คลังเอาจริงด้านสินเชื่อบ้านคนแก่ แบงก์ ประกันภัย อสังหาฯ คึกขานรับ
เครื่องมือทางการเงิน ส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ผู้กู้จะนำบ้านไปเป็นหลักประกันกับ แล้วเลือกรับเป็นเงินก้อน หรือรายเดือน
คลังจุดพลุมาตรการดูแลคนแก่ เล็งดันสินเชื่อผู้สูงอายุ “รีเวิร์ส มอร์เกจ” รองรับสังคมคนชรา สถาบันการเงิน ประกันภัย และบริษัทอสังหาฯ เตรียมขยับอย่างคึกคัก คปภ.คุมบริษัทประกันภัยออกผลิตภัณฑ์ ประกันภัย ร่วมโครงการ
โดยคาดว่าปี 2563 ผู้สูงอายุจะมีสัดส่วน 15% ของประชากรโลก และอีก 15 ปีข้างหน้า จะเพิ่มเป็น 25% ขณะที่ไทยอีก 5 ปีข้างหน้า หรือปี 2564 ค่าจะมีผู้สูงอายุที่มีอายุเฉลี่ย 60 ปี 13 ล้านคน เพิ่มขึ้น 20% ส่วนข้อมูลของศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย ระบุว่า ประเทศไทยมีสัดส่วนประชากรผู้สูงวัย (อายุตั้งแต่ 65 ปี) มากที่สุดในอาเซียน โดยมีสัดส่วนสูงถึง 10% สูงกว่าสิงคโปร์ ที่มีสัดส่วนเพียง 9% เท่านั้น และสูงกว่าอันดับที่ 3 คืออินโดนีเซีย ที่มีสัดส่วนผู้สูงวัยเพียง 7%
ล่าสุด ภาครัฐกำลังผลักดันเครื่องมือทางการเงิน เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ หนึ่งในนวัตกรรมทางการเงิน นั่นคือ Reverse Mortgage ซึ่งมีลักษณะเป็นสินเชื่อประเภทหนึ่ง เมื่อแปลตรงตัวจะหมายถึง สินเชื่อที่มีลักษณะตรงกันข้ามกับสินเชื่อที่อยู่อาศัย นั่นหมายความว่า โดยทั่วไปผู้กู้จะขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อนำไปซื้อบ้าน โดยจะต้องผ่อนจ่ายค่าบ้านเป็นรายเดือน ส่วนสถาบันการเงินก็จะได้บ้านดังกล่าวเป็นหลักประกัน ในขณะที่ Reverse Mortgage ผู้กู้จะนำบ้านที่ตัวเองเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ไปวางเป็นหลักประกันกับสถาบันการเงิน และสถาบันการเงินจะจ่ายเงินให้กับผู้กู้ โดยจะเลือกได้รับเป็นเงินก้อน (Lump sum) หรือเป็นรายเดือน หรือเป็น Line of Credit โดยสินเชื่อที่จะครบกำหนดเมื่อผู้กู้เสียชีวิต เพื่อให้ผู้กู้ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน นำเงินดังกล่าวไปใช้จ่ายในบั้นปลายของชีวิต
เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า คปภ.เตรียมหารือกับหลายหน่วยงานทั้งบริษัทประกันชีวิต ประกันวินาศภัย เพื่อหาหลักเกณฑ์ในการควบคุมดูแล กรณีที่กระทรวงการคลังกำลังศึกษาร่วมกับหลายหน่วยงาน ในการแปลงสินทรัพย์ที่อยู่อาศัยของผู้สูงอายุเป็นเงิน (Reverse Mortgage) เพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุของไทย เพื่อเปิดทางผู้สูงอายุที่มีบ้านและที่ดิน สามารถนำมาเป็นหลักประกันสินเชื่อกับสถาบันการเงิน บริษัทประกันชีวิต จากนั้นนำส่งรายได้ให้คนชราเป็นรายเดือนจนกว่าจะเสียชีวิต จากนั้นจะเปิดทางให้ทายาทมาซื้อกลับขึ้นไป หรือสถาบันการเงิน บริษัทประกันชีวิต นำบ้านไปขายทอดตลาด เนื่องจากคนสูงอายุที่เป็นโสดเริ่มมีจำนวนมากในสังคมไทย ซึ่งมีผลอาจทำให้ บริษัทประกันภัย ออกผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมารองรับความต้องการของประชาชน นับว่าเป็นผลิตภัณฑ์ ประกันภัย ใหม่ที่จะเกิดขึ้นในสังคมไทย จึงต้องส่งเสริมแนวทางดังกล่าว
นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวว่า การแปลงสินทรัพย์ที่อยู่อาศัยของผู้สูงอายุเป็นเงิน ถือเป็นเรื่องใหม่ของสังคมไทย และหากบริษัทประกันชีวิตรับค้ำประกันสินเชื่อดังกล่าวแล้ว ในส่วนของบริษัทประกันวินาศภัยจะเข้าไปมีส่วนร่วมในเรื่อง ค้ำประกันทรัพย์สินตัวบ้านจากการขอสินเชื่อ ระยะเวลา 10-20 ปี และจะทำให้ประชาชนโดยเฉพาะผู้สูงอายุเข้าถึงระบบ ประกันภัย มากขึ้น แต่คงต้องรอดูผลสรุปหลักเกณฑ์ทั้งหมดของกระทรวงการคลัง