เรามาถึงขั้นนี้แล้วเหรอ? ที่ต้องให้ชาวญี่ปุ่นมาสอนทำนาปลูกข้าว?
เพจเฟซบุ๊ค คลังสมองจามจุรีและเพื่อน โพสท์ว่า
โอ้โฮ!!!ประเทศไทยหมดปัญญาแล้วเหรอ ต้องให้ชาวญี่ปุ่นชาวเมืองหิมะมาสอนทำนาปลูกข้าวซึ่งเป็นพืชเมืองร้อน
มีรายงานซึ่งไม่เปิดเผยว่าหลังWW II ไทยรวยติดอันดับต้นๆของโลก เพราะไทยไม่บอบช้ำจากสงครามมาก ผลิตข้าวได้เหลือล้น ในขณะที่ชาวโลกส่วนใหญ่อดอยากรวมทั้งญี่ปุ่น อังกฤษ เยอรมัน ไทยต้องเสียค่าปรับส่งข้าวไปอังกฤษ ชดใช้ค่าปฏิกรรมสงคราม
สมัยก่อนแถวที่บ้านแอดมิน ที่บางมูลนาก พิจิตร ช่วงปี 2507จำได้ว่ากลไกข้าวของชาวนา โรงสี ผู้ส่งออก
เป็นไปตามกลไกตลาด demand & supplyที่แท้จริง ในฤดูเก็บเกี่ยว ข้าวเปลือกออกมามากเกวียนละ 700 บาท(ทองบาทละ 350 , เนื้อหมูกิโลละ12บาท)
ก็จะมีพ่อค้าคนกลางในตลาดลงทุนสร้างยุ้งฉาง รับซื้อข้าวจากชาวนานำไปเก็บไว้รอขาย พอราคาข้าวดีเนื่องจากหมดฤดูผลิต
ก็นำข้าวในยุ้งที่เก็บไว้ออกมาขายในราคา 1,400 - 1,500 บาท
(ทอง4บาท)คนก็มีงานทำ จับกังขนข้าว รถสิบล้อขนข้าว คนตวง คนเกลี่ย คนพิสูจน์ข้าว ศ/ก หมุนเวียนสะพัด พ่อค้าเองได้กำไรงามทำมาค้าขึ้น
ถ้าเปรียบเทียบสมัยปัจจุบัน ข้าวเปลือกออกพ่อค้ารับซื้อ เกวียนละ 40,000 (ทอง2บาท) รอเก็บไว้ขายเกวียนละ 80,000 บาท(ทอง4บาท)
ราคาดีมีสุข ชาวนายิ้มแย้ม พ่อค้าผ่องใส โดยรัฐไม่ต้องมายุ่งเลยHAPPY HAPPY กิ๊ปๆๆๆๆ การที่ญี่ปุ่นจะสอนคนไทยทำนานับว่าเป็นโครงการที่ดี แต่ช้าก่อน!!
1.เคยมีคนญี่ปุ่นรู้จักกันที่เมืองไทย
มาลงทุนทำนาที่ชุมแสง นครสวรรค์ ใช้ข้าวพันธุ์ญี่ปุ่น ซึ่งยังมีไม่มาก ส่วนใหญ่ปลูกกันที่ภาคเหนือ อากาศใกล้เคียงกับญี่ปุ่น
แต่มีอุปสรรคมากมาย ไม่ค่อยได้กำไร เพราะมีพื้นที่ใกล้เคียงเอาพันธุ์ข้าวญี่ปุ่น(แกหาว่าก็อปพันธุ์)มาปลูกแข่งตัดราคา
55555แกสรุปให้ฟังว่าต้องให้ชาวนาลดการปลูกข้าว(Supply)ถึงจะได้ราคาดี
2.สรุปว่าปัญหาของชาวนาไทยน่าจะมาจาก
-พอข้าวราคาดี ก็แห่กันแย่งนาทำ
-พฤติกรรมส่วนตัวของการหาเงิน(กู้ร้อยละ4)&การใช้เงิน(จ่ายเงินเพื่อไม่ต้องเกณฑ์ทหาร , งานบวชงานแต่งหน้าใหญ่ใจโต)
-นาไทยโดยเฉพาะที่บ้านหมี่ ลพบุรี ไม่ได้ด้อยกว่าที่อื่นเลย ทำดีๆจะได้ถึงไร่ละ90ถัง(1ถัง~10kg)
ขณะที่กรมวิชาการเกษตรทดลองปลูกข้าวแปลงเล็กดูแลแบบปลูกผักสวนครัวได้ไร่ละ 144 ถัง(Ideal case)
3.แอดมินเคยลงทุนทำนาโดยออกเงินเองไม่กู้ใคร มา 3 ปีช่วงนั้นราคาข้าวเกวียนละ 4-5 พันบาท ปรากฏว่า ได้ผลตอบแทน RORประมาณ 80 - 100% มากกว่าแชร์ชม้อยซะอีก 55555 ขำเจงๆ
4.เราผลิตข้าวล้นเกินความต้องการ คือ 30 ล้านตัน กินเอง 20 ล้าน เหลือส่งออก 10 ล้านตัน แถมโดนอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงิน ราคาข้าวถูกเลยต้องมาบีบคนทำนาจนหน้าเขียวอยู่ที่อัตราแลกเปลี่ยนครับ
ตอนฟองสบู่แตก ดอลลาร์ละ 57 บาทชาวนายิ้มย่องผ่องใส เจ้าของนาสบายมากไม่ต้องไปทวงคุยกันปากเปียกปากแฉะ555
ขับรถไปแค่ 2 รายก็ได้เงินค่าเช่า+ใช้หนี้เดิม มาเรือนแสนแย้ว ที่เหลืออีกหลายๆรายไว้เที่ยวหลังค่อยไปใหม่ รวยแล้วขี้เกียจ
แต่ถ้าเค้าให้ไปเที่ยว เรียนฟรีๆ ก็รีบๆละกัน 55555
-----
มีโครงการดีๆมาบอกครับ
ถ้าคุณเป็นคนรุ่นใหม่ที่รักการทำเกษตร สนใจเข้าร่วมโครงการ JAEC รุ่นที่ 35 ( Japan Agriculture Exchange Council ) เพื่อไปศึกษาเรียนรู้และลงมือปฏิบัติจริงที่ประเทศญี่ปุ่น
โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจาก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงต่างประเทศ และรัฐบาลของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งคนที่เข้าร่วมโครงการจะต้อง ไปเรียนที่ ศูนย์กาญจนบุรีเรียนภาษา 3 เดือน แล้วจะได้มีโอกาสบินไปที่ประเทศญี่ปุ่นและไปปรับภาษาที่โตเกียวประมาณ 2 สัปดาห์ หลังจากนั้นจะต้องเข้าฟาร์มครอบครัวพ่อแม่เกษตรกรญี่ปุ่น 10 เดือน ซึ่งจะมีโอกาส summer ที่ วิทยาลัยโคอิบุนจิ ที่ จ.อิบาระกิ ประมาณ 1 เดือน
คุณสมบัติ ดังนี้
1.จบการศึกษาระดับขั้นพื้นฐาน หรือ ม.3 ขึ้นไป
2.เพศชาย อายุ 21 แต่ไม่เกิน 27 ปี
3.โสด
4.ไม่มีรอยสัก
5. มีประสบการณ์ทางด้านการเกษตร
*ฟรีทุกอย่างไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น
**ปัจจัย 4 ดูแลดีโพดๆ
***กลับมาช่วยเหลือสังคมและชุมชน ขอแค่เนี่ยแหละ
***เปิดรับสมัครรอบ 2 วันที่ 26 ธันวาคม 2559 ถึงวันที่ 6 มกราคม 2560
สมัครได้ที่
1. กรมส่งเสริมการเกษตร
2.กรมส่งเสริมสหกรณ์
3.กรมปศุสัตว์
4.สปก
5.พัฒนาพื้นที่สูง
https://www.facebook.com/1398227550486348/photos/a.1407774052865031.1073741829.1398227550486348/1616213702021064/?type=3&theater