กระทรวงพลังงาน ร่วมกับ ปตท. กฟผ. จับมือภาคีเครือข่าย รวมพลัง สร้างพลังแห่งความดีเริ่มที่ตัวเรา

ร่วมสืบสานพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

วันนี้ (23 ม.ค.60) พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานในพิธีบำเพ็ญ             กุศลสตมวาร (100 วัน) เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และกิจกรรม “สืบสานพระราชปณิธาน พลังแห่งความดีเริ่มที่ตัวเรา ณ คุ้งบางกะเจ้า” พร้อมด้วย นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน นายสมนึก บำรุงสาลี รองปลัดกระทรวงพลังงาน และผู้บริหารกระทรวงพลังงาน           นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)         นายชาตรี รั้วเจริญ ผู้ช่วยผู้ว่าการกิจการสังคมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และนายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ โดยมี นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ และภาคีเครือข่ายคุ้งบางกะเจ้า ให้การต้อนรับ  ณ สวนสุขภาพลัดโพธิ์ ตำบลทรงคนอง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ

          พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า การจัดงานในวันนี้มี 2 กิจกรรมที่สำคัญ คือ การร่วมบำเพ็ญกุศลสตมวารครบรอบ 100 วันแห่งการเสด็จสวรรคต เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และกิจกรรม “สืบสานพระราชปณิธานพลังแห่งความดีเริ่มที่ตัวเรา    ณ คุ้งบางกะเจ้า” ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมของโครงการคุ้งบางกะเจ้าเฉลิมพระเกียรติฯ ที่จัดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง       โดยความร่วมมือระหว่างกระทรวงพลังงาน บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย          บริษัท บางจาก ปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) นักเรียนใน 11 โรงเรียนในพื้นที่คุ้งบางกะเจ้า และภาคีเครือข่าย

ที่ผ่านมา การพัฒนาโครงการคุ้งบางกะเจ้าเฉลิมพระเกียรติฯ ได้นำแนวทางการพัฒนาตามแนวพระราชดำริวิถีชีวิตพอเพียงเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาเป็นแนวทางในการพัฒนาโครงการฯ มาโดยตลอด ปัจจุบันมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง  ทั้งในด้านการพัฒนาพื้นที่สีเขียว การพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชน และการส่งเสริมวิถีชีวิตชุมชน และในวันนี้จึงเป็นการรวมพลังกันอีกครั้ง เพื่อสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในการร่วมปฏิญาณตนผ่านการทำความดีเริ่มที่ตัวเรา และน้อมนำแนวพระราชดำริของพระองค์ท่านมาเป็นพลังในการทำงาน และการใช้ชีวิต ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้

นายสมนึก  บำรุงสาลี รองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวเสริมถึงความคืบหน้าโครงการคุ้งบางกะเจ้าเฉลิมพระเกียรติว่า โครงการคุ้งบางกะเจ้าเฉลิมพระเกียรติมีความคืบหน้าตามลำดับใน 3 ด้านด้วยกัน ประกอบด้วย การพัฒนาและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม โดย ได้มีการพัฒนาสวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9       อย่างครบวงจรตั้งแต่การเพิ่มพื้นที่สีเขียว การปรับปรุงภูมิทัศน์ อาคาร สิ่งปลูกสร้าง พร้อมทั้งได้มีการปรับแผนงานให้สอดคล้องกับพระราชวินิจฉัยของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ในการฟื้นฟูป่านิเวศแบบมิยาวากิ และการจัดทำข้อมูลแผนพัฒนาลำคลองในคุ้งบางกะเจ้า ตามความต้องการใช้ประโยชน์ของชุมชน

การส่งเสริมวิถีชุมชน ซึ่งได้ดำเนินการพัฒนาจุดเชื่อมต่อเส้นทางคมนาคมเพื่อการท่องเที่ยว ด้วยการปรับปรุงท่าเรือนำร่อง จำนวน 2 ท่า เพื่อเป็นต้นแบบสำหรับท่าเรืออื่นๆ พร้อมทั้งยังมีแผนพัฒนาจุดเชื่อมต่อเส้นทางคมนาคม อย่างเส้นทางจักรยาน และการส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว และการจัดการองค์ความรู้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานคุ้งบางกะเจ้า ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม

ด้านนายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า นอกเหนือจากกิจกรรมอื่นๆ แล้ว ในวันนี้ยังได้เปิดตัวกิจกรรม “กล้าพันธุ์ดี” ภายใต้โครงการ          คุ้งบางกะเจ้าเฉลิมพระเกียรติ  เพื่อค้นหาเยาวชนมาร่วมกิจกรรมอาสา โดยมีเป้าหมายเป็นกลุ่มเยาวชนในพื้นที่อายุน้อยกว่า 20 ปี ใน 6 ตำบลของคุ้งบางกะเจ้า ได้แก่ ตำบลทรงคนอง ตำบลบางกระสอบ ตำบลบางน้ำผึ้ง ตำบลบางยอ ตำบลบางกะเจ้า และตำบลบางกอบัว เพื่อเป็น “ผู้นำการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่” ตามรอยพระราชดำริพระบาทสมเด็จ   พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชในเรื่องการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยกิจกรรม “กล้าพันธุ์ดี” จะเป็นการส่งเสริมสนับสนุนเยาวชนกลุ่มเป้าหมายซึ่งถือเป็นอนาคตของชุมชนในพื้นที่คุ้งบางกะเจ้า   เพื่อสร้างความตระหนักในการมีส่วนร่วมพัฒนาชุมชน และสังคม อย่างสร้างสรรค์  ผ่านกิจกรรมอาสาเพื่อการพัฒนาใน 4 ด้าน คือ ด้านพัฒนาพื้นที่สีเขียว ด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต ด้านการสืบสานศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น  และด้านการสื่อสารสาธารณะและการท่องเที่ยวชุมชน เพื่อเป็นรากฐานไปสู่การพัฒนาพื้นที่อย่างยั่งยืนสืบไป

..................................................................................