ซาอุฯหวังลดค่าใช้จ่าย หลังราคาน้ำมันตกฮวบ
ซาอุดิอาระเบียเตรียมออกมาตรการลดต้นทุนค่าใช้จ่าย ในขณะที่นักวิชาการท้องถิ่นกล่าวว่า การขาดดุลทางการค้าของประเทศอาจจะสูงถึง 6.9 หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐภายในสิ้นปีนี้
จำนวนดังกล่าวถึงแม้ว่าจะน้อยกว่าที่รัฐบาลคาดการณ์ไว้ที่ 8.7 หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐ แต่ก็ยังนับว่าสูงสำหรับประเทศที่ถูกกดดันจากการลดฮวบของราคาน้ำมันตั้งแต่ปี 2015
เมื่อปลายพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซาอุดิอาระเบียได้ประกาศว่าหนี้สาธารณะ (public debt) ของประเทศมีมูลค่า 9.1 หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งหนี้ค้างชำระ (outstanding debt) ในปี 2016 ก็อยู่ที่ 5.3 หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม เดือนเมษายนที่ผ่านมา เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน (Prince Mohammed bin Salman) ของซาอุดิอาระเบียได้ประกาศการปฏิรูปเศรษฐกิจครั้งใหญ่ เพื่อดึงดูดการลงทุนของธุรกิจที่แสวงหากำไร เป็นการช่วยให้ซาอุฯ ที่เป็นประเทศอุดมไปด้วยน้ำมันแบ่งเบาการพึ่งพาน้ำมันให้น้อยลง
ส่วนหนึ่งของการปฏิรูปคือ จะแปรรูปรัฐวิสาหกิจมูลค่า 4 แสนล้านดอลล่าร์สหรัฐ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างงานให้ประชาชนนับล้านราย ซึ่งเน้นอุตสาหกรรมการผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นหลักของการปฏิรูป
ทั้งนี้ ซาอุดิอาระเบียได้ตระหนักว่าการปฏิรูปเศรษฐกิจจะไม่ประสบความสำเร็จ หากว่าราคาน้ำมันยังคงตกลงอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นเวลาที่ซาอุฯ ซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันดิบที่ใหญ่ที่สุดของโลก ต้องเปลี่ยนนโยบาย “pump-at-will” ที่ดำเนินการมานาน 2 ปี