หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

15 อันดับทะเลสาบแปลก ประหลาดล้ำ ที่สุดในโลก ทะเลบัวแดง ของไทย ติดอันดับ 2 ของโลก

โพสท์โดย I sea u

ทะเลสาบที่เรากำลังจะพูดถึงนี้รับรองได้ว่าไม่มีที่ไหนเหมือน เพราะได้รับการันตีจากสำนักข่าว CNN แล้วค่ะว่าเป็น ทะเลสาบที่แปลกประหลาดล้ำที่สุดในโลก ซึ่งมี 15 อันดับด้วยกัน และที่สำคัญคือ คราวนี้ประเทศไทยของเราติดโผกับเขาด้วย และได้เป็นอันดับที่ 2 ทีเดียวเชียว มาดูกันว่ามีที่ไหนในโลกกันบ้าง 

 

อันดับ 1 ทะเลสาบแมงกะพรุน ไร้พิษ Jellyfish Lake : สาธารณรัฐปาเลา

15 อันดับทะเลสาบแปลก ประหลาดล้ำ ที่สุดในโลก ทะเลบัวแดง ของไทย ติดอันดับ 2 ของโลก

15 อันดับทะเลสาบแปลก ประหลาดล้ำ ที่สุดในโลก ทะเลบัวแดง ของไทย ติดอันดับ 2 ของโลก

ทะเลสาบแมงกะพรุนไร้พิษ หรือ Jellyfish Lake นี้ตั้งอยู่บนเกาะ Eil Malk ซึ่งเป็นเกาะหนึ่งในหมู่เกาะ Rock Islands ที่สาธารณรัฐปาเลา ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดดำน้ำยอดนิยมที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และจุดเด่นที่สุดของที่นี่คือ แมงกะพรุนทอง (Golden Jellyfish) นับล้านตัวแหวกว่ายอยู่ 

รายละเอียดเพิ่มเติม http://travel.truelife.com/detail/3113387

 

อันดับ 2 ทะเลบัวแดง หนองหาน กุมภวาปี จ.อุดรธานี : ประเทศไทย

 

ทะเลบัวแดง อยู่ในบึงน้ำจืดหนองหาน ตั้งอยู่ในอำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วย พันธุ์ปลา พันธุ์นก และพืชน้ำจำนวนมาก โดยดอกบัวจะออกดอกมีปริมาณมากที่สุดในช่วงเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ และค่อยๆ ลดปริมาณลง ทำให้บริเวณนี้กลายเป็นทะลบัวแดงที่สวยงามตระการตา และในช่วงเดือนธันวาคม จนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ ของทุกปี จะมีงานเทศกาลทะเลบัวแดงบานอีกด้วย

 

อันดับ 3 ทะเลสาบยางมะตอย ลา เบรีย พิตช์ La Brea Pitch Lake : ประเทศตรินิแดด

 

ทะเลสาบยางมะตอย หรือ La Brea Pitch Lake นี้เป็นทะเลสาบที่อยู่ในเมือง La Brea สาธารณรัฐตรินิแดด และโตเบโก น่าแปลกประหลาดสุดๆ เพราะทะเลสาบแห่งนี้เป็นทะเลสาบที่ไม่มีน้ำ แต่ว่ามียางมะตอยแทน และเป็นยางมะตอยที่กำเนิดขึ้นเองตามธรรมชาติอีกด้วย โดยทะเลสาบมีขนาดราว 40 เฮคเตอร์ และมีความลึกราว 75 เมตร ทำให้ยางมะตอยกลายเป็นสินค้าส่งออกของที่นี่ไปโดยปริยาย

 

อันดับ 4 บึงเดือด Boiling Lake : ประเทศโดมินิกา 

 

บึงเดือด หรือ Boiling Lake ในประเทศโดมินิกา ประเทศหมู่เกาะในทะเลแคริบเบียน  ทะเลสาบแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตวนอุทยานแห่งชาติ “Morne Trois Pitons National Park” ซึ่งเป็นหนึ่งในมรดกโลก เป็นบ่อน้ำพุร้อนที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก รองจากทะเลสาป Frying Pan Lake ของประเทศนิวซีแลนด์ มีความกว้างราว 60 เมตร ลึก 59 เมตร อุณหภูมิริมทะเลสาบอยู่ที่ประมาณ 82 – 91.5 องศาเซลเซียส แต่ยังไม่สามารถวัดอุณหภูมิใจกลางทะเลสาบที่กำลังเดือดปุดๆ อยู่ได้

 

อันดับ 5 ทะเลสาบแมนนิกัวแกน Lake Manicouagan : ประเทศแคนาดา

 

ทะเลสาบแห่งนี้ตั้งอยู่ในรัฐ Quebec ของประเทศแคนาดา มีลักษณะเป็นรูปวงแหวน เกิดขึ้นเมื่อราว 200 ล้านปีก่อนจากอุกาบาตลูกใหญ่เป็นอันดับ 5 ในจำนวนดาวเคราะห์น้อยทั้งหมดที่เคยพุ่งชนโลก ทำให้เกิดเป็นล่องลึกลงไป และกลายเป็นทะเลสาบ ซึ่งที่นี่จะรู้จักกันในชื่อว่า “eye of Quebec” นั่นเอง ซึ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 100 กิโลเมตร

 

อันดับ 6 ทะเลสาบสีแดง ลากูน่า โคโลราด้า Laguna Colorada Lake : ประเทศโบลิเวีย

 

ลากูน่า โคโลราด้า หรือทะเลสาบสีแดง เป็นทะเลสาบน้ำเค็ม และตื้น ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติ Eduardo Avaroa Andean Fauna ของประเทศโบลิเวีย น้ำในทะเลสาบเป็นสีแดงนี้เกิดจากตะกอน จุลินทรีย์ และสีของสาหร่าย และที่สำคัญ ตรงจุดนี้เป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ของนกฟลามิงโก้หลายสายพันธุ์อีกด้วย

 

อันดับ 7 ทะเลสาบลาวาในภูเขาเอเรบัส Mount Erebus : แอนตาร์กติกา

 

ทะเลสาบแห่งนี้ตั้งอยู่ในทวีปที่หนาวเย็นที่สุดในโลก บนความสูงถึง 12,500 ฟุต แม้จะเป็นทะเลสาบที่ตั้งอยู่ท่ามกลางสภาพอากาศอันหนาวเหน็บ  แต่ผืนดินรอบทะเลสาบกลับมีอุณหภูมิสูงถึง 65 องศาเซลเซียส เพราะทะเลสาบที่ว่านี้ก็คือ “ทะเลสาบลาวา” ในปากปล่องภูเขาไฟเอเรบัสนั่นเอง ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1970 ปากปล่องภูเขาไฟจึงเป็นลาวาหลอมเหลวอยู่ตลอดเวลา และมี ลาวาบอมบ์ ที่เป็นก้อนลาวาร้อนจัดหลุดออกมาตามไหล่เขาเป็นครั้งคราว

 

อันดับ 8 ทะเลสาบสีชมพู ทะเลสาบฮิลลิเออร์ Lake Hillier : ประเทศออสเตรเลีย

 

ทะเลสาบฮิลลิเออร์นี้ตั้งอยู่บนเกาะมิดเดิ้ล ไอส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย แปลกประหลาดล้ำตรงที่ว่าน้ำในทะเลสาบแห่งนี้มีสีชมพูเหมือนนมสตรอเบอร์รี่มิลค์เชค และถึงแม้ว่าในโลกนี้ยังมีทะเลสาบสีชมพูอีกหลายแห่ง แต่ทะเลสาบฮิลลิเออร์นั้นมีความแตกต่างจากทะเลสาบสีชมพูแห่งอื่นๆ ตรงที่น้ำในทะเลสาบเป็นสีชมพูจริงๆ ไม่ได้เกิดจากการตะกอน แสงสะท้อน หรือสาหร่ายในน้ำ เมื่อตักน้ำในทะเลสาบฮิลลิเออร์มาใส่ขวดก็จะได้น้ำสีชมพูใส และจะเป็นสีชมพูอยู่อย่างนี้ตลอดไปจนนักวิทยาศาสตร์อึ้งไปตามๆ กัน น่าอัศจรรย์ใจมาก ซึ่งมีข้อสันนิษฐานว่าสีชมพูนั้นเกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในเกล็ดของเกลือนั่นเอง

รายละเอียดเพิ่มเติม http://travel.truelife.com/detail/3060070

 

อันดับ 9 สวรรค์ของนักเล่นเซิร์ฟ ทะเลสาบสุพีเรีย Lake Superior : สหรัฐอเมริกา

 

ทะเลสาบสุพีเรีย ตั้งอยู่ระหว่างรัฐมินนิโซตา, รัฐมิชิแกน และรัฐวิสคอนซินของสหรัฐอเมริกา กับรัฐออนแทรีโอของประเทศแคนาดา ครอบคลุมพื้นที่กว้างขวางมากถึง 82,170 ตารางกิโลเมตร และเป็นทะเลสาบน้ำจืดใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย ความแปลกไม่เหมือนใครของที่แห่งนี้คือ เป็นทะเลสาบที่มีคลื่นลมแรง ทำให้กลายเป็นสวรรค์ของนักเล่นเซิร์ฟไปเลยทีเดียว 

 

อันดับ 10 ทะเลสาบเมดิซีน Medicine Lake : ประเทศแคนาดา

 

ภายในอุทยานแห่งชาติแจสเปอร์ มีอยู่ในทะเลสาบลึกลับอยู่นั่นก็คือ ทะเลสาบเมดิซีนแห่งนี้ ทุกฤดูหนาวน้ำจะหายไปเหมือนที่นี่ไม่เคยมีน้ำมาก่อน เกือบเหมือนอ่างอาบน้ำที่ปล่อยน้ำออกได้อย่างน่าอัศจรรย์ ความจริงของสิ่งลึกลับนี้ได้ถูกเปิดเผยออกมาแล้วว่า ทะเลสาบเมดิซีน ไม่ได้เป็นทะเลสาบจริงๆ แต่เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่รับน้ำ “มาลีน วัลเลย์ (Maligne Valley)” ซึ่งในช่วงฤดูร้อนของทุกปีธารน้ำแข็งที่ปกคลุมบนภูเขาในแถบนี้จะละลายลงสู่แม่น้ำมาลีน โดยน้ำจากธารน้ำแข็งส่วนหนึ่งจะมารวมกันอยู่ที่นี่จนกลายเป็นทะเลสาบสวยงามในฤดูร้อนนั่นเอง

 

อันดับ 11 ทะเลสาบเนตรอน ทะเลสาบแห่งความตาย Lake Natron : ประเทศแทนซาเนีย

 

ที่นี่เป็นทะเลสาบน้ำเค็มสีแดงสดที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศแทนซาเนีย ซึ่งเป็นแหล่งรองรับน้ำจากแม่น้ำ Ewaso Ng’iro ในประเทศเคนย่า และมีธารน้ำพุร้อนที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุไหลผ่าน ตัวการที่ทำให้ทะเลสาบเป็นสีแดงนี้มาจากไซยาโนแบคทีเรีย นอกจากนี้น้ำในทะเลสาบยังมีพิษร้ายแรงต่อสิ่งมีชีวิตราวกับได้จ้องนัยน์ตาของเมดูซ่า ด้วยความเป็นด่างสูงทำให้ซากสัตว์ทั้งหมดในบริเวณนี้ล้วนแล้วแต่มีลักษณะคล้ายถูกสต๊าฟไว้ แห้ง และแข็งเป็นหิน แต่ที่นี่กลับกลายเป็นถิ่นอาศัย และแพร่พันธุ์ของนกฟลามิงโกนับล้านตัว

** แร่เนตรอน ประกอบด้วย โซเดียมคาร์บอเนต (โซดา แอช) และโซเดียมไบคาร์บอเนต (เบกกิ้ง โซดา) โดยมีโซเดียมคลอไรด์ (เกลือแกง) กับโซเดียมซัลเฟตปนอยู่เล็กน้อย ซึ่งสมัยอียิปต์โบราณมีการขุดแร่เนตรอนจากก้นทะเลสาบที่เหือดแห้งใกล้แม่น้ำไนล์ เพื่อนำมาทำมัมมี่

 

อันดับ 12 ทะเลสาบแมคเคนซี่ Lake McKenzie : ประเทศออสเตรเลีย

 

ไม่มีทะเลสาบที่ไหนเจ๋งเท่าที่นี่อีกแล้ว เพราะเป็นทะเลสาบแห่งเดียวที่มีหาดทรายสีขาวที่เกิดจากแร่ซิลิก้าบริสุทธิ์ 100% ซึ่งแร่ธาตุนี้มักจะนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ความงามเพื่อบำรุงเส้นผม, ผิว และเล็บ ทะเลสาบแห่งนี้ตั้งอยู่บนเกาะเฟรเซอร์ ในรัฐควีนส์แลนด์ ด้วยความที่ทะเลสาบแมคเคนซี่ตั้งอยู่เหนือระดับน้ำใต้ดิน น้ำในทะเลสาบจึงมาจากน้ำฝนล้วนๆ น้ำที่นี่จึงใส และมีความเป็นกรดสูงทำให้ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆ เจริญเติบโตอยู่ในทะเลสาบได้เลย ถึงแม้ที่นี่จะบริสุทธิ์ผุดผ่องขนาดไหน แต่ด้วยโลชั่นกันแดด ครีมต่างๆ นานาของนักท่องเที่ยวก็อาจทำให้ที่นี่เสียไปในไม่ช้า

 

อันดับ 13 ทะเลสาบพาวิเลียน Pavilion Lake : ประเทศแคนาดา

 

ทะเลสาบพาวิเลียน ตั้งอยู่ในหุบเขามาร์เบิ้ล แคนยอน ประเทศแคนาดา ทะเลสาบแห่งนี้ได้รับความสนใจจากบรรดานักวิทยาศาสตร์ และนักชีวดาราศาสตร์ทั่วโลก หลังมีนักดำน้ำพบโครงสร้างแปลกตาลักษณะคล้ายหินคาร์บอนหรือปะการังน้ำจืดที่ก้นทะเลสาบเมื่อปี ค.ศ. 1997  อันเป็นฟอสซิลของสิ่งมีชีวิตที่เก่าแก่ที่สุดบนโลกและมีอายุมากถึง 3,450 ล้านปี  ที่นี่ยังเป็นแหล่งดูนก ตกปลาเทราท์ แค้มปิ้ง เดินป่า พายเรือแคนู และดำน้ำแบบสคูบ้า และที่นี่ยังเป็นฐานปฏิบัติการร่วมภายใต้โครงการ “พาวิเลียน เลค รีเสิร์ช โปรเจ็ค” ของทีมสำรวจจากองค์การนาซ่าและองค์การอวกาศแคนาดา ตลอดจนสถาบันวิจัยต่างๆ จากทั่วโลกอีกด้วย ทุกวันนี้ นักวิทยาศาสตร์และนักชีวดาราศาสตร์ขององค์การนาซ่าและสถาบันต่างๆ ยังคงปักหลักสำรวจและศึกษาอาณาจักรสัตว์เซลล์เดียวที่ก้นทะเลสาบแห่งนี้ เพื่อสืบหาต้นกำเนิดของสิ่งมีชีวิตบนโลก (และดาวดวงอื่น)

 

อันดับ 14 ทะเลสาบมรณะ ทะเลสาบไนออส Lake Nyos : สาธารณรัฐแคเมอรูน

 

ทะเลสาบมรณะ “ไนออส” หรือ “คิลเลอร์เลค” เป็นทะเลสาบปล่องภูเขาไฟที่ตั้งอยู่ในเขต Northwest Region ของแคเมอรูน ตั้งอยู่บนแนวภูเขาไฟที่มีพลัง ทั้งยังมีแอ่งแมกมาอยู่ใต้ทะเลสาบจึงมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ปริมาณมหาศาลรั่วซึมออกมาปะปนในน้ำ เมื่อเวลาผ่านไปนานนับร้อยๆ ปี ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่สะสมอยู่ใต้น้ำก็ทวีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ  ทำให้ใต้น้ำมีแรงดันสูงขึ้นตลอดเวลา ทะเลสาบไนออสจึงเปรียบเสมือนระเบิดเวลาดีๆ นี่เอง ซึ่งในปี ปี ค.ศ.1986 เกิดภัยพิบัติครั้งยิ่งใหญ่ น้ำใต้ทะเลสาบระเบิด และพุ่งขึ้นไปในอากาศถึง 300 ฟุต ตามมาด้วยสึนามิขนาดย่อมๆ การระเบิดของน้ำใต้ทะเลสาบในครั้งนั้นทำให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ราว 1-3 แสนตันถูกปลดปล่อยออกมาสู่บรรยากาศด้วยความเร็ว 60 ไมล์ ต่อชั่วโมง ส่งผลให้ประชาชน 1,746 คน และสัตว์เลี้ยงกว่า 3,500 ตัวที่อยู่ในรัศมี 24 กม. เสียชีวิตเพราะขาดอากาศ

 

อันดับ 15 ทะเลสาบเดดซี Dead Sea : ประเทศจอร์แดนและอิสราเอล

ทะเลที่แสนมหัศจรรย์ใจของโลก คนที่ไปเล่นน้ำในทะเลแห่งนี้จะไม่มีวันจมแม้ว่าเราจะอ้วนขนาดไหน นั่นเป็นเพราะทะเลสาบแห่งนี้ที่มีความเค็มมากกว่าทะเลทั่วไปถึง 10 เท่า จนคนสามารถลอยบนผิวน้ำได้ ทะเลสาบเดดซีมีความยาว 50 กม. กว้าง 15 กม. ลึกมากถึง 306 เมตร ได้ชื่อว่าเป็นทะเลสาบน้ำเค็มจัด และลึกที่สุดในโลก พืชและสัตว์จึงไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ยกเว้นจุลินทรีย์ และการที่ทะเลสาบแห่งนี้อุดมไปด้วยเกลือและแร่ธาตุจึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพและความงามที่สาวๆ ชื่นชอบ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก CNN และ paow007.wordpress.com

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 


โพสท์โดย: I sea u
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
36 VOTES (4/5 จาก 9 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
สวนปาล์มต้องเสียหาย เพราะความมักง่ายของคน
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
พลังมหัศจรรย์ของ "เกลือ" เปลี่ยนการซักผ้าให้สะอาดง่ายเขมรมาเหนือเมฆ เรียกประชาชนที่อยู่รอบนครวัดมาให้ทำการปรับปรุงบ้านใหม่ ให้เน้นรูปทรงบ้านให้เป็นทรงโบราณ นักท่องเที่ยวมาเที่ยวจะได้ฟินๆยังจำ " คลิปแรก " ของโลกบน YouTube กันได้ไหม
ตั้งกระทู้ใหม่