เมื่อฉันลดปริมาณการออกกำลังกายลงครึ่งหนึ่ง เป็นระยะเวลาหนึ่งเดือน มาดูผลลัพธ์กัน!
ในฐานะครูฝึกสอนการออกกำลังกายวัย 20 ปลายๆซึ่งตกหลุมรักความรู้สึกของการมีสุขภาพดีและสัดส่วนกระชับ การบริหารร่างกายเป็นประจำจึงกลายเป็นส่วนสำคัญและกิจวัตรประจำวัน&สัปดาห์ของชีวิตฉันไปซะแล้ว แต่ฉันจะเป็นคนแรกที่ยอมรับว่าการตามหาแรงจูงใจในการออกกำลังกายไม่ใช่เรื่องสนุกที่สุดในโลก นอกจากนี้ฉันยังรู้สึกค่อนข้างเป็นทุกข์หลังจากที่ออกกำลังกายหนักเกินไปอีกด้วย ล่าสุดฉันเพิ่งลดปริมาณการออกกำลังกายจากสัปดาห์ละ 6 ครั้งเหลือแค่ 3 ครั้งและนี่คือผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
ทุกวันนี้ฉันยุ่งอยู่กับการทำงานโปรเจกต์ การเขียนบทความฟรีแลนซ์ และการฝึกสอนการออกกำลังกาย ดังนั้นการลดปริมาณการออกกำลังกายลงน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการทำให้มีเวลามากขึ้น ทว่าฉันกลับรู้สึกกลัวเล็กน้อยกับการสูญเสียกล้ามเนื้อและพลังงานบางส่วนของร่างกายที่ได้จากการออกกำลังกายทุกวันไป ฉันไม่ได้ออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักแต่เพื่อช่วยรักษาสมดุลของพฤติกรรมการรับประทานอาหาร ในหนึ่งสัปดาห์จะประกอบไปด้วยการออกกำลังกายโดยใช้บาร์ 4-5 ครั้งบวกกับกิจกรรมอื่นๆในช่วงวันหยุด เช่น การเดินป่า ขี่จักรยาน หรือเล่นกีฬาทางน้ำ ฉันอาศัยอยู่ในซานฟรานซิสโกและปกติฉันจะเดินประมาณวันละ 2.5 ไมล์หรือ 15 ไมล์ต่อสัปดาห์ สิ่งแรกที่สังเกตได้หลังจากที่ลดปริมาณการออกกำลังกายลงคือฉันรู้สึกหิวน้อยลง อาจจะเป็นเรื่องบังเอิญแต่ดูเหมือนว่าฉันจะอยากของหวานน้อยลงด้วย จากการอ่านหนังสือทำให้ฉันรู้ว่าการออกกำลังกายจะทำให้ความอยากอาหารขยะและของหวานเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากร่างกายพยายามที่จะชดเชยปริมาณแคลอรี่ที่สูญเสียไป มิน่าล่ะหลังออกกำลังกายทีไรฉันถึงอยากกินขนมเค้กทุกที!
สัปดาห์ที่ 2 : ออกกำลังกายหนักขึ้น
การออกกำลังกายโดยใช้บาร์เหลือแค่ 2 ครั้งต่อสัปดาห์บวกกับการเดินเล่นรอบเมืองเป็นประจำและการทำกิจกรรมต่างๆในช่วงวันหยุดทำให้ฉันสังเกตเห็นประโยชน์ใหม่ๆที่เกิดขึ้น นั่นคือฉันจะออกกำลังกายในชั้นเรียนหนักกว่าแต่ก่อนมาก การออกกำลังกายสัปดาห์ละ 5-6 ครั้งทำให้ฉันแทบมองไม่เห็นความคืบหน้าเลยเนื่องจากฉันรู้สึกปวดเมื่อยตัวอยู่ตลอด แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกแข็งแรงขึ้นแล้ว
สัปดาห์ที่ 3 : มีสมาธิและความสมดุล
เมื่อเข้าสู่สัปดาห์ที่สามของการทดลอง ปรากฏว่าฉันยังรู้สึกดีอยู่ ระดับพลังงานคงที่ การนอนหลับดีขึ้น (ปวดเมื่อยน้อยลง!) และที่สำคัญฉันมีความสุขกับการออกกำลังกายในทุกสัปดาห์ที่เหลือด้วย นอกจากนี้ฉันยังรู้สึกว่าประสิทธิภาพในการทำงานของตัวเองดีขึ้นและฉันไม่จำเป็นต้องหยุดเพื่อไปออกกำลังกายอีกต่างหาก ขณะที่ในส่วนของสมาธิก็เป็นเรื่องสำคัญมากกับการหลีกเลี่ยงการใช้ชีวิตอยู่หน้าจอ เมื่อปราศจากโทรศัพท์ฉันจะคิดถึงช่วงเวลาของการเข้าสังคมซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับผู้ที่ออกกำลังกายตามลำพัง
สัปดาห์ที่ 4 : มีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อย
แม้ว่าฉันจะรู้สึกกังวลเกี่ยวกับการสูญเสียกล้ามเนื้อหรือรูปร่างไปหลังจากที่ลดปริมาณการออกกำลังกายลงครึ่งหนึ่ง แต่ขนาดเสื้อผ้าของฉันกลับพอดีตัว จะว่าไปหลวมนิดหน่อยด้วยซ้ำ ฉันคิดว่าน่าจะเป็นเพราะกล้ามเนื้อบางส่วนของฉันหายไป (โดยเฉพาะก้น!) และการรับประทานอาหารน้อยลง
การทดสอบเพียงหนึ่งเดือนย่อมแตกต่างจากการทดสอบระยะยาว แต่ฉันกลับรู้สึกมั่นใจมากกับการปฏิบัติตามตารางใหม่และ “ไม่” สติแตกถ้าไม่สามารถออกกำลังกายได้บ่อยตามที่ต้องการโดยเฉพาะในช่วงเวลายุ่งๆหรือขณะที่กำลังเดินทาง ฉันเปิดใจยอมรับการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆและพยายามออกกำลังกายในรูปแบบที่ต่างไปจากเดิม รวมถึงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและตารางการนอนเพื่อก้าวไปตามทางสู่ความสมดุลและความสำเร็จ
Blogger : Krista Gray
Source : brit.co