หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ระวังดาบสองคม ประกันภัย เร่งเกิด “ฟินเทค” หวั่นซ้ำรอยเมืองผู้ดี

Share แชร์บอร์ด ข่าววันนี้ โพสท์โดย ประกันภัยรถยนต์ ทูเด

ประกันชีวิต อย่าเร่งรีบการเกิด ฟินเทค สำหรับธุรกิจ ประกันชีวิต เพราะไม่เหมือนกับธุรกิจอื่น

ระวังดาบสองคม ประกันภัย เร่งเกิด “ฟินเทค” หวั่นซ้ำรอยเมืองผู้ดี

 ในภาวะที่ทุกภาคส่วนกำลังตื่นเต้นกับจับกระแส ฟินเทค (Fin Tech) หรือ นวัตกรรมทางการเงิน ที่จะมาช่วยให้การทำธุรกรรมในธุรกิจของตนง่ายขึ้น ทั้งฝั่งผู้ซื้อและผู้ขาย โดยเฉพาะภาคธุรกิจ ประกันภัย ขณะนี้ได้ตื่นตัวกับเรื่องนี้กันอย่างมาก โดยผู้ประกอบการหรือบริษัท ประกันภัย ค่ายต่างๆ ต่างพากันปรับทิศทางการนำเสนอขายออนไลน์ หรือแอพพลิเคชั่นกันเป็นจำนวนมาก

แต่ในมุมของนักขาย โดยเฉพาะภาคธุรกิจ ประกันชีวิต กลับมีมุมมองที่แตกต่างออกไปกับกระแสอย่างมากทีเดียว ซึ่งมุมมองจะเป็นอย่างไร อดีตนายกสมาคมประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน (Thaifa) ซึ่งปัจจุบันยังเป็นที่ปรึกษาสมาคมฯ และสวมหมวกอีกใบหนึ่ง โดยเป็นกรรมการบริหารสมาคมที่ปรึกษาการเงินแห่งเอเซียแปซิฟิก (APFinSA)

โดยเปิดเผยว่า ภาครัฐและภาคเอกชนในธุรกิจ ประกันชีวิต อย่าได้เร่งรีบการเกิดอินชัวร์เทค หรือ ฟินเทค สำหรับธุรกิจ ประกันชีวิต เพราะเกรงว่าจะเกิดผลเสียตามมาขึ้น ทั้งนี้ลักษณะเด่นของ ฟินเทค คือ ออกแบบมาให้คนใช้ง่าย ด้วยราคาที่ถูกที่สุด แต่ธุรกิจ ประกันชีวิต ไม่เหมือนกับธุรกิจอื่น ด้วยธุรกิจอื่นเริ่มด้วยคนซื้อต้องการสินค้าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงตัดสินใจไปซื้อ ทันทีที่ซื้อ สามารถใช้บริการได้ทันที หรือผลิตภัณฑ์ที่ได้ตอบสนองความต้องการทันที

แต่ผลิตภัณฑ์ ประกันชีวิต จะตรงกันข้าม เป็นผลิตภัณฑ์ที่คนส่วนใหญ่ไม่ต้องการในตอนต้น ต้องมี “คนกลาง” ซึ่งก็คือ ตัวแทนประกันชีวิต เป็นผู้ไปโน้มน้าวใจให้ซื้อ เมื่อซื้อแล้ว สินค้าที่ได้ยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการทันที คือยังไม่เห็นผล ต้องมีการสูญเสีย หรือกรมธรรม์ครบสัญญาก่อน

ซ้ำร้ายหากซื้อแล้วเกิดเลือกผลิตภัณฑ์ผิดไป ต้องทนจ่ายเบี้ย ประกันภัย ไปอีก 10 ปี 20 ปี ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันไม่ตรงกับเป้าหมายที่ต้องการ จะยกเลิกก็เสียดายเงินที่ส่งมาแล้ว ซึ่งตรงจุดนี้จะต่างกับสินค้าอุปโภคบริโภค ที่เมื่อซื้อแล้วไม่ถูกใจ ครั้งหน้าหรือเดือนหน้าแล้วก็สามารถเปลี่ยนยี่ห้อหรือเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ได้เลย ดังนั้นการตัดสินใจเลือกซื้อ ประกันชีวิต จึงเป็นห้วงเวลาที่สำคัญ ต้องได้รับข้อมูลที่รอบด้านที่สุด ณ เวลานี้ ตัวแทนประกันชีวิต ยังมีความสำคัญที่จะทำหน้าที่นี้อยู่

ถามว่าแล้ว ฟินเทค ที่คิดขึ้นมาเพื่อธุรกิจ ประกันชีวิต ไม่ดีหรือ คำตอบคือดี แต่ต้องเป็น ฟินเทค ที่ช่วยบริหารการหลังการขาย ส่วน ฟินเทค ที่ใช้ในการคลิกซื้อ ประกันชีวิต ต้องใช้เมื่อคนซื้อพร้อม หรือมีความรู้มากพอที่จะเข้าใจว่า เขาจำเป็นต้องมี ประกันชีวิต รองรับความเสี่ยง ด้วยจำนวนทุน ประกันภัย เท่าไหร่ คุ้มครองความเสี่ยงอะไรบ้าง และผลิตภัณฑ์แบบไหนที่เหมาะสมกับตน ออมทรัพย์ ตลอดชีพ หรือแบบพ่วงการลงทุน จะวัดอย่างไรว่า ประชาชนหรือผู้บริโภคพร้อมที่จะใช้บริการ “ฟินเทค” เพื่อซื้อ ประกันชีวิต แล้ว

เพราะประการที่หนึ่ง คนต่างประเทศทันทีที่เรียนจบ เริ่มทำงาน คนกว่าครึ่งตัดสินใจซื้อ ประกันชีวิต ด้วยตนเอง คือเขารู้ความจำเป็นด้วยตนเอง เพราะมันเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของคนในสังคมนั้นแล้ว ว่าทันทีที่ได้รับเงินเดือนเดือนแรก ให้เจียดมาทำ ประกันชีวิต ซึ่งคนตะวันตกส่วนใหญ่จะมีความคิดแบบนี้ ประการที่สอง มีการบรรจุเรื่อง ประกันชีวิต ในหลักสูตรของเด็กนักเรียนตั้งแต่ชั้นประถมเป็นต้นไป ให้พวกเขารู้จักความจำเป็นของการทำ ประกันชีวิต การมีประกันสุขภาพ รับรองเวลาเจ็บป่วย พิการ หรือแม้กระทั่งเสียชีวิต

ประการที่สาม เมื่อ Life Insurance Penetration ขึ้นแตะ 8% คำว่า Insurance Penetration หรืออัตราส่วนของเบี้ย ประกันภัย ต่อจีดีพี อาจอธิบายให้เห็นง่ายๆ ว่า หากคนเรามีรายได้ปีละ 100 บาท พวกเราได้เจียดมาซื้อ ประกันชีวิต 8 บาท ซึ่งค่ามาตรฐานในทางอุดมคติอยู่ที่ 10% แต่ที่ระดับ 8% แสดงให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่หรือสังคมโดยรวม สุกงอมพอดีที่จะซื้อ ประกันชีวิต ได้เอง โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีคนแนะนำก็ได้

โดยตอนนี้ประเทศไทยมี Life Insurance Penetration ที่ 4% ซึ่งกล่าวโดยสรุปก็คือ หากประเทศไทยสามารถมีพัฒนาการช้างต้นข้อใดข้อหนึ่ง ก็สามารถออกแบบ ฟินเทค ให้ประชาชนซื้อ ประกันชีวิต เองได้ ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านเขามีตัวแปรข้างต้นหลายข้อแล้ว เราจึงเลียนแบบเขาทันทีไม่ได้ ต้องรอให้มีเงื่อนไขความพร้อมใกล้เคียงกันก่อน

“การพูดแบบนี้ ก็เสี่ยงที่จะถูกโจมตีว่าดูถูกผู้บริโภค ว่าเขาไม่รู้ของค่าของ ประกันชีวิต แต่อัตราการทำ ประกันชีวิต ต่อหัวของคนไทยยืนยันเช่นนั้น ตามสถิติของสมาคมประกันชีวิตไทย ปัจจุบันคนไทยซื้อกรมธรรม์แล้ว 38% คือ เอาจำนวนกรมธรรม์ ประกันชีวิต ที่มีผลบังคับหารด้วยจำนวนประชากร แต่หากเราพิจารณาให้ลึกซึ้งจะพบว่า คนที่มีฐานะมักซื้อกรมธรรม์ซ้ำสองฉบับขึ้นไป ขณะที่คนระดับกลางถึงล่างลงมามีกรมธรรม์น้อยมาก ดังนั้นตัวเลขของคนที่มีกรมธรรม์จริงๆ อาจจะมีแค่ 25% ก็ได้ ขณะที่คนอีกสามในสี่ไม่มีกรมธรรม์ ประกันชีวิต และก็ยังไม่เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่จะมีความคิดว่า ทันทีที่เรียนจบมีเงินเดือนเดือนแรก จะหักเงินเดือนหรือหักบัตรเครดิตซื้อ ประกันชีวิต แบบรายเดือนเลย เพราะบัณฑิตจบใหม่ยังอาศัยอยู่กับพ่อแม่ ขณะที่ทางตะวันตกเขาจะถูกฝึกมาให้พึ่งพาตนเอง รับผิดชอบตนเองทันทีที่เรียนจบ”

ทั้งนี้ถามว่า ฟินเทค ถูกออกแบบมาให้ซื้อง่าย ราคาถูก น่าจะทำให้คนไทยซื้อ ประกันชีวิต ได้ง่ายขึ้น มันจะไม่ดีได้อย่างไร คำตอบคืนในดีมีเสีย ในเสียมีดี เมื่อมันถูกออกแบบมาให้ซื้อง่าย จึงไม่มีรายละเอียดมากนัก ครั้นถ้าแทรกไอคอนให้คนคลิกอ่านรายละเอียดแบบ ประกันภัย ต่างๆ คนส่วนใหญ่จะอ่านไม่เกินสองหน้าทำให้ขาดความเข้าใจที่ดีพอ

ดังนั้นคนจะเลือกซื้อแบบ ประกันภัย ที่ถูกที่สุด หลังจากจ่ายเบี้ย ประกันภัย ไป 10 ปี 20 ปี เมื่อครบสัญญาจึงรู้ว่าแบบชั่วระยะเวลาไม่มีเงินคืนเลย หากเลือกที่จะแพงมาอีกนิด จ่ายจนถึงอายุ 60 ปีตั้งใจจะเวนคืนกรมธรรม์มาใช้ยามเกษียณ ถ้าเลือกแบบตลอดชีพ เงินที่ได้ก็ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยเหมือนแบบสะสมทรัพย์ หรือแบบบำนาญ ดังนั้นราคาถูกที่สุดจึงไม่ใช่คำตอบ

ถ้าเป็นเรื่องสัญญาเพิ่มเติมอย่างโรคร้ายแรงราคาที่ถูกกว่า คุ้มครองแค่ 6 โรคร้าย แต่แบบที่แพงหน่อย อาจจะคุ้มครองถึง 40 โรคร้าย ดังนั้นคนที่จะซื้อด้วยตนเอง ต้องเข้าใจเงื่อนไขจริงๆ

จุดที่ยังไม่ได้พูดถึงระดับก้าวหน้า ที่อนุญาตให้บริษัทประกันชีวิตขาย ประกันชีวิต แบบหักค่านายหน้าออกไป แล้วให้ลูกค้าบริการตนเอง หากลูกค้าซื้อโดยไม่เข้าใจ อาจไม่ได้แถลงข้อเท็จจริงเรื่องสุขภาพที่ชัดเจนพอ ต่อมาถูกปฏิเสธการจ่ายสินไหม หรือเวลาจะเรียกร้องสินไหม เกิดความยุ่งยากในการรวบรวมเอกสาร เพื่อมาเรียกร้องสินไหม ทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกไม่ดี และรู้สึกว่าบริษัทบ่ายเบี่ยง ยิ่งยุคนี้มีการใช้สื่อประเภทโซเชียลมีเดีย ทำให้อาจมีการโจมตีตามสื่อทั้งๆ ที่เกิดความเข้าใจผิดของตนเอง

สำหรับที่สิงคโปร์ ได้ทดลองให้บริษัท ประกันชีวิต เสนอขายแบบ ประกันภัย อย่างง่าย เช่นแบบชั่วระยะเวลา หรือแบบตลอดชีพที่ไม่มีสัญญาเพิ่มเติม แล้วให้ส่วนลดค่านายหน้ากับคนซื้อ แต่มีตัวอักษรเตือนให้เห็นเด่นชัดว่ากรมธรรม์แบบนี้ไม่มีตัวแทนบริการ แล้วให้เซ็นชื่อรับทราบ ปรากฏว่าหลังจากทดลองใช้ไปหนึ่งปี มีคนซื้อผ่านเว็บไซต์ไม่ถึง 400 กรมธรรม์ หรือไม่ถึง 1% แสดงว่าคนสิงคโปร์ยังเห็นความสำคัญของการบริการ

หรือหากวัดโดย Life Insurance Penetration มีกี่เปอร์เซ็นต์ที่ลดลงอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา เรื่องนี้ภาครัฐต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพราะมันจะส่งผลในระยะยาว ต้องดูว่ามันมีประโยชน์กับคนส่วนใหญ่หรือไม่ หรือมันเป็นประโยชน์เฉพาะกับคนที่เก่งเรื่องเทคโนโลยี ที่จะได้ซื้อในราคาที่ถูกลง แต่กลับผลักคนส่วนใหญ่ให้ห่างไกลจากผลิตภัณฑ์ ประกันชีวิต

ดังนั้น ในช่วงนี้จึงอยากเสนอให้ส่งเสริม ฟินเทค ที่เน้นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ถือกรมธรรม์ก่อน ส่วนแอพพลิเคชั่นที่ใช้ในการซื้อ ประกันชีวิต อาจจะให้ทอดระยะเวลาไปอีกสักระยะหนึ่ง ดูประเทศเพื่อนบ้านเขาใช้ก่อน จากนั้นค่อยมาประเมินความพร้อม ผลดีผลเสียอีกระยะหนึ่งก่อน โดยระหว่างนี้ให้กลับมาเน้นให้การให้ความรู้ เรื่องการซื้อ ประกันภัย ให้เหมาะสมกับความเสี่ยง แทนที่จะซื้อเพียงเท่าที่นำไปหักลดหย่อนภาษี

และควรเสริมแทรกเนื้อหาเรื่อง ประกันภัย เข้าไปในหลักสูตรตั้งแต่ชั้นประถมตอนปลาย เพราะเดี๋ยวนี้การทำ ประกันภัย ทั้งวินาศภัยและชีวิต กลายเป็นเรื่องจำเป็นที่ทุกคนต้องมี แต่กลับกลายเป็นว่าคนไทยต้องเรียนรู้ด้วยตัวเองเมื่อตอนกำลังจะซื้อ ซึ่งถือว่าล่าช้ากว่าประเทศเพื่อนบ้านมาก พร้อมกับพัฒนากฎหมายมารองรับกรมธรรม์แบบใหม่ๆ เช่น กรมธรรม์หุ้นส่วนบริษัท หรือการจัดตั้งทรัสตี เป็นต้น

ขอบคุณที่มา: http://todayinsure.com/
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
วาระแห่งชาติ! เขมรร้อนรนเร่งหาชื่อใหม่แทน สงกรานต์ หลัง UNESCO รับรองสงกรานต์ไทยสตรีมเมอร์ผิวสีสุดห้าว ทำคอนเทนต์เตะเก้าอี้ที่พัทยานักดื่มกระทิงแดง กำลังมองหากระป๋อง ที่มีจุดสีน้ำเงินอยู่ข้างใต้ยลโฉมความงดงามของนครวัดก๊อปเกรดเอจากฝีมือจีน อลังการไม่แพ้นครวัดของกัมพูชา!รพ.แม่ลาน แจง! "บังชาติ"หรือ"แม่หญิงลี" ไม่ได้เป็นบุคลากรรพ.แม่ลาน หลังบุคคลดังกล่าวทำให้เกิดความเข้าใจผิด!แดนเซอร์ "ลำไย ไหทองคำ" หล่อระดับพระเอก..ค่ายเตรียมดันเป็นศิลปินแล้วเเอบเเซ่บ!! เมื่อเมียไม่ชอบกลิ่นเเกงหน่อไม้ ผัวที่ดีก็ต้องเอาไปนั่งกินตรงระเบียง น่าเอ็นดู😆กุนขแมร์โวย! หลัง ‘เสี่ยโบ้ท‘ โพสแจ้งยกเลิกการแข่งขันทั้งหมดกับเขมรกลางดึกJKN ขาดทุน 2,157 ล้านบาท ครั้งแรกในรอบ 10 ปี ธุรกิจคอนเทนต์แผ่ว
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
นักดื่มกระทิงแดง กำลังมองหากระป๋อง ที่มีจุดสีน้ำเงินอยู่ข้างใต้วาระแห่งชาติ! เขมรร้อนรนเร่งหาชื่อใหม่แทน สงกรานต์ หลัง UNESCO รับรองสงกรานต์ไทยJKN ขาดทุน 2,157 ล้านบาท ครั้งแรกในรอบ 10 ปี ธุรกิจคอนเทนต์แผ่วยลโฉมความงดงามของนครวัดก๊อปเกรดเอจากฝีมือจีน อลังการไม่แพ้นครวัดของกัมพูชา!suddenly: ทันใดนั้น
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
นักดื่มกระทิงแดง กำลังมองหากระป๋อง ที่มีจุดสีน้ำเงินอยู่ข้างใต้JKN ขาดทุน 2,157 ล้านบาท ครั้งแรกในรอบ 10 ปี ธุรกิจคอนเทนต์แผ่วนางแบบสาวสวย คิดที่จะเข้าวงการ A.V ต้องการหาเงินใช้หนี้ผบช.สอท. เด้ง ตำรวจ 2 นาย หลัง "ทนายตั้ม" แฉพาดพิงรับส่วย ตั้งกรรมการสอบ ยัน สอท. ไม่ใช่แหล่งรายได้
ตั้งกระทู้ใหม่