ลุแก่อํานาจ! 5 ปี คิม ยองอึน สั่งประหารแล้ว 340 คน ไม่เว้นแม้อาเขยของตัวเอง แค่พูดไม่เข้าหู!
สถาบันยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติ องค์กรวิจัยของเกาหลีใต้ เผยแพร่รายงาน "The misgoverning of Kim Jong Un's five years in power" ระบุในช่วง 5 ปี ที่ นาย คิม จองอึน เป็นผู้นำเกาหลีเหนือได้สั่งประหารไปแล้ว 340 ราย ซึ่งกว่า 140 คนเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล ทหาร และสมาชิกอาวุโสของพรรครัฐบาท พรรคแรงงานเกาหลีหนือ
ที่ผ่านมานั้น แม้ข่าวสารต่างๆ จากประเทศนี้จะถูกปิดกั้น แต่ความโหดเหี้ยมอำมหิต ลุแก่อำนาจของคิม จองอิน ก็หลุดออกมาเป็นครั้งคราวตลอด 5 ปี ที่ผ่านมา เช่น
ปลายเดือนสิงหาคม คิม ยองจิน รองนายกรัฐมนตรีเกาหลีเหนือที่ดูแลด้านการศึกษาถูกประหารชีวิตด้วยการยิงเป้า หลังเขาแสดงทัศนคติที่ไม่ดีระหว่างการประชุมสภาประชาชนสูงสุดของประเทศในเดือนมิถุนายน
พฤษภาคม 2015 ฮยอน ยอง ชอง รัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีเหนือ ถูกประหารชีวิตด้วยปืนต่อสู้อากาศยาน ต่อหน้าผู้คน ณ โรงเรียนทหารแห่งหนึ่งในเปียงยาง หลังถูกกล่าวหาว่าคิดทรยศ
2013 อาเขยของคิม จองอึน ถูกประหารชีวิตโทษฐานพยายามโค่นล้มรัฐบาล
ในขณะที่ผู้นำกำลังทำทุกวิธีเพื่ออำนาจของตัวเอง ประชาชนกลับทุกข์ยาก หิวโหย
"ความหิวโหยเป็นความอัปยศ ความหิวโหยเป็นความสิ้นหวัง สำหรับเด็กที่หิวโหยนั้น การเมืองและเสรีภาพ ไม่ได้เป็นสิ่งที่อยู่ในความคิดของพวกเขาเลย ในวันเกิดครบหกปีของผม พ่อแม่ของผม มิอาจจะหาอะไรมาให้ผมกินได้ แต่ถึงแม้ว่าผมจะเป็นเด็ก ผมก็สามารถรับรู้ได้ถึงภาระอันหนักหนา ในหัวใจของพวกเขา " โจเซฟ คิม (Joseph Kim)
"เมื่อผมไม่สามารถจะข่มตาหลับได้ เพราะความหนาวอันแสนสาหัส หรือเพราะความหิวที่แสนทรมาน ผมหวังว่า เช้าวันรุ่งขึ้น พี่สาวของผมจะกลับมา ปลุกผมให้ตื่นขึ้น พร้อมกับอาหารโปรดของผม ความหวังนั้นเอง ที่ทำให้ผมมีชีวิตอยู่ ผมไม่ได้หมายถึงความฝันอันยิ่งใหญ่อะไรแบบนั้น ผมหมายถึงความหวัง แบบที่ทำให้ผมเชื่อ ว่าถังขยะอันถัดไปอาจมีขนมปัง ถึงแม้ว่าปกติแล้วมันจะไม่มี แต่ถ้าผมไม่เชื่อแบบนั้น ผมก็คงจะไม่พยายาม และแล้ว ผมก็คงจะต้องตายแน่ ความหวังทำให้ผมยังคงมีชีวิตอยู่ ทุกๆ วัน ผมบอกตัวเองว่า ไม่ว่ามันจะลำบากยากแค้นแค่ไหนก็ตาม ยังไงซะ ผมก็ต้องรอดให้ได้" โจเซฟ คิม (Joseph Kim)
โจเซฟ คิม ผู้ลี้ภัยที่ขณะนี้อยู่ในสหรัฐอเมริกา บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของเขาในเกาหลีเหนือในช่วงแห่งทุพภิกขภัย เขาได้เริ่มต้นสร้างชีวิตใหม่ แต่เขายังคงรอคอยวันที่จะได้พบครอบครัวที่พลัดพรากจากกัน จะมีวันนั้นได้หรือไม่ หากประชาชนเกาหลีเหนือ ไม่ลุกขึ้นสู้กับอำนาจเผด็จการ