ระวัง!! HPV ไวรัสตัวร้าย ติดต่อทางเพศสัมพันธ์
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ควรต้องระวังไม่ใช่แค่โรคเอดส์ แต่โรค HPV ไวรัสตัวร้ายนี้ก็ไม่ควรไว้วางใจด้วยเช่นกัน เพราะไวรัส HPV เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูกได้ ซ้ำร้ายอาการของโรค HPV ยังสังเกตได้ยาก เรียกได้ว่าหากติดเชื้อ HPV อาจไม่มีอาการแสดงออกของโรคเลยก็ว่าได้ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย เราควรมาเช็กสัญญาณอันตรายของโรค HPV เพื่อให้รู้เท่าทันโรคดีกว่า เช็กซิ คุณมีสัญญาณของโรค HPV ตามนี้หรือเปล่า
HPV อาการเป็นอย่างไร สังเกตได้จากตรงไหนกันนะ ?
1. มีหูดขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณว่ากำลังติดเชื้อ HPV โดยหูดอาจมีลักษณะแตกต่างกันไป เช่น มีลักษณะเป็นตุ่มนูน ตุ่มเรียบแบน เป็นตุ่มสีชมพู หรือเป็นตุ่มสีเนื้อ (ซึ่งสังเกตยากมาก) แต่จะสังเกตได้จากความตะปุ่มตะป่ำของผิวเนื้อ ซึ่งบางคนอาจมีหูดขึ้นไม่มาก แต่บางเคสอาจมีหูดขึ้นหลาย ๆ ตุ่ม มีขนาดเล็กบ้างใหญ่บ้างแล้วแต่เคส ไม่มีอาการเจ็บ
โดยหูดอาจขึ้นได้ทั้งบริเวณช่องคลอด ปากมดลูก อัณฑะ ทวารหนัก ขาหนีบ หรือขาอ่อน ทั้งนี้หูดอาจขึ้นหลังจากมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อ HPV ประมาณ 1-4 สัปดาห์ ขึ้นไป
2. มีอาการคัน แสบร้อนหรือตึงบริเวณที่ติดเชื้อ HPV
3. มีเลือดออกขณะมีเพศสัมพันธ์
4. ตกขาวมีกลิ่นเหม็น
5. ปริมาณตกขาวมากกว่าปกติ
6. ประจำเดือนมาผิดปกติ
7. มีสารคัดหลั่งออกทางช่องคลอด หรือมีเลือดออกทางช่องคลอด ซึ่งอาการนี้อาจพบได้น้อยมาก
8. ท่อทางเดินปัสสาวะอุดตัน อาจมีอาการปัสสาวะขัด (พบได้น้อยมาก)
หูดที่อวัยวะเพศ เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ซึ่งเกิดจากเชื้อ HPV ได้มากกว่าร้อยชนิด คนส่วนใหญ่ได้รับเชื้อหูด ไม่มีอาการและสามารถหายเองได้ แต่หูดบางชนิดสามารถอยู่ได้เป็นปีโดยที่ไม่เกิดอาการ และเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งเชื้อไวรัสหูดจะอาศัยอยู่เซลล์ผิวที่เรียกว่า Sqamous cell ซึ่งพบได้ที่ส่วนบนของผิวหนัง ปากมดลูก ช่องคลอด ทวาร ส่วนปลายของอวัยวะเพศชาย ปากและคอ
การติดเชื้อ human papillomaviruses(HPV) ทำให้เกิดโรคได้มากมายหลายชนิด เช่น หูดที่อวัยวะเพศ มะเร็งปากมดลูก หรือ แผลที่อวัยวะเพศทั้งชายและหญิง เชื้อไวรัสหูดบางชนิดจะทำให้มีโอกาสเป็นมะเร็งได้น้อยเช่น HPVs type 6 และ 11 จะทำให้เกิดโรคหูดที่เรียกว่า condyloma acuminatum ส่วนเชื้อหูดที่อวัยวะเพศหรือทวารหนักซึ่งเกิดจากเชื้อ HPV-16 ,HPV-18 ,HPV-31 ,HPV-35 ,HPV-39 ,HPV-45 ,HPV-51 ,HPV-52 ,HPV-58 จะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ค่อนข้างมาก ทำให้มีโอกาสเกิดมะเร็งค่อนข้างสูง เชื้อดังกล่าวได้แก่ชนิดไม่ว่าเชื้อ HPV ชนิดที่มีความเสี่ยงต่อมะเร็งจะสูงหรือต่ำร่างกายจะกำจัดออกหมดในสองปีประมาณร้อยละ 90 ของคนที่ติดเชื้อ
นอกจากเชื้อ HPV จะทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกแล้วเชื้อนี้ยังทำให้เกิดมะเร็งได้อีกหลายแห่ง เช่น มะเร็งที่อวัยวะเพศชายมะเร็งช่องคลอด มะเร็งท่อปัสาวะ มะเร็งที่ต่อมทอนซิล มะเร็งที่ลิ้น ในเพศชายก็มีโอกาสติดเชื้อนี้พอๆกับเพศหญิงแต่การวินิจฉันอาจจะยากกว่า ประมาณร้อยละ70 ของผู้ป่วยร่างกายจะมีภูมิคุ้มกันและกำจัดเชื้อออกจากร่างกายในหนึ่งปี ประมาณร้อยละ90 จะกำจัดออกหมดในสองปี ยังไม่มียารักษาการติดเชื้อ HPV วิธีที่ใช้รักษาในปัจจุบัน คือ การรักษาเซลล์ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงจากการติดเชื้อ เช่นการกำจัดเอาหูดออก
การป้องกันการติดเชื้อ HPV ที่ดีที่สุดคือการหลีกเลี่ยงหรือสัมผัสผู้ที่ติดเชื้อซึ่งมีวิธีการดังต่อไปนี้
– ฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อHPV ซึ่งสามารถป้องกันการติดเชื้อได้บางชนิดไม่สำส่อนทางเพศ มีสามีหรือภรรยาเพียงคนเดียว
– ไม่มีเพศสัมพันธุ์กับคนที่สำส่อนทางเพศ
– การสวมถุงยางอนามัยก็พอป้องกันได้แต่ไม่ทั้งหมด เนื่องจากการถูไถของผิวหนังก่อนการสวมถุงยางก็สามารถติดเชื้อHPV ได้ และถุงยางก็ไม่สามารถคลุมอวัยวะเพศชายได้ทั้งหมด
การติดเชื้อ HPV ติดจากการร่วมเพศไม่ว่าทางช่องคลอดหรือทางทวารหนัก ไม่ติดต่อทางเลือด หรือติดต่อทางผิวหนัง การติดต่อจากแม่ไปลูก หรือการติดต่อจากปากไปอวัยวะเพศ หรือการสัมผัสภายนอกโดยไม่ได้ร่วมเพศมักจะไม่ติดต่อ
เป็นภัยสุขภาพที่ใกล้ตัวสำหรับนักรักทั้งหลายจริงๆค่ะ ดังนั้นการจะมีเพศสัมพันธ์กับใครสักครั้งหนึ่งที่ไม่ใช่คนรักของตัวเองก็ต้องคิดให้ดีนะคะ เพราะหากพลาดแล้วจะกลับไปแก้ไขไม่ได้แล้วนะจ๊ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : wiki Human_papillomavirus siamhealth.net