เบื่อไหม?? กับอาการร้อนใน(ในช่องปาก)
หน้าร้อนแบบนี้!!!
เชื่อว่าหลายๆคนคงจะเบื่อมากกับอาการร้อนใน แต่!! เดี๋ยวก่อน? อาการร้อนในนั้นเกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน ก่อนอื่นเรามาทราบสาเหตุกันก่อนดีกว่า...
ร้อนในคืออะไร??
ร้อนใน หรือแผลร้อนใน (Apthous ulcer) คือ แผลเปิดภายในช่องปากเกิดจากการแตกของเยื่อเมือก เป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย โดยทางการแพทย์ปัจจุบันยังไม่สามารถระบุสาเหตุอย่างชัดเจนแต่มีหลายปัจจัยที่มักจะก่อให้เกิดอาการร้อนในขึ้น เช่น
- การนอนดึก อดนอนเป็นประจำ ขาดการพักผ่อนที่เพียงพอ ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย
- ความเครียด ความเหนื่อยล้า
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ผู้หญิงในช่วงก่อนประจำเดือนมา หรือผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ มักมีอาการร้อนในเกิดขึ้น
- การแพ้อาหารบางชนิด
- การขาดวิตามินบี 12 ธาตุเหล็ก และกรดโฟลิก
- การสูบบุหรี่
แต่สำหรับทางการแพทย์แผนจีน จะมองว่าอาการร้อนในเกิดจาก “หยินหยาง” ในร่างกายไม่สมดุลกัน หากใครมี “หยิน” พร่อง เมื่อได้รับปัจจัยที่ก่อให้เกิดความร้อนในร่างกาย ก็จะเป็นร้อนในได้ง่าย ซึ่งปัจจัยที่ก่อให้เกิดความร้อนในร่างกายก็อย่างเช่น ทานของมัน ของทอด อากาศร้อน พักผ่อนน้อย
อาการร้อนในเป็นอย่างไร??
คนที่เป็นแผลร้อนใน เริ่มแรกจะมีแผล หรือตุ่มแดงเล็ก ๆ ขึ้นมาในริมฝีปากด้านใน หรือกระพุ้งแก้ม หรือบริเวณลิ้น จากนั้นตุ่มแดง ๆ จะกลายเป็นเม็ดสีขาวมีขอบสีแดงนูนออกมา มีอาการบวม และกลายเป็นแผลที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3 มม. ทำให้เรารู้สึกเจ็บ
แม้ว่าโดยปกติแล้วแผลร้อนในจะไม่ทำอันตรายต่อสุขภาพ แต่ก็ทำให้คนที่เป็น เจ็บปวดและรำคาญไม่น้อยเลย ซึ่งโดยปกติแล้ว แผลร้อนในจะเป็นอยู่ประมาณ 1-2 สัปดาห์
แบบเจ้ากระทู้ที่เจอในหน้าร้อนพอเวลาเจอแดดแรงๆ ตกเย็นหรือช่วงดึกจะมีอาการตัวร้อน(แต่ไม่ได้เป็นไข้)ลมหายใจร้อน เหมือนร่างกายต้องการแผ่ความร้อนที่สะสมออกมาประมาณนั้นค่ะ แล้วจะตามมาด้วยอาการอื่นๆ เช่น ริมฝีปากบวมบ้าง ขึ้นแผลร้อนในบ้างเจ็บปวดมากมายจนตั้งมาตั้งกระทู้ให้อ่านกันซะเลย...
วิธีแก้มีอะไรบ้าง??
วิธีแก้ถ้าจะให้ดีเรามาเริ่มตัดที่ต้นเหตุดีกว่าค่ะ เช่น การควบคุมพฤติกรรมของตนเอง การรับประทานอาหาร การพักผ่อนให้เพียงพอ การลดปัจจัยที่ก่อให้เกิดร้อนใน ดังนี้
-หลีกเลี่ยงอาหารจำพวกของทอด ของมัน ขนม น้ำตาล ทุเรียน ลำไย ข้าวเหนียวมะม่วง ฯลฯ
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสเผ็ดร้อน เช่น กระเทียม หอม ขิง ฯลฯ แต่สามารถทานพริกได้
- รักษาความสะอาดในช่องปากให้ดี แปรงฟันทุกครั้งหลังจากรับประทานอาหารไปแล้วอย่างน้อย 30 นาที ถ้าเป็นไปได้ควรใช้ไหมขัดฟันทุกครั้งหลังอาหารด้วย
- รับประทานผัก ผลไม้ให้มาก ๆ เพื่อให้ร่างกายได้รับแร่ธาตุ วิตามิน อย่างครบถ้วน และจะได้ป้องกันอาการท้องผูก เพราะร้อนในมักเป็นร่วมกับท้องผูก
- ดื่มน้ำให้มาก ๆ ในแต่ละวัน (อันนี้สำคัญมากๆ)
- ลดความเครียดลง เพราะความเครียดเป็นสาเหตุหนึ่งที่สำคัญมากที่ทำให้เกิดร้อนใน
- หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดการหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินออกมาช่วยลดความเครียด(ปัจจัยที่ช่วยลดความเครียด)
- หลีกเลี่ยงการตากแดดจัด ๆ เพราะจะทำให้อุณหภูมิของร่างกายสูงขึ้น
(หลักที่สำคัญที่ควรทำเลย)
ดื่มน้ำและพักผ่อนให้เพียงพอ/ลดความเครียด
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ประสบปัญหาเดียวกัน ดูแลสุขภาพตัวเองด้วยนะคะ