หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

14 คดีคู่รักสยองขวัญในวันวาเลนไทน์ !!! (ตอนที่ 2 )

โพสท์โดย sickpack
คดีที่ 3 เอารักเก่าหั่นเก็บไว้ ส่วนรักใหม่ไปหาในคุก !


"สตีเฟน แกรนท์" และ "ท่ารา" ภรรยาสาว
ในวันวาเลนไทน์ของปี ค.ศ. 2007 ณ สถานีตำรวจเมืองมาคอมบ์รัฐวอชิงตันประเทศสหรัฐอเมริกา สตีเฟน แกรนท์ เดินเข้ามาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าภรรยาของเขาหายไป แต่สามสัปดาห์ต่อมาศพของเธอก็ถูกพบในโรงรถของสตีเฟนนั่นเอง ภรรยาของเขาชื่อทารา ลินน์ อายุ 34 ปี ซึ่งถ้ามองกันด้วยตรรกะแบบตำรวจแล้ว คนร้ายมันก็ไม่น่าจะใช่ใครที่ไหนไกล เพราะลองเธอเสียชีวิตในโรงรถของบ้านสามีแบบนั้น คนร้ายก็ต้องไม่พ้นสตีเฟนนั่นเอง
 
แต่สิ่งที่ยิ่งกว่านั้นก็คือ ในช่วงเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนสตีเฟนก่อนจะมาพบศพนั้น เขาบอกว่านอกจากภรรยาของเขาจะหายไปแล้ว ก็ยังมีแม่และลูก ๆ อีกสองคนที่หายไปตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ด้วยเช่นกัน และเขาก็ยังบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกว่า ภรรยาของเขาน่าจะแอบกลับไปทำงานเดิมที่บ้านเกิดในเปอโตริโก้ และยังทะเลาะกับเขาก่อนที่เจ้าตัวจะขึ้นรถลึกลับสีดำสนิทจากไป

 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ก็พบศพเพิ่มเติมอยู่ภายในบ้านของเขา ซึ่งศพที่ว่านี้ก็มีแต่เพียงชิ้นส่วนของร่างกายบางส่วน และพบอีกหลายส่วนอยู่ในบริเวณป่าใกล้ ๆ สวนสาธารณะสโตนีครีคเมโทรพาร์ค ซึ่งสตีเฟนเองก็ยังไม่ยอมรับสารภาพ ทั้ง ๆ ที่พบซากศพอยู่ทนโท่แบบนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องควบคุมตัวของเขาเอาไว้ก่อน
 
เพราะก่อนที่พวกเขาจะพบศพเหล่านี้ สตีเฟนนั้นดูเหมือนกับสามีผู้รักภรรยาเป็นอย่างมาก มันทำให้พวกเขาเองก็ยังไม่แน่ใจว่าสตีเฟนจะเป็นคนร้ายจริง ๆ หรือเปล่า แถมยังพบจดหมายติดต่อจากภรรยาหลังที่เธอทิ้งเขาไป ว่ามันมาจากสถานที่หนึ่งในเปอโตริโก้ ซึ่งแน่นอนว่าในภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พบว่าทั้งหมดนั้น มันเป็นเพียงจดหมายที่สตีเฟนทำปลอมขึ้นมาเพื่อใช้เป็นหลักฐานปลอมทั้งสิ้น



แถมสตีเฟนยังบอกกับเจ้าหน้าที่ตลอดในช่วงการสอบสวนว่า เขารู้ว่าภรรยาของเขานั้นกำลังแอบมีกิ๊ก ซึ่งกิ๊กคนนั้นก็คือชายหนุ่มที่ทำงานที่เดียวกับเธอ แถมยังพูดยืนยันกับตำรวจอีกว่า ให้เอาหัวของเขาเป็นประกันกับเรื่องนี้ได้เลย นั่นก็ยิ่งทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเริ่มสับสน มองว่ามันก็เป็นไปได้ที่ทาร่าภรรยาของเขาจะแอบเดินทางกลับมา แล้วเกิดไปพบกับคนร้ายตัวจริงเข้าที่บริเวณใกล้บ้าน ซึ่งก็เป็นไปได้ว่าเธอถูกคนร้ายฆ่าแล้วซ่อนศพเอาไว้ เพียงแต่มันก็ยังมีพิรุธที่จะต้องพิสูจน์กันต่อ

 

แต่เพราะสตีเฟนยืนยันกันขนาดนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงใจอ่อนพาตัวเขาไปตรวจสอบภายในบ้านอีกครั้ง แล้วอยู่ดี ๆ สตีเฟนก็เผ่นหนีไปเลยเสียดื้อ ๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เลยต้องเหนื่อยตามหาตัวเขาจนทั่วบริเวณ ไม่ว่าจะพยายามติดต่อกับญาติพี่น้องรวมไปถึงบ้านเพื่อน ไม่เว้นแม้แต่บ้านของทนายความของเขา

และทางเจ้าหน้าที่นายอำเภอมาร์ค แฮ็กเคลเองก็ยังบอกกับนักข่าวว่า “ทุก ๆ สิ่งที่สตีเฟนกระทำ รวมไปถึงสิ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบ มันก็ไม่ได้หมายความว่าสตีเฟนจะเป็นคนร้ายเสียหน่อย” ซึ่งสิ่งที่ท่านนายอำเภอกล่าวนั้น ก็ดูไม่ค่อยจะสอดคล้องกับหลักฐานชิ้นส่วนของศพที่พบในบ้านเลยแม้แต่น้อย

 

แต่สุดท้ายสตีเฟนก็ถูกตามจับตัวกลับมาได้ และสารภาพทุกอย่างออกมาว่า เขาเป็นคนสังหารทุกคนในบ้านจริง ๆ และต่อมาเขาก็ถูกนำตัวไปฝากขังไว้ที่เรือนจำในเมืองมาคอมพ์ เพื่อรอพิพากษาโทษกันต่อไป

 

แต่ไหน ๆ สตีเฟนก็ดูจะเป็นชายผู้ภักดีในความรักจนต้องสังหารภรรยา รวมถึงแม่และลูกของตัวเองแล้ว ก็ยังมีรายงานอีกว่าในช่วงที่เขาติดคุกอยู่นั้น เขาได้ส่งจดหมายรักหานักโทษหญิงคนหนึ่งชื่อเจนนิเฟอร์ ที่ต้องคดีฆาตกรรมเด็กหญิงอเล็กซานเดรีย อายุ 8 ปี และเด็กหญิงแอชลีย์ อายุ 5 ปี พร้อมกับสุนัขพันธ์ุปอมเมอเรเนียนอีกสามตัวในเมืองมาคอมบ์เช่นเดียวกัน โดยคดีนั้นเธอสารภาพว่า มีปีศาจบอกให้เธอสังหารเด็ก ๆ พร้อมกับสุนัข

 

สตีเฟนได้ส่งจดหมายหาเจนนิเฟอร์มากกว่าสิบฉบับ และที่มากกว่านั้นก็คือเขาเขียนชื่อตัวเองที่หน้าซองว่าซาร่า ซึ่งถ้าจะถามว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบได้อย่างไรว่าสตีเฟนเป็นคนเขียนจดหมายเหล่านี้ คำตอบมันก็ได้มาจากจดหมายตอบกลับของเจนนิเฟอร์ ที่เธอจ่าหน้าซองถึงสตีเฟน แกรนท์อย่างเจาะจงนั่นเอง

"เจนนิเฟอร์ คูคลา" ฆาตกรฆ่าลูกสาว 2 ศพ !!!

 

และข้อความจากจดหมายฉบับหนึ่งที่สตีเฟนส่งถึงเจนนิเฟอร์นั้น เขาได้เขียนเอาไว้ว่า “แล้วพบกันที่หน้าตู้เปลี่ยนเสื้อผ้านะจ๊ะ :)” ตามด้วยเครื่องหมายตัวอักษรแทนใบหน้ายิ้มหวาน

 

อีกฉบับที่ถูกเจ้าหน้าที่เปิดอ่านก่อนส่งนั้น เขาก็เขียนเล่าถึงชีวิตอันแสนจะอาภัพของตัวเอง ไม่ว่าจะถูกภรรยาทิ้ง ลูกหาย แม่ไม่รัก และยังบอกอีกว่าเขาคิดถึงทุกคนมาก แถมยังเขียนอีกว่าเจนนิเฟอร์นั้นเป็นคนแรกที่เขาบอกเรื่องนี้ให้รู้

 

พอกลับมาถามกับเจนนิเฟอร์ว่าทำไมเธอถึงยอมส่งจดหมายคุยกับสตีเฟนเยอะแยะขนาดนี้ เธอก็ตอบกับเจ้าหน้าที่ว่า เธอแค่อยากรู้ว่าชายคนนี้จะกล้าเล่าไหมว่าตัวเองไปทำอะไรมา ถึงได้มาติดคุกเหมือนกับเธอ

 

ในที่สุดสตีเฟนก็ถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุก 50 - 80 ปี มีความผิดในคดีฆาตกรรมภรรยาของตัวเอง และยังถูกย้ายตัวไปยังคุกอีกแห่งที่ไม่มีเจนนิเฟอร์อยู่ ก็คงต้องเรียกได้ว่านิยายรักของเขากับเจนนิเฟอร์นั้น จบลงทั้ง ๆ ที่ยังไปไม่ถึงไหนอย่างไร้ปราณีกันเลยทีเดียว หลังจากได้รับทราบเรื่องราวกุ๊กกิ๊กกันมาแล้ว คราวนี้มิติที่ 6 อยากให้มาดูคดีต่อไป



คดีที่ 4 มิชชันนารีหัวงู กับคดีสังหารภรรยาตัวเอง

"ครอบครัวลุทโธลด์"
นาธาน ลุทโธลด์ กับภรรยาชื่อเดนนิส ได้พบกับนักเรียนสาวชาวลิธัวเนียคนหนึ่งในช่วงที่ทั้งสองได้ออกเดินทางไปเผยแผ่ศาสนาที่ยุโรปตะวันออก จนเมื่อเวลาผ่านไปเด็กสาวก็อายุได้ 18 ปี สองสามีภรรยาบ้านลุทโธลด์ก็ตัดสินใจพาเธอมาเลี้ยงดูอยู่ที่รัฐอิลินอยซ์ประเทศสหรัฐอเมริกา และสิ่งนี้มันก็ได้ทำให้นาธานเริ่มตกหลุมรักเด็กสาว จนสองปีต่อมาเขาจึงได้ตัดสินใจลงมือสังหารภรรยาของตัวเอง เพื่อที่จะได้อยู่กับเด็กสาวตลอดไป
 
โดยในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2013 นั้น นาธานได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ภรรยาของเขาถูกนักย่องเบาลอบเข้ามาฆ่า ด้วยการใช้ปืนยิงที่ศีรษะของเธอ แต่หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบที่เครื่องคอมพิวเตอร์ของนาธานแล้วก็พบว่า เขาได้เข้าไปในเว็บไซต์กูเกิลแล้วค้นหาข้อมูลจากคำค้นว่า “วิธีทำปืนเก็บเสียง” ตามด้วย “ตีใครสักคนที่หัวให้สลบ” และ “การฉีดยาให้ตาย” ซึ่งทั้งสามคำค้นนี้ก็ได้กลายเป็นกุญแจสำคัญของการสืบสวนในคดีนี้ทันที

 

สิ่งนี้ก็ได้ทำให้นาธานถูกจับกุมตัว โดยในช่วงการต่อสู้คดีอยู่นั้นทางอัยการได้ยกหลักฐานคำค้นในกูเกิล พร้อมทั้งข้อความในอินบ็อกของนาธานที่ถูกส่งมาจากภรรยาของเขา ที่เขียนเอาไว้ว่าเธอนั้นรู้ว่านาธานอยากจะฆ่าเธอ และยังถามนาธานว่าทำไมเขาถึงต้องการจะฉีกหน้าเธอด้วยการวิ่งตามเด็กสาวอายุ 20 ปีแบบนี้ โดยทนายของนาธานได้พูดปกป้องลูกความของตัวเองว่า เรื่องนี้มันเอามาใช้เป็นหลักฐานไม่ได้ และในที่เกิดเหตุเองก็ไม่มีใครเป็นพยานรู้เห็นกับเรื่องราวนี้เลย และมันจะมีประโยชน์อะไรที่นาธานจะฆ่าภรรยาของตัวเองเพื่อที่จะได้อยู่กับเด็กสาววัยรุ่นในวันวาเลนไทน์ ดังนั้นศาลควรจะต้องยกประโยชน์ให้จำเลยมันถึงจะถูกต้อง

"ไม่ถงไม่ถามฉันหน่อยหรือ ?" สาว 20 ถาม
 
หลังจากศาลพิจารณาหลักฐาน วัตถุพยาน รวมถึงข้อแก้ตัวทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว นาธานจึงได้รับโทษจำคุกไป 45 ปี เพราะสิ่งที่ทนายพูดไว้ในประโยคสุดท้ายว่า เขาจะฆ่าภรรยาของตัวเองเพื่อจะได้อยู่กินกับเด็กสาวในวันวาเลนไทน์ทำไม ว่าสิ่งเหล่านี้มันก็คือคำตอบอยู่ในตัวแล้วนั่นเอง จบจากคดีรักไม่สมหวัง พังเพราะทนายไปแล้ว ก็ลองมาดูคดีต่อไป อ่านต่อกระทูหน้านะครับ
ขอบคุณที่มา: เรียบเรียงโดย นิวัฒน์ อ่ำแสง
http://www.mitithee6.com/search/label/รายการมิติที่ 6
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
sickpack's profile


โพสท์โดย: sickpack
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
20 VOTES (4/5 จาก 5 คน)
VOTED: ดูดี มีชาติตระกูล, Donald Duck, Thorsten, กระต่ายน้อยผู้น่ารัก
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
หนูอายเพื่อน!! ลูกสาวถึงกับร้องไห้ หลังคุณพ่อสายแฟ (ชั่น) มารับที่โรงเรียน ถึงกับถาม “พ่อไม่มีชุดธรรมดาปกติกับเค้าบ้างเหรอ” 😆5 วิธีใช้แอร์ผิดๆ ที่ทำให้เปลืองไฟและแอร์พังเร็ว!iPhone รุ่นประหยัดมาแล้ว!คำทำนายวันสิ้นโลกจาก"นักวิทยาศาสตร์""เมร่อน" ทำให้ "ไอซ์ ปรีชญา" กลับมาสดใสอีกครั้ง..หลังผ่านมรสุมมานาน 9 ปี5 ราศีที่มีพญาครุฑคุ้มครองสาวพม่ารีวิว! ค่าใช้จ่ายในการมาเรียนที่ประเทศไทย?หมีที่เล็กที่สุดในโลกเขมรแสบ! นำภาพเก่าสถานท่องเที่ยวไทย ที่เต็มไปด้วยกองขยะมาเล่นไทย?
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เจ้าหญิงแห่งจอร์แดน ยิงโดรนอิหร่านตก 5 ลำ.หนูอายเพื่อน!! ลูกสาวถึงกับร้องไห้ หลังคุณพ่อสายแฟ (ชั่น) มารับที่โรงเรียน ถึงกับถาม “พ่อไม่มีชุดธรรมดาปกติกับเค้าบ้างเหรอ” 😆unpredictable: คาดการณ์ไม่ได้ ทายไม่ถูกเขมรแสบ! นำภาพเก่าสถานท่องเที่ยวไทย ที่เต็มไปด้วยกองขยะมาเล่นไทย?
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลัน ในอิหร่านอิหร่านเปิดระบบป้องกันภัยทางอากาศ เมืองอิสฟาฮานเตรียมปฏิบัติการทำฝนหลวงในพื้นที่จังหวัดกระบี่คิดได้ไง ไอเดียกระฉูด
ตั้งกระทู้ใหม่