DSI เรียก 40 แกนนำวัดพระธรรมกายรายงานตัว-เข้าตรวจสอบใบสุทธิพระทั้งวัด-คุมตัวพระเณรลูกศิษย์สอบจัดตั้งที่ประท้วงแห่งใหม่
พระวัดธรรมกายแถลงเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2560 โดยไม่มี พระสนิทวงศ์ วุฒิวังโส ผู้อำนวยการสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย
เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2560 พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ มีหนังสือแจ้งให้แกนนำ 40 คนมารายงานตัวที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 จ.ปทุมธานี นอกจากนี้ยังมอบหมายให้สำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วยเจ้าคณะอำเภอคลองหลวง เข้าไปตรวจสอบใบสุทธิพระสงฆ์ภายในวัดทั้งหมด
พ.ต.ต.วรณัน เปิดเผยว่าจากการข่าวพบว่า การจัดตั้งมวลชนบริเวณตลาดกลางคลองหลวง มีความพยายามจะยกระดับการชุมนุมขึ้น ทำให้เจ้าหน้าจริงจังในการเรียกบุคคลที่อยู่เบื้องหลังมารายงานตัว อีกทั้งมีข้อมูลว่า มีความพยายามใช้มวลชนลอบเข้าในพื้นที่ในช่วงดึก เจ้าหน้าที่จึงสกัดกั้นตามขั้นตอน เนื่องจากวัดพระธรรมกายเป็นพื้นที่ควบคุม
“จากนี้ในส่วนของสำนักพุทธฯ และหน่วยที่เกี่ยวข้อง ทางฝ่ายสงฆ์จะใช้มาตรการเชิงรุกมากขึ้นในการปฎิบัติ เช่น การตรวจสอบใบสุทธิบัตร หากอ้างไม่มีใบหรือตรวจไม่พบจะถูกดำเนินคดีในฐานแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์”รองโฆษกดีเอสไอกล่าว
นอกจากนี้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษมอบหมายให้นายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เรียกข้าราชการในสังกัดและผู้ที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายเกี่ยวข้องการขัดขวางการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่มารายงานตัวด้วย
แกนนำ 2 รายเข้ารายงานตัว
ต่อมา พ.ต.ต.วรณัน เปิดเผยว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 3 มีนาคม นางกชกร ไชยวาน และ นายพยุง อุณหิต เข้ารายงานตัวกับดีเอสไอแล้ว หลังดีเอสไอพบพฤติการณ์บุคคลทั้งสองเป็นแกนนำ และขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่วัดพระธรรมกาย จากการสอบปากคำ นางกชกร ให้การว่า ปกติมาค้าขายน้ำผลไม้ใกล้พื้นที่วัดพระธรรมกาย และบางครั้งก็ให้อาหารและน้ำดื่มกับกลุ่มลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นแกนนำมวลชนในการเคลื่อนไหวคัดค้านมาตรา 44
อย่างไรก็ตาม หลังสอบปากคำและทำความใจเสร็จเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ได้ปล่อยตัวทั้งคู่กลับทันที และขอความร่วมมือระหว่างที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ห้ามบุคคลทั้งคู่กลับเข้ามาบริเวณพื้นที่ดังกล่าวอีก
เรียกแกนนำพบฐานขัดขวาง ม.44
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 มีนาคมเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ พร้อม ทหาร นำหนังสือตามคำสั่งหัวหน้าคณะ คสช. ที่ 5/2560 เรื่อง มาตรการให้อำนาจกำหนดพื้นที่ควบคุมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมาย มอบให้ตัวแทนศิษยานุศิษย์ไปเชิญตัว นายวุฒิสาร พนารี หนึ่งในแกนนำคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายที่ปักหลักชุมนุมอยู่บริเวณตลาดกลางคลองหลวง เพื่อเข้ารายงานตัวกับ พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล ผบ.สำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ที่กองบังคับการตำรวจตะเวนชายแดนภาค 1 (บก.ตชด.ภ.1) ภายในวันที่ 7 มี.ค. 2560 เวลา 13.00 น.
เจ้าหน้าที่เห็นว่า นายวุฒิสาร มีการขัดขวาง หรือฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ หากผู้ใดขัดขวาง หรือฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หลังจากเจ้าหน้าที่แสดงเอกสารให้ นายวุฒิสาร พนารี รับทราบ ก่อนเจ้าตัวได้ลงนามรายชื่อและจะเดินทางไปให้ปากคำด้วยตนเองในวันที่ 5 มี.ค. นี้ที่ บก.ตชด.ภ.1
ตำรวจเรียกแกนนำปลุกระดมกว่า 40 คนเข้าพบ
ทางด้าน พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษเตรียมเรียกแกนนำปลุกระดมมวลชนวัดพระธรรมกายประมาณ 30 - 40 คน เข้าพบพนักงานสอบสวน ส่วนจะเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่ ขอให้ดีเอสไอเป็นผู้ชี้แจง
ผบช.ภ. 1 เปิดเผยว่าตำรวจมีการตรวจสอบการข่าวกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมปลุกระดมมวลชนทั้งในและนอกประเทศมาอย่างต่อเนื่อง และขณะนี้การตรวจสอบพบว่า มวลชนค่อนข้างคงที่แต่เพื่อความไม่ประมาท ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ได้สั่งการให้ตำรวจทุกพื้นที่ สอดส่องเรื่องการนำพระสงฆ์ และศิษยานุศิษย์ เข้ามาในพื้นที่เพิ่มเติม
สำหรับกำลังตำรวจที่รักษาความปลอดภัยบริเวณโดยรอบวัดพระธรรมกายพล.ต.ท.ชาญเทพ กล่าวว่า จะสับเปลี่ยนกำลังตามปกติ แทนกำลังพลที่อ่อนล้า พร้อมกับเชื่อมั่นว่า พระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ยังอยู่ภายในวัด
ไม่ให้ประกันตัวพล.ต.ต.รุ่งโรจน์
พล.ต.ท.ชาญเทพเปิดเผยว่าจะไม่อนุญาตให้ประกันตัว พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ เภกะนันท์ อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งถูกทหารควบคุมตัวได้ ขณะขับรถเข้าไปบริเวณเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ ใกล้วัดพระธรรมกาย พร้อมยึดของกลางเสื้อเกราะ, มีด และป้ายข้อความแสดงความเสียใจต่อกรณีการเสียชีวิตของ นายอนวัช ธนเจริญณัฐ อายุ 64 ปี ซึ่งเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกคำสั่ง คสช. มาตรา 44 ที่ประกาศให้บริเวณโดยรอบ และวัดพระธรรมกาย เป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษ หลังมีการดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว
“จากการตรวจสอบพบมีประวัติ เคยบวชที่วัดพระธรรมกายด้วย”ผบช.ภ.1 กล่าว
คุมตัวพระเณร 10 รูปเตรียมสถานที่ชุมนุมแห่งใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำกำลังเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ และทหารบุกค้นโกดังในตลาดป้าเช็งใกล้ตลาดไท ควบคุมตัวพระและเณร รวมประมาณ 10 รูป พร้อมศิษย์วัดพระธรรมกายอีกประมาณ 10 คน หลังสืบทราบว่า กำลังจัดเตรียมสถานที่เพื่อใช้เป็นสถานที่ชุมนุมแห่งใหม่ของคณะศิษย์ที่ตลาดกลางคลองหลวง
เบื้องต้นจากการตรวจสอบโกดังดังพบการติดไฟ ติดกล้องวงจรปิด นำเอาถังน้ำขนาดใหญ่มาวางซ้อนกันและตั้งเป็นแนวกำแพง และใช้สแลนพลาสติกขึงเป็นแนวพื้นที่ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เชิญพระ เณรและลูกศิษย์ทั้งหมดขึ้นรถบรรทุก 6 ล้อของทหาร นำตัวไปสอบที่ บก.ตชด.ภ.1 พร้อมยึดอุปกรณ์ทั้งหมดไปด้วย