"คีรี กาญจนพาสน์" เจ้าพ่อบีทีเอส เฉือน 10 ไร่เยื้องแดนเนรมิต ทุ่ม 200 ล้านตัดถนน 8 เลน เชื่อมพหลโยธินทะลุวิภาวดีฯ แก้รถติดแยกรัชโยธิน เปิดใช้ฟรี ปีหน้าขึ้นโครงการอสังหาฯ 2 หมื่นล้าน ดึง "จีแลนด์-แสนสิริ" ร่วมทุน ผุดห้าง คอนโดฯหรู รับรถไฟฟ้าสีเขียว "หมอชิต-คูคต" ลุยต่อคอมเพล็กซ์หมื่นล้านอีก 2 ทำเล "พญาไท-จตุจักร"
คีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า หลังได้ร่วมทุนกับ บมจ.แกรนด์ คาแนล แลนด์ (จีแลนด์) สัดส่วน 50 : 50 จัดตั้งบริษัท เบย์วอเตอร์ จำกัด ประมูลซื้อที่ดินจากกรมบังคับคดี 48 ไร่ ที่เคยเป็นที่ตั้งโครงการบางกอกโดม ตรงข้ามแดนเนรมิตเดิม ด้วยวงเงิน 7,350 ล้านบาท เมื่อปี 2557
เฉือนที่ 10 ไร่ทำทางลัด
ล่าสุด ได้เริ่มพัฒนาระบบสาธารณูปโภคในโครงการแล้ว พร้อมนำที่ดิน 10 ไร่ ช่วงระหว่างกลางก่อสร้างเป็นถนนขนาด 30 เมตร ประมาณ 7-8 ช่องจราจร เชื่อมการเดินทางจากถนนพหลโยธินซอย 19/1 ทะลุถนนวิภาวดีรังสิต ระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร ค่าก่อสร้าง 200 ล้านบาท
ส่วนนี้จะเปิดให้ประชาชนใช้โดยไม่เก็บค่าผ่านทาง เพื่อเป็นเส้นทางลัด เลี่ยงรถติดบริเวณแยกรัชโยธิน ซึ่งการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะปิดการจราจร เพื่อรื้อสะพานสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวต่อขยาย (หมอชิต-คูคต) วันที่ 22 พ.ย.นี้เป็นต้นไป
"เรากำลังเร่งสร้างถนนให้เสร็จก่อน ให้คนได้ใช้ก่อนปีใหม่ ช่วยรัฐแก้ปัญหารถติด ส่วนการพัฒนาอสังหาฯจะเริ่มได้หลังจากนี้ มีแผนจะทำโครงการมิกซ์ยูส ทั้งห้างสรรพสินค้า ออฟฟิศและคอนโดมิเนียมเกรดเอ มูลค่าลงทุนกว่า 20,000 ล้านบาท" นายคีรีกล่าว
ผนึกแสนสิริ-จีแลนด์
กวิน กาญจนพาสน์ กรรมการ ผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง กล่าวเพิ่มว่า เมื่อตัดที่ดิน 10 ไร่สร้างถนนในโครงการไปแล้ว ที่ดินทำเลนี้จะเหลืออีก 38 ไร่ เพื่อเตรียมพัฒนาโครงการใหม่ ร่วมทุนกับกลุ่มจีแลนด์ และอาจมีผู้ประกอบการรายอื่นสนใจเข้าร่วมด้วย
อาทิ บมจ.แสนสิริ ที่ร่วมทุนกับบีทีเอส พัฒนาคอนโดฯ "เดอะไลน์" ตามแนวรถไฟฟ้าไปแล้ว ก็สนใจจะร่วมพัฒนาที่แปลงนี้ด้วย เนื่องจากเป็นทำเลศักยภาพติดถนนพหลโยธิน และห่างจากสถานีพหลโยธิน 24 ของรถไฟฟ้าสายสีเขียวเพียง 200 เมตร
"ที่มีขนาดใหญ่มาก ต้องทำแบบมิกซ์ยูสแน่นอน เราเปิดกว้างหากใครสนใจจะร่วมพัฒนา ไม่ว่าผู้ประกอบการด้านโรงแรม ออฟฟิศ หรือที่อยู่อาศัย ซึ่งแสนสิริ ก็สนใจ ตอนนี้ก็ร่วมกันลงทุนไปแล้ว 16 โครงการจาก 25 โครงการ มูลค่า 100,000 ล้านบาท"
เนรมิต 38 ไร่สู่มิกซ์ยูส
ด้านแหล่งข่าวใน บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง กล่าวว่า การที่บริษัทยอมเฉือนที่ 10 ไร่สร้างถนนขนาดใหญ่เป็นทางลัดการเดินทางนั้น เพราะต้องการเพิ่มมูลค่าที่ดิน หลังจากภาครัฐไม่มีแผนลงทุนในย่านนี้ ซึ่งในอนาคตทางกลุ่มบริษัทมีแผนจะพัฒนาโครงการดังกล่าวในรูปแบบ มิกซ์ยูส เป็นชุมชนเล็ก ๆ ที่มีทุกอย่างครบ ทั้งแหล่งช็อปปิ้ง แหล่งงาน ร้านอาหาร ที่อยู่อาศัย มีถนนให้สัญจร และทางเชื่อม รถไฟฟ้า
"ถนนจะสร้างใหญ่เท่ากับถนนพหลโยธิน จะเปิดให้ประชาชนใช้ก่อน ส่วนจะยกให้รัฐหรือเก็บค่าใช้ทางหรือไม่ อยู่ที่นโยบาย ผู้บริหาร ตอนนี้คุณคีรีคิดคอนเซ็ปต์กว้าง ๆ ไว้แบบนี้ เหมือนเมืองทองธานีที่ตัดถนนและพัฒนาเป็นเมืองขึ้นมา"
ได้ฤกษ์ลุย 2 ทำเลทอง
นอกจากนี้กวินเปิดเผยอีกว่า ในเร็ว ๆ นี้จะลงทุนพัฒนา 2 โครงการ มูลค่า รวม 10,000 ล้านบาท แปลงแรกเป็นที่ดินพญาไทติดรถไฟฟ้าบีทีเอส พื้นที่ 6 ไร่เศษ จะร่วมกับ บมจ.ยู ซิตี้ (บมจ.แนเชอรัลพาร์คเดิม) พัฒนาเป็นมิกซ์ยูสคอมเพล็กซ์ สูง 50 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 100,000 ตารางเมตร มีร้านค้า สำนักงานเกรดเอ โรงแรม อาคารจอดรถ มูลค่า 6,000 ล้านบาท อีก 3 เดือนจะเริ่มตอกเสาเข็ม ใช้เวลาก่อสร้าง 4 ปี กำหนดเสร็จปลายปี 2563
แปลงที่ 2 เป็นที่ดินจตุจักร-หมอชิต ยังเหลือ 11 ไร่เศษ จากการพัฒนา คอนโดฯเดอะไลน์ บริษัทจะลงทุนเองทำเป็นอาคารประเภทมิกซ์ยูสคอมเพล็กซ์ สูง 40-50 ชั้น เท่ากับตึกทหารไทย จำนวน 2 อาคาร พื้นที่ใช้สอยรวม 100,000 ตร.ม. ที่นี่จะมีทุกอย่าง ระหว่างนี้รอการอนุมัติรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างปลายปี 2560 ใช้เวลา 42-48 เดือน ตามแผนจะแล้วเสร็จปลายปี 2564