พระโคโดะ นิชิมุระ(Kodo Nishimura) ผู้เป็นทั้ง “พระ” และ “ช่างแต่งหน้า” ฝีมือเยี่ยม 0 . 0
พระภิกษุชาวญี่ปุ่นรูปหนึ่งนอกจากจะทำหน้าที่ของพระแล้ว ท่านยังมีวิถีชีวิตอีกแบบในแบบที่ต่างออกไปอย่างสุดขั้วนั่นคือการเป็น “ช่างแต่งหน้า”
พระรูปนี้คือ “พระโคโดะ นิชิมุระ” ท่านออกบวชเมื่อปี 2015 แรงบันดาลใจที่ทำให้ท่านหันมาเป็นช่างแต่งหน้านั้น เพราะท่านได้ไปช่วยเพื่อนแต่งหน้า และพบว่าเพื่อนของท่านดูสวยและมีความสุข เมื่อท่านเห็นเพื่อนมีความสุขตัวท่านเองก็มีความสุขมากเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม อาชีพช่างแต่งหน้าของพระโคโดะ นิชิมุระดูจะขัดแย้งกับวัตรปฏิบัติของพระที่ปกติแล้วจะสงบเสงี่ยม และไม่แต่งตัวด้วยสีสันฉูดฉาด แน่นอนว่า มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิดที่จะปฏิบัติหน้าที่ใน 2 รูปแบบและแนวทางที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงได้โดยไม่เกิดเสียงวิจารณ์หรือคำติฉินนินทา พระโคโดะ นิชิมุระเผยว่า “ตนถูกสงสัยมาตลอดเวลาเกี่ยวกับเรื่องการเป็นทั้งพระและช่างแต่งหน้าในเวลาเดียวกัน จนตัวเองรู้สึกท้อแท้และสับสน” แต่พระพี่เลี้ยงที่คอยให้คำปรึกษาบอกเสมอว่า "ไม่ใช่เรื่องผิดถ้าสิ่งที่ทำมันจะช่วยส่งสารที่เราต้องการจะสื่อในสิ่งดี ๆ ไปยังผู้คนได้ ก็ถือเป็นการปฏิบัติธรรมเพราะสารที่สื่อไปก็จะทำให้ผู้คนได้พบกับความสุข"
นอกจากนี้ พระโคโดะ นิชิมุระ ยังได้เป็นหนึ่งในตัวแทนถ่ายแบบกับโปรเจคท์ Out in Japan เพื่อประกาศตนว่าอยู่ในประเภทกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ) นอกจากจะเข้าร่วมกับองค์กรสนับสนุมกลุ่มชาวสีรุ้ง
พระโคโดะ นิชิมุระยังได้ให้คำปรึกษาแนะนำเรื่องการแต่งหน้าให้กับกลุ่มบุคคลเหล่านี้อีกด้วย หลังจากนั้นยังได้มีโอกาสจัดสัมมนาอบรมเรื่องการแต่งหน้าฟรีให้กับกลุ่มชาวสีรุ้งของประเทศญี่ปุ่นเพื่อส่งเสริมให้กลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศได้แสดงออกผ่านการแต่งหน้า
พระโคโดะ นิชิมุระ กล่าวว่า ในฐานะที่เป็น “พระ” ตนอยากให้ทุกคนมีความสามัคคีปรองดองกัน และในฐานะ “ช่างแต่งหน้า” ตนก็เชื่อว่าการแต่งหน้าเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ทำให้ตัวเรามีความสุข เมื่อเรามีความสุข เราก็จะเผื่อแผ่ความสุขนั้นไปยังคนอื่น ๆ และยืนยันว่าจะไม่หยุดทำในสิ่งนี้ต่อไป “ถ้าหากตัวเราเองไม่มีความสุข แล้วเราจะทำให้คนอื่นมีความสุขได้อย่างไร”
ฝีมือการแต่งหน้าของพระโคโดะ นิชิมุระนั้นจัดว่าไม่ธรรมดา ท่านมีชื่อเสียงทั้งในประเทศญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา เคยแต่งหน้าให้กับผู้เข้าประกวด Miss USA และ Miss Universe มาแล้ว
พระของญี่ปุ่นแตกต่างจากพระของไทย ทั้งนี้ พระภิกษุของญี่ปุ่นบางนิกายสามารถแต่งงานและมีครอบครัวได้ ขณะที่ชาวญี่ปุ่นก็เห็นว่าพระเป็นอาชีพหนึ่ง ที่เป็นผู้ประกอบพิธีกรรมให้กับศาสนิกชนเท่านั้น ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะไม่ได้นับถือศาสนาใดศาสนาหนึ่งอย่างเป็นทางการ แต่ศาสนาที่มีบทบาทต่อวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นมากที่สุด คือ ลัทธิชินโต และ ศาสนาพุทธ
ชาวญี่ปุ่นจะสักการะทั้งศาลเจ้าและวัดโดยไม่ยึดติดกับความเชื่ออย่างใดเพียงอย่างเดียว ด้วยสังคมที่เร่งรีบ และเคร่งเครียดทำให้ผู้คนต้องการที่พึ่งทางจิตใจมากขึ้น
พระญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยนอกจากจะทำหน้าที่เป็นผู้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาแล้ว ยังประกอบอาชีพอื่น ๆ ควบคู่กันไปด้วย เช่น เป็นอาจารย์สอนชงชา เป็นอาจารย์สอนจัดดอกไม้ หรือประกอบธุรกิจต่าง ๆ ดังนั้นพระญี่ปุ่นจึงมีชีวิตที่เหมือนกับประชาชนทั่วไป
ตามคติของพุทธศาสนาแบบไทย ผู้ออกบวชคือ “ผู้ที่สละแล้วซึ่งทางโลก” หากแต่พระญี่ปุ่นจำนวนหนึ่งกลับคิดว่า การช่วยชาวบ้านให้คลายทุกข์เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งของพระ แทนที่จะปลีกวิเวกเพื่อแสวงหาความสงบและสันโดษส่วนตัว พระเหล่านี้จึงเลือกที่จะอยู่ร่วมและเป็นที่ปรึกษาให้กับชาวบ้าน
ใครสนใจติดตามผลงานการแต่งหน้าของพระโคโดะ นิชิมุระ เข้าไปที่อินสตาแกรม https://www.instagram.com/kodinza/