โฆษกรัฐบาลชี้ให้ดูต้นเหตุใช้ม.44 วัดพระธรรมกายต้องการเฉพาะ“อาชญากร”แต่ดึงศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้อง
พล.ท.สรรเสิญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2560 พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่เครือข่ายผู้นำองค์กรพุทธจาก 40 ประเทศ ได้ประชุมร่วมกันที่ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 23 ก.พ.60 รวมทั้งศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายและพระภิกษุสงฆ์ไทยบางรูป เรียกร้องให้รัฐบาลไทยยกเลิกการใช้มาตรา 44 ต่อวัดพระธรรมกายและวัดต่างๆ ในศาสนาพุทธ พร้อมถอนกำลังที่ล้อมวัดและงดใช้ความรุนแรง ว่า
“อยากให้ผู้ที่เรียกร้องทุกคนและประชาชนทั่วไปได้ศึกษาทบทวนดูว่า ต้นเหตุที่ คสช.ต้องใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งที่ 5/2560 นั้นเกิดจากอะไร เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการเมืองหรือศาสนา แต่เป็นเรื่องของพระสงฆ์ที่กระทำความผิดเป็นอาชญากรแต่ไม่ยอมรับกฎหมาย และยังพยายามนำเรื่องของตนไปผูกโยงกับศาสนา เพื่อสร้างกระแสปลุกระดมมวลชนให้ออกมาปกป้องตนเองและกดดันเจ้าหน้าที่ไม่ให้สามารถเข้าจับกุมตัวในวัดได้ จึงต้องแยกแยะให้ชัดเจนระหว่างเรื่องศาสนากับการกระทำผิดกฎหมาย”
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า จากการติดตามข้อมูลของทางการยังพบด้วยว่า มีการเกณฑ์พระสงฆ์จากต่างจังหวัดและประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาเป็นกำลังเสริมเพื่อต่อต้านเจ้าหน้าที่ ทั้ง ๆ ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนทางกฎหมายอย่างดีที่สุด ตั้งแต่การเจรจาและขอเข้าตรวจค้นตามคำสั่งศาล แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือ หนำซ้ำยังถูกขัดขวางทุกวิถีทางจนสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดความรุนแรง จึงมีความจำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษเข้าควบคุมพื้นที่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้อย่างราบรื่นและป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ดีเอสไอและตำรวจยังคงใช้กฎหมายปกติเข้าตรวจค้น โดยมีทหารเป็นผู้รักษาความเรียบร้อยอยู่ภายนอกเท่านั้น
“ขณะนี้อยู่ระหว่างการค้นหาตัวผู้กระทำผิด ซึ่งมีความผิดฐานสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และรับของโจร พร้อมพวกรวม 5 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ใช้ความระมัดระวังอย่างสูงสุด ไม่มีการพกพาอาวุธเข้าไปในบริเวณวัด โดยคำสั่งดังกล่าวใช้ควบคุมเฉพาะวัดพระธรรมกาย ไม่เกี่ยวกับวัดอื่นในศาสนาพุทธ และไม่มีการใช้ความรุนแรงที่เกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐตามที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด” พลโทสรรเสริญกล่าว
ดังนั้นรัฐบาลจึงอยากเรียกร้องให้เครือข่ายผู้นำองค์กรพุทธทั่วโลกได้ไตร่ตรองข้อเท็จจริงดังกล่าว เพื่อไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองของอาชญากร และอยากให้สื่อมวลชนได้ทำความเข้าใจในจุดนี้และช่วยกันตีแผ่ความจริงให้สังคมโลกได้รับรู้ แทนการรายงานข่าวเหตุการณ์กระทบกระทั่งรายวัน ที่ทำให้ประชาชนหลงคิดไปว่าวัดพระธรรมกายทำถูก แต่เจ้าหน้าที่กลับเป็นฝ่ายผิดเสียเอง
สถาบันสิทธิมนุษยชนฯ มหิดลร้องยุติ ม.44
เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2560 เวลาประมาณ 23.00 น. สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา ม.มหิดล เผยแพร่แถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊ก มีเนื้อหาเรียกร้องให้คสช. ยุติการใช้อำนาจตามมาตรา 44 เนื้อหามีดังนี้
จากกรณีการใช้อำนาจตามมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 4) พุทธศักราช 2560 ในรอบหนึ่งเดือน ได้แก่ คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ คำสั่ง 4/2560 เรื่อง การเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 105/2557 คำสั่ง 5/2560 เรื่อง มาตรการให้อำนาจกำหนดพื้นที่ควบคุมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย คำสั่ง 6/2560 เรื่อง การแต่งตั้งนายกเมืองพัทยา คำสั่ง 7/2560 เรื่อง การปรับปรุงระบบพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ คำสั่ง 8/2560 เรื่อง การขับเคลื่อนการปฏิรูปการบริหารงานส่วนบุคคลท้องถิ่น คำสั่ง 9/2560 เรื่อง การดำเนินโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองลาดพร้าวและคลองเปรมประชากรเพื่อแก้ไขปัญหาการบุกรุกลำน้ำสาธารณะ คำสั่ง 10/2560 เรื่อง การปรับปรุงการบริหารงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย คำสั่ง 11/2560 เรื่อง การกำกับการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานของรัฐ และคำสั่ง 12/2560 เรื่อง การกำหนดตำแหน่งและแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตําแหน่ง นั้น
สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล เห็นว่า
1. การใช้อำนาจตามมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 4) พุทธศักราช 2560 ในลักษณะดังกล่าวมีความพร่ำเพรื่อและไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนอันควรที่จะใช้อำนาจตามมาตราดังกล่าว อีกทั้ง ในหลายกรณีรัฐบาลและหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ยังสามารถดำเนินการบังคับใช้มาตรการตามกฎหมายทั่วไปหรือขั้นตอนตามกฎหมายปกติได้
2. การใช้อำนาจตามมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 4) พุทธศักราช 2560 เป็นการใช้อำนาจที่เผด็จการและขัดกับหลักนิติธรรม ถึงแม้ว่าการใช้อำนาจตามมาตราดังกล่าวจะเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ แต่ขาดการตรวจสอบถ่วงดุลและขาดความชอบธรรมในกระบวนการออกฎหมาย
3. ขอเรียกร้องให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติยุติการใช้อำนาจตามมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 4) พุทธศักราช 2560
สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา
25 ก.พ. 2560