10 เทคโนโลยีของ NASA จากฟ้าสู่ดินสร้างประโยชน์ให้มนุษยชาติ
1. Light-Emitting Diodes (LEDs)
NASA ได้พัฒนา LED ในย่านแสงสีแดงให้ใช้ในการปลูกพืชในสถานีอวกาศ , กระสวยอวกาศ
และต่อมาทางบริษัท Quantum Devices ได้นำมาเป็นต้นแบบในการพัฒนาอุปกรณ์ที่ชื่อว่า WARP-10
ซึ่งรักษาอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ ข้อต่ออักเสบ และยังทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ทำให้เลือด
ไหลเวียนดีขึ้น WARP-10 ยังใช้กับกำลังพลในกองทัพเพื่อใช้ในการรักษาอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อ
สำหรับทหารในแนวหน้า ปัจจุบันนี้กำลังพัฒนาไปเป็นรุ่น WARP-75 สำหรับรักษาอาการทางกระดูก
และโรค Parkinson อีกด้วย
กลไกการรักษาด้วยแสง LED นี้ เรียกว่า Light therapy ทำงานโดยแสงจาก LED สีแดง
ในย่านใกล้ Infrared จะส่งผ่านลงไปถึงระดับ Cells และถูก absorb โดย mitochondria
ทำให้เกิดการกระตุ้นให้มีการ metabolism ที่มากขึ้น Cells ต่าง ๆ จะรักษาตัวเองได้อย่างรวดเร็ว
อาการปวดจะลดลงอย่างรวดเร็วครับ
2. Infrared Ear Thermometers
เครื่องวัดอุณหภูมิแบบ Infrared ได้มีการพัฒนาร่วมกันระหว่าง NASA กับบริษัท Diatek Corp.
อุปกรณ์แบบนี้ใช้หลักการของการแผ่รังสีของวัตถุดำ (Black body radiation) โดยได้พัฒนา
sensor ที่เรียกว่า Thermopile รับการแผ่รังสีจากวัตถุที่ต้องการวัดอุณหภูมิ ซึ่งจะแผ่ออกมา
ในย่าน Infrared และแปลค่าออกมาเป็นอุณหภูมิแสดงค่าเป็นตัวเลขครับ หลักการนี้จะเหมือนกับ
การแผ่รังสีจากวัตถุอวกาศที่มีอุณหภิต่าง ๆ กัน ตั้งแต่วัตถุที่เย็นจัดจนแผ่รังสีในย่านคลื่นวิทยุ
จนถึงวัตถุที่มีพลังงานสูงที่แพร่คลื่นในย่าน Gamma
3. Ventricular Assist Device (VAD)
NASA และ ศูนย์วิจัย MicroMed Technology ได้มีการวิจัยอุปกรณ์ช่วยการทำงานของหัวใจ
สำหรับผู้ป่วยที่รอการเปลี่ยนถ่ายหัวใจ อุปกรณ์นี้จะช่วยเพิ่มอัตราการไหลเวียนเลือดให้มากพอที่ผู้ป่วย
รอดชีวิตอยู่ได้ มันมีขนาดเพียง 1/3 นิ้วเท่านั้น
4. ยาง Radial รถยนต์
NASA และ บริษัทยางรถยนต์ Goodyear ได้ร่วมพัฒนาวัสดุพิเศษที่มีความแข็งแกร่งกว่าใยเหล็กกล้า
ถึง 5 เท่า เพื่อใช้กับระบบร่มลงจอดของยานสำรวจ Vikings วัสดุนี้มีโครงสร้างโมเลกุลที่แข็งแกร่ง
มากเทียบกับน้ำหนัก ต่อมาทาง Goodyear ได้นำวัสดุนี้ไปใช้กับยางรถยนต์ที่มีอายุการใช้งาน
มากกว่ายางทั่วไปถึง 20,000 กิโลเมตร
5. Chemical and smoke detector
ทาง NASA ได้พัฒนา sensor ตรวจจับสารแขวนลอยที่ไวต่อค่า pH โดยนำไปใช้ในอากาศยาน
และ กระสวยอวกาศ เพื่อตรวจจับควัน หรือ ไอทางเคมีที่ผิดปกติ ต่อมาทางบริษัท Intelligent Optical Systems (IOS)
ได้นำไปต่อยอดวิจัยผลิตออกมาเป็น sensor สำหรับตรวจจับการใช้อาวุธเคมี และได้กลายมาเป็น sensor
ตรวจจับไฟไหม้ ตรวจจับแก้สบิวเทน โพรเพน (แก้สหุงต้ม) ที่ใช้ในบ้านเรือนปัจจุบันครับ
6. Solar cell
NASA ได้ร่วมมือกับพันธมิตรทั้งเอกชน และ ภาครัฐรวม 28 ราย เรียกว่า
Environmental Research Aircraft and Sensor Technology (ERAST)
ได้วิจัยและพัฒนา Solar cell สำหรับอากาศยานไร้คนขับซึ่งบินที่บินด้วย Altitude สูงมาก
ต่อมาพันธมิตรทั้ง 28 รายนั้นก็ได้พัฒนาเป็น Solar cell เพื่อใช้ตามบ้านเรือนทุกวันนี้
7. Water Purification
ทีมวิศวกรของ NASA ได้ร่วมมือกับหลายบริษัทวิจัยเรื่องการ recycle น้ำ โดยสร้างอุปกรณ์
ชนิดหนึ่งที่สามารถ recycle น้ำเสียทุกประเภทจากการใช้งานบน ISS เช่น ปัสสาวะ เหงื่อ น้ำล้างหน้า
ล้างเครื่องมือ นำไปเข้าอุปกรณ์ recycle กลับมาเป็นน้ำดื่มได้ และต่อมาทางบริษัทพันธมิตรก็ได้นำ
เทคโนโลยีนี้ไปผลิตต่อยอดอุปกรณ์ในระบบ Water Purification ให้กับหลายพื้นที่ของโลกที่ยังขาดแคลนน้ำครับ
8. Enriched Baby Food
NASA ได้เคยให้ทุนสนับสนุนการวิจัยสูตรอาหารสำหรับการเดินทางในอวกาศเป็นเวลานาน
โดยใช้สารสกัดจากสาหร่ายบางสายพันธ์ ต่อมา อาหารสูตรนี้ก็ได้มีการวิจัยต่อยอดมาอีก
จนมีการค้นพบสารสกัด DHA (Docosahexaenoic acid) และ ARA (Arachidonic acid)
ซึ่งเมื่อนำมาเติมลงในนมผง ทำให้นมนั้นมีคุณสมบัติคล้ายนมแม่มากที่สุด และยังได้
มีการเติม DHA - ARA ลงในอาหารเด็กในหลายสูตรมากครับ
9. Freeze Drying Technology
จากการวางแผนเดินทางในอวกาศเป็นระยะเวลานาน ทาง NASA ได้ร่วมมือกับ Nestle คิดค้นวิธีการ
Freeze drying นี้ขึ้นมาสำหรับเตรียมอาหารของนักบินอวกาศในรูปแบบพกพาได้ง่าย น้ำหนักเบา
การ freeze drying นี้ทำโดยลดอุณหภูมิของชิ้นอาหารลงในสภาวะสูญญากาศ กระบวนการนี้จะช่วย
รักษาคุณค่าทางอาหารได้มากถึง 98% โดยน้ำหนักลดลงไปถึง 80% ปัจจุบันนี้ การ freeze drying
ถูกนำมาใช้กับผลิตภัณฑ์อาหารต่าง ๆ หลากหลายเป็นเรื่องปกติครับ
10. Cordless tools
ในโครงการ Apollo และ Gemini ทาง NASA ได้ร่วมมือกับบริษัท Black & Decker พัฒนาเครื่องมือ
แบบไร้สายขึ้น โดยออกแบบเครื่องมือช่างที่สามารถใช้บนยานได้โดยไม่ต้องมีสายไฟเสียบปลั๊กให้ยุ่งยาก
และที่สำคัญ คือ ต้องการเครื่องมือที่สามารถเก็บตัวอย่างดินบนดวงจันทร์โดยใช้แบตเตอรี่ และ มอเตอร์
ที่กินไฟน้อย นั่นคือที่มาของสว่านไฟฟ้าแบบไร้สาย และ เครื่องดูดฝุ่นแบบไร้สายครับ