดูโทรทัศน์ของเรา แต่โชคไม่ดีนักที่พวกเขาไม่ได้คิดการณ์ไกลในเรื่องการใช้พลังงานของพวกเขาด้วย ในขณะที่ผู้นำที่แท้จริงด้านเทคโนโลยีมากมายอย่าง กูเกิล แอปเปิล และเฟสบุ๊ค กำลังใช้พลังงานสะอาดในการดำเนินระบบแอพพลิเคชันของเรา เน็ตฟลิกซ์กลับยังคงติดอยู่กับพลังงานสกปรกอย่างถ่านหิน
คนดูโทรทัศน์จำนวนมาก กำลังขอให้เน็ตฟลิกซ์เดินตามรอยเท้าของบริษัทเทคโนโลยีสร้างสรรค์บริษัทอื่น ๆ โดยล้มเลิกการใช้พลังงานจากถ่านหิน และให้การชมซีรี่ส์และหนังของพวกเรามาจากพลังงานหมุนเวียน
ร่วมลงชื่อเรียกร้องให้เน็ตฟลิกซ์หันมาใช้พลังงานหมุนเวียนที่เป็นมิตรต่อโลกอย่างเต็มร้อย!
อ่านข้อมูลคะแนนของบริษัทต่างๆ พร้อมคำอธิบาย ในรายงาน Greenpeace’s 2017 Clicking Clean ที่ clickclean.org
แกรี่ คุก เป็นนักรณรงค์อาวุโส ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ กรีนพีซ สหรัฐอเมริกา
ที่มา : www.greenpeace.org/seasia/th/news/blog1/blog/58554