2 คดี "ฆ่าตัวตายหมู่" ที่แปลกที่สุดที่เคยเกิดขึ้น
โพสท์โดย SpiderMeaw
ย้อนกลับไปในปี 1978 ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ได้เกิดเหตุการณ์สุดสยองชวนขนลุกขึ้นเมื่อผู้คน
ในเมืองโจนส์ทาวน์ (Jonestown) จำนวน 900 กว่าคนได้ทำการ 'ฆ่าตัวตายหมู่' อย่างเงียบๆ
และเมื่อมีผู้มาพบเห็นภายหลังก็พบกับภาพที่น่าสยดสยองและไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้
เกิดขึ้นบนโลกจริงๆ
โจนส์ทาวน์เป็นชื่อเรียกหนึ่งของสถานที่แห่งหนึ่งที่ก่อตั้งโดย จิม โจนส์ (Jim Jones) ผู้นำที่มีเสน่ห์และวาทศิลป์เป็นเลิศ
เขาได้ชักจูงคนจำนวนมากโดยเฉพาะกลุ่มคนผิวสีให้ไปอยู่ในดินแดนแห่งใหม่ที่เขาจะสร้างขึ้นมา หรือเป็นอีกหนึ่งยูโทเปีย (Utopia) เมืองในฝันที่ทุกคนจะสามารถอยู่ร่วมกันโดยปราศจากศาสนา ชนชั้นและการแบ่งแยก โดยกลุ่มคนที่โจนส์ชักจูงมาได้นั้นมีชื่อเรียกว่า "Peoples Temple" ที่ฟังแล้วก็ดูเป็นกลุ่มลัทธิบางอย่างยังไงก็ไม่รู้นะคะ โครงการขายฝันของโจนส์นั้นเริ่มต้น
ที่รัฐอินเดียนาโพลิสในสหรัฐอเมริกา โดยมีสถานที่รวมตัวของกลุ่ม Peoples Temple อยู่ในสถานที่คล้ายโบสถ์แห่งหนึ่ง
โจนส์เป็นบุคคลที่ให้ความสำคัญกับการต่อต้านการเหยียดสีผิวและความเท่าเทียมของมนุษย์มาตลอด ด้วยความที่โตมากับ
ครอบครัวที่มีพ่อเป็นหนึ่งในสมาชิก คู คลักซ์ แคลน KKK (Ku Klux Klan) หรือกลุ่มต่อต้านคนสีผิวจึงทำให้เขาฝังใจ
และอยากเติบโตมาเป็นคนที่ให้ความเท่าเทียมและให้ความสำคัญกับมนุษย์ทุกคน ด้วยความที่เขาเป็นคนที่มีเสน่ห์และพูดจา
ชักจูงคนได้ดีจึงทำให้มีคนสนใจเข้าร่วมกลุ่ม Peoples Temple เป็นจำนวนไม่น้อย ภายหลังเมื่อเขาได้รวบรวมรับเงินบริจาค
จากสมาชิกเป็นจำนวนมาก โจนส์จึงพากลุ่ม 'ประชาชน' ของเขาไปยังเมืองยูโทเปียแห่งใหม่ในป่าลึกของประเทศกายอานา
(Guyana) โดยสถานที่แห่งนี้มีลักษณะเป็นค่ายที่พักอาศัยขนาดใหญ่ที่ทุกคนจะต้องช่วยกันทำงานเกษตรเพื่อดำรงชีวิต
สถานที่นี้มีชื่อเรียกว่า Peoples Temple Agricultural Project หรือเรียกว่าโจนส์ทาวน์ให้สั้นๆ และเข้าใจง่ายกว่าเดิม
แต่เหตุการณ์กลับแปลกประหลาดเมื่อก่อนหน้านี้ที่โจนส์ขายฝันให้ประชาชนของเขาว่า ยูโทเปียแห่งนี้ทุกคนจะอยู่ร่วมกัน
อย่าง 'มีความสุข' กลับไม่เป็นอย่างที่คิดเมื่อสมาชิกทุกคนถูกใช้ให้ทำงานอย่างหนักหน่วงกลางทุ่ง และใครที่อู้งานหรือ
ไม่ทำงานก็จะได้รับการลงโทษอย่างหนัก ไม่มีใครกล้าสงสัยว่า 'แล้วโจนส์กำลังทำอะไรอยู่?' ในขณะที่อำนาจและบทบาท
ของโจนส์ค่อนข้างก้ำกึ่งกับการเป็นต้นแบบในบางอย่าง เช่น เป็นผู้นำที่น่านับถือ, ศาสดา, ต้นแบบของความเป็น 'พ่อ'
ที่น่าเคารพ และอื่นๆ ประชาชนของโจนส์ทาวน์ส่วนมากเป็นชาวผิวสีและมาจากสังคมที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะจน จะรวย
มีหรือไม่มีมาก่อน ทุกคนที่ตามโจนส์มาที่นี่ล้วนนับถือและหลงเชื่อคำพูดแทบทุกอย่างของโจนส์
นอกจากบทบาทหน้าที่ที่จะต้องทำงานกันอย่างหนักหน่วงในโจนส์ทาวน์แล้ว ที่นี่ยังมีกฏที่เข้มงวดและแปลกประหลาด
ไม่ว่าจะเป็นการห้ามเสพยาต่างๆ ห้ามคนรักกัน ห้ามมีเพศสัมพันธ์กัน ฯลฯ แต่ในขณะเดียวกันโจนส์ทำทุกอย่างโดยที่
ประชาชนไม่เคยรู้มาก่อน กลุ่ม Peoples Temple นี้ยังมีความเป็นลัทธิที่เชื่อมั่นในความคิด (ที่โน้มน้าวใจเก่ง) ของโจนส์
บางอย่างที่โจนส์คิดและทำก็ออกจะกึ่งศาสนาและอิงไปทางคริสตศาสนาอยู่บ้าง แต่ที่แปลกและสุดโต่งที่สุดนั้นคือ
กิจกรรมสยองที่โจนส์คิดขึ้นมาโดยให้ประชาชนของเขาฝึกฝนทำกันหลายต่อหลายครั้ง นั่นก็คือ "การซ้อมการฆ่าตัวตายหมู่"
และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของเรื่องประหลาดๆ ที่ทำให้ประชาชนเริ่มเกิดความกลัวและสงสัยในตัวโจนส์ขึ้นมา
การซ้อมฆ่าตัวตายหมู่เริ่มต้นจากการประกาศเสียงตามสายซ้ำไปซ้ำมาของโจนส์ที่ทุกคนจะต้อง 'หยุด' ทำกิจกรรมทุกสิ่ง
รวมไปถึงหยุดพูดคุยกัน หลังจากนั้นทุกคนจะไปรวมตัวกันในจุดรวมตัวของโจนส์ทาวน์ กิจกรรมนี้โจนส์เรียกว่า "White Night"
ซึ่งเป็นการซ้อมฆ่าตัวตายเพื่อการปฏิวัติปรับเปลี่ยน โดยมีการทำมาตั้งแต่สมัยที่ทุกคนอยู่ที่สหรัฐอเมริกากับโจนส์แล้ว
โจนส์จะคอยบอกประชาชนของเขาอยู่เสมอว่าผู้คนในสหรัฐอเมริกาจะจับตัวพวกเรา (คนผิวสี) ไปฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ใครที่
แตกต่างจะต้องถูกฆ่า ดังนั้นเราจะต้องไม่โดนอย่างนั้น (แต่ฆ่าตัวตายเนี่ยนะ) และเขาก็มักจะจัดฉากการสังหารแบบโหดๆ
ขึ้นมาให้ประชาชนของเขาดูโดยที่ไม่มีใครรู้ว่ามันคือเรื่องลวงโลกมาตลอด
การซ้อมฆ่าตัวตายนี้ประชาชนก็ไม่รู้อย่างชัดเจนว่าครั้งไหนจะเป็นครั้งสุดท้ายและเป็นของจริง โดยทุกครั้งเมื่อดื่มน้ำที่
อาบยาพิษ (ปลอม) ไปแล้วและพบว่าตัวเองไม่ตาย โจนส์ก็จะหัวเราะแล้วพูดประมาณว่า
'ฮ่าๆ พวกคุณนี่เชื่อใจได้จริงๆ เอาล่ะ ไปนอนกันได้แล้วประชาชนที่รักของผม'
ซึ่งก็ไม่มีใครมีกะจิตกะใจนอนได้เต็มอิ่มหลังจากคืนของ White Night
แต่เหตุโศกนาฏกรรมของจริงนั้นก็เกิดขึ้นจนได้ เมื่อครั้งหนึ่งกลุ่มเจ้าหน้าที่จากสหรัฐฯ รู้สึกสงสัยในเมืองยูโทเปียแห่งนี้
และเข้ามาตรวจตราความเรียบร้อย แต่เหตุชุลมุนก็เกิดขึ้น เมื่อมีประชาชนจากโจนส์ทาวน์หลายคนขอร้องให้กลุ่มเจ้าหน้าที่
สหรัฐนำเรื่องกลับไปบอกคนที่นั่นและขอให้ช่วยนำตัวพวกเขาออกไปจากที่นี่ซะ โจนส์รู้ดังนั้นจึงไม่พอใจจึงจัดการสังหาร
พวกเขาในที่สุด และหลังจากนั้นจึงได้เริ่มทำการ "ฆ่าตัวตายหมู่" ของจริงขึ้น
เหตุการณ์ฆ่าตัวตายหมู่นี้เริ่มขึ้นด้วยอำนาจเด็ดขาดของโจนส์ ที่สั่งให้ประชาชนทุกคนมารวมตัวกันที่ศูนย์กลางและทำทุกอย่าง
เหมือนกับ White Night ที่เคยทำมาก่อน แต่ครั้งนี้เหมือนทุกคนจะมีเซนส์เป็นของตัวเองและรู้ดีว่ามันเป็น 'ของจริง'
และเป็นครั้งสุดท้ายที่จะเกิดขึ้นเหตุการณ์แรกที่ทำให้ทุกคนแทบขาดใจก็คือ การบังคับฆ่าตัวตายให้กับเด็กที่มีอายุน้อยที่สุด
เรียงตามลำดับ โดยให้พ่อแม่หรือผู้ปกครองของเด็กๆ ใช้หลอดดูดยาป้อนยาพิษที่ผสมน้ำผลไม้ให้เด็กๆ กลืนลงไป หลังจากนั้น
เหล่าผู้ใหญ่ต้องต่อแถวเพื่อรับยาพิษผสมน้ำองุ่นเพื่อดื่มไปตามๆ กัน ใครที่ขัดขืนหรือตั้งใจจะหนีจากเหตุนี้จะต้องถูกผู้คุ้มกัน
ยิงจนตายคาที่ และแน่นอนว่าไม่มีใครอยากจบชีวิตตัวเองในที่แบบนี้ แต่ก็นีไม่พ้นจากอำนาจที่น่ากลัวและบ้าคลั่งของโจนส์
เหตุสยองนี้ได้เกิดขึ้นจริงและจบลงด้วยเจ้าหน้าที่ของกายอานาเข้ามาสำรวจโจนส์ทาวน์
และพบร่างไร้ชีวิตของผู้คนกว่า 900 คน
นอนอยู่ตามพื้น ทั้งข้างในและข้างนอกอาคาร บางร่างกอดกันและจับมือกันเอาไว้ก่อนตาย ทำให้เป็นภาพที่น่าสลดใจและชวน
สยองขวัญมากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ ส่วนตัวโจนส์เองนั้นถูกพบว่ามีกระสุนปืนเจาะทะลุศีรษะและภายหลัง
ชันสูตรพบว่าเขาเสพยาจำนวนมากมาเป็นเวลานาน เหตุนี้จึงบอกได้ชัดว่าโจนส์นั้นมีความคิดที่น่ากลัวและถูกครอบงำด้วยฤทธิ์
ของสารเสพติดมาตลอด พร้อมกับอาการป่วยทางจิตที่ซับซ้อนยากจะเข้าใจ...
ปี 1997 ตำรวจพบร่างผู้เสียชีวิต 39 คนนอนเรียงรายกันอยู่ในแมนชั่นแห่งหนึ่งในแถบชานเมือง
ซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา โดยร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดแบ่งเป็นเพศหญิง 21 ราย
เพศชาย 18 ราย ทุกร่างสวมเสื้อและกางเกงสีดำสนิทและใส่รองเท้ากีฬาไนกี้สีดำ จากการตรวจพบ
ไม่เจอร่องรอยการถูกทำร้าย ไม่มีเลือดไหลหรือบาดเจ็บใดๆ ทั้งสิ้น ภายหลังเมื่อระบุตัวตนได้แล้วก็ได้รู้ว่า
ผู้เสียชีวิตกลุ่มนี้เป็นสมาชิกของกลุ่มลัทธิแปลกประหลาดที่มีชื่อว่า "Heaven's Gate" นั่นเอง
Heaven's Gate เป็นลัทธิสหัสวรรษ (Millenarism) ที่เชื่อว่าสังคมจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ แต่ลัทธินี้จะเน้นความเชื่อไปยังมนุษย์ต่างดาวและ UFO เป็นหลัก และต้นเหตุโศกนาฏกรรมครั้งนี้ก็มาจากความเชื่อของศาสดามาร์แชล (Marshall Applewhite) ที่เคยกล่าวไว้กับผู้คนในลัทธิว่า "การฆ่าตัวตายนั้นจะเป็นการข้ามไปยังอีกมิติหนึ่ง" เพื่อให้เราไปอยู่บนยานของมนุษย์ต่างดาวในดาวหางเฮล-บอพพ์ (Hale-Bopp) ที่ทุกคนในลัทธิเฝ้าฝันหา มาร์แชลหรือศาสดาของกลุ่มลัทธินี้มีประวัติการเข้าพบจิตแพทย์หลายครั้ง และเขามักมีความคิดประหลาดๆ และการกระทำแปลกๆ มาโดยตลอด รวมทั้งการป่าวประกาศกับคนในลัทธิเองว่าเขาเป็นผู้สืบเชื้อสายมาจากพระเยซู จากนั้นเขาจึงนำเรื่องต่างๆ มาผสมรวมกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องศาสนา, UFO และสิ่งมีชีวิตจากนอกโลก เขามีความเชื่อที่หนักแน่นว่าสักวันมนุษย์ต่างดาวจะเข้ามา 'กวาดล้าง' ทำความสะอาดทุกอย่างบนโลกนี้ และสิ่งที่พวกเราต้องทำนั้นก็คือการหายไปจากโลกนี้ ซึ่งแน่นอนว่าหมายถึงการฆ่าตัวตายนั่นเอง
แรกเริ่มมาร์แชลบอกกับสาวกในลัทธิ Heaven's Gate ว่าพวกเขาจะต้องละทิ้งความสะดวกสบายต่างๆ ให้หมด รวมไปถึงเรื่อง
ความต้องการทางเพศ, ความชอบพอกันระหว่างมนุษย์, เงิน, งาน ทุกคนจะต้องนำตัวเองเข้าสู่ขั้นสูงกว่าความต้องการเหล่านั้นให้ได้ และก็น่าแปลกที่มีคนหลงเชื่อไม่น้อย และหลังจากที่มีผู้เข้าร่วมลัทธิเขาจึงเริ่มต้นควบคุมชีวิตคนเหล่านั้นด้วยความเชื่อแปลกๆ ของเขา ในปีนั้นเมื่อมีข่าวเกี่ยวกับดาวหางเฮล-บอพพ์เคลื่อนตัวมาใกล้โลกพร้อมภาพถ่ายในอวกาศออกมาใประชาชนเห็น มาร์แชลจึงบอกกับสาวกว่าในภาพนั้นเป็นภาพของหนึ่งในผู้ก่อตั้งลัทธิ (ที่เสียชีวิตจากโรคมะเร็งในช่วงปี 1980) กำลังรอคอยพวกเขาอยู่ในอวกาศในยานที่ไม่ไกลจากดาวหาง ซึ่งภายหลังพบว่าเป็นภาพหลอกที่ทำขึ้นมาเท่านั้น
จุดพีคเกิดขึ้นเมื่ออาการทางจิตของมาร์แชลเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ ประกอบกับการเคลื่อนตัวของดาวหางเฮล-บอพพ์ที่ใกล้โลกเข้ามาเรื่อยๆ มาร์แชลจึงตัดสินใจจัดกิจกรรมฆ่าตัวตายหมู่ขึ้นมาในบ้านสุดหรูแห่งหนึ่งในซานดิเอโกพร้อมกับการอัดคลิปวิดีโอไว้เพื่อเตือนประชาชน กิจกรรมฆ่าตัวตายหมู่นี้จะเรียกผู้ที่เข้าร่วมว่า 'Heaven's Gate Away Team' โดยทุกคนจะสวมใส่ชุดดำ กางเกงดำ รองเท้าไนกี้สีดำ พร้อมกับผ้าสีม้วงที่ใช้คลุมหน้า ข้างๆ ตัวทุกคนจะมีกระเป๋าเดินทางตั้งอยู่ และภายหลังค้นพบเงินประมาณ 5 ดอลลาร์กว่าๆ อยู่ติดกระเป๋าแต่ละคนไว้ด้วย
การฆ่าตัวตายของทุกคนนั้นทำโดยการผสมยาพิษที่มีผลต่อประสาทลงในขนมพุดดิ้งและของหวานบางอย่าง ก่อนจะดื่มวอดก้าตามลงไปพร้อมกับนำถุงพลาสติกมาผูกคลุมหัวไว้เพื่อให้อากาศหายใจลดลงทำให้ใช้เวลารวดเร็วขึ้นในการเสียชีวิต การฆ่าตัวตายนี้จะมีการจัดการโดยการผลัดกันทำ คนที่ยังอยู่จะจัดการเรียงศพของคนที่เพิ่งตายให้เป็นที่เป็นทาง สรุปแล้วคือโศกนาฏกรรมครั้งนี้ใช้เวลาทั้งหมด 3 วันเรียงกันจนกระทั่งทุกคนเสียชีวิตหมด รวมทั้งมาร์แชลด้วย
การฆ่าตัวตายหมู่ครั้งนี้เป็นโศกนาฏกรรมที่ร้ายแรงและน่ากลัวที่สุดที่เคยเกิดในสหรัฐอเมริกา และจากเหตุกรณ์นี้ทำให้ประชาชน
ต้องตั้งสติและระวังตัวก่อนจะไปนับถือหรือยุ่งเกี่ยวกับลัทธิอะไรแปลกๆ เพราะจากทั้งเหตุกการณ์ในโจนส์ทาวน์จนถึงเหตุการณ์นี้
จะเห็นได้ชัดว่าเป็นการกระทำที่คล้ายกับการ 'ล้างสมอง' และชักจูงให้คนกระทำในสิ่งที่ไม่ได้คิดหรือตัดสินใจเอง
จากภายในใจ...
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
12 VOTES (4/5 จาก 3 คน)
VOTED: เอ๋ง ไม่ดัดจริต, แมวฮั่ว แมวขี้น้อยใจ
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เบี้ยวไม่ไหว! เจ้าของรถขยะจัดหนัก แก้เผ็ดถึงหน้าบ้านเทคนิคสร้างความมั่นใจง่าย ๆ ด้วยตัวเอง เปลี่ยนเป็นคนใหม่ ที่มั่นใจได้เต็มร้อยจากหลอนกลายเป็นฮา หนุ่มเจอต้นเหตุผีอำ ชาวเน็ตแห่แชร์คลิปสุดไวรัล"ทุ่งบัวตอง" มหัศจรรย์ทางธรรมที่อยากให้ทุกคนได้มาชม10 เทคนิคง่าย ๆ ที่ทำให้บ้านเย็นขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งแอร์สมุนไพร คลายเครียด ลดความวิตกกังวล ต้านซึมเศร้าเปิดโลกหมึกดัมโบ้ เจ้าสัตว์ทะเลสุดน่ารักที่เหมือนหลุดจากการ์ตูนดิสนีย์วัดป่าภูทับเบิก วัดสวย ในเพชรบูรณ์ชายฉกรรจ์ที่บุกถีบพระปีนเสาหลังจากออกอากาศในรายการดังนั้น เป็นลูกศิษย์ของหลวงพี่น้ำฝน ซึ่งตอนนี้รู้ตัวแล้ว10 อันดับมหาวิทยาลัยไทย ได้คะแนนจากผู้จ้างงานสูง จบแล้วมีโอกาสได้งานทำสูงเหยื่อปลัดสาวเมาขับ เสียชีวิตเพิ่มHot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ตำรวจเตือนหญิงขับสกุ๊ตเตอร์ไฟฟ้าขึ้นถนนใหญ่ เจอสวนกลับ ถ้าห้ามขับไปบอกร้านว่าห้ามขายสิ"ทุ่งบัวตอง" มหัศจรรย์ทางธรรมที่อยากให้ทุกคนได้มาชม10 อันดับมหาวิทยาลัยไทย ได้คะแนนจากผู้จ้างงานสูง จบแล้วมีโอกาสได้งานทำสูงวัดป่าภูทับเบิก วัดสวย ในเพชรบูรณ์