หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

งานนี้มีหนาว!!! เน็ตไอดอล-เพจดัง-ขายของ เตรียมถูกเรียกจ่ายภาษีระนาว!!

โพสท์โดย Fuckyou

นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ขณะนี้ กรมฯได้สั่งเจ้าหน้าที่ตั้งทีมเฉพาะกิจ เพื่อศึกษาถึงการจัดเก็บภาษีจากบริษัทผู้ให้บริการผ่านออนไลน์และโซเชียลเน็ตเวิร์ค ทั้งไทยและต่างชาติ เช่น กูเกิล เฟซบุค อินสตาแกรม แอพพลิเคชั่นไอโชว์ หรือบีโกไลฟ์ เพราะถือเป็นนิติบุคคลที่เปิดให้บริการในประเทศไทยและมีผู้ใช้จำนวนมาก เมื่อมีรายได้ก็ต้องนำสู่ระบบเสียภาษีให้ถูกต้อง โดยภาษีดังกล่าวมีหลายประเทศดำเนินการและจัดเก็บอยู่ ทั้งประเทศอินโดนีเซีย, อังกฤษ และออสเตรเลีย เป็นต้น ซึ่งบางบริษัทไม่มีสำนักงานในประเทศไทย เช่น กูเกิล ทำให้กรมสรรพากรต้องพิจารณา ซึ่งอาจเสนอกระทรวงการคลังพิจารณาแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ให้ใช้บทบัญญัติแห่งประมวลรัษฎากร เพื่อเปิดทางให้บริษัทผู้ให้บริการผ่านออนไลน์และโซเชียลเน็ตเวิร์คเข้าสู่ระบบภาษีให้ถูกต้อง

บิ๊กบอสมาเอง! สรรพากรเปิดการ์ดเสียภาษี ดักธุรกิจบนโลกออนไลน์ เงินสะพัดไม่ใช่เล่น พุ่งเป้าไปยังเหล่าเพจดังและเน็ตไอดอล พบส่วนใหญ่ยังยื่นไม่ถูกต้อง หากไม่ยื่นตามกำหนดมีโทษทั้งจำทั้งปรับ!

ถึงขนาดตั้งทีมพิเศษมาตรวจสอบ

Social Network มีกี่ประเภท…?
Social Network สามารถแบ่งแยกออกได้ตามรูปแบบ และวัตถุประสงค์ในการใช้งาน ดังต่อไปนี้
1. Blog (บล็อก) เป็นเว็บไซต์รูปแบบหนึ่งที่มีการเชื่อมโยงผู้คน ทั้งผู้อ่านและผู้เขียนเข้าเป็นสังคมเดียวกัน
2. Microblog (ไมโครบล็อก) เป็นเว็บไซต์ขนาดเล็กที่สามารถส่งข้อความหากันได้ เช่น Twitter
3. Social Network Website (โซเชียล เน็ตเวิร์ค เว็บไซต์) เป็นเว็บไซต์สังคมออนไลน์ ได้แก่ Facebook hi5 เป็นต้น ซึ่งสามารถแชร์ข้อความ รูปภาพ วิดีโอ บทความ เพลง และลิ้งค์ นอกจากนี้ยังมีการแสดงความคิดเห็น การกดไลค์ การอภิปราย
4. Bookmark Social Site (โซเชียลบุ๊คมาร์ค) เป็นเว็บไซต์ที่สามารถให้เราเก็บหน้าเว็บไซต์ที่ชื่นชอบไว้ได้

22 โซเชียลมีเดียทรงพลังของโลกปี 2016

1. Facebook – เชื่อว่าตอนนี้ คงไม่มีใครไม่รู้จักเฟสบุ๊ค แบรนด์ใหญ่ต่างๆมีการสร้างแฟนเพจเพื่อเพิ่มช่องทางในการสื่อสารกับกลุ่มลูกค้า เช่น ให้คนกดติดตามข่าวสารเกี่ยวกับแบรนด์ของตัวเองโดยการกด Like ที่เพจนั้นเอง

2. Line – แอฟพลิเคชั่นแชทยอดฮิต ที่ปัจจุบันในไทยมีผู้ใช้งานมากกว่า 33 ล้าน มีจุดเด่นคือเป็นเจ้าแรกที่สามารถส่งสติ๊กเกอร์น่ารักๆให้คนอื่นได้ ในมุมของการตลาด นอกจาก Line จะอนุญาติให้แบรนด์ต่างๆสร้างสติ๊กเกอร์แบรนด์ของตัวเอง ก็ยังมี Official Account ซึ่งเป็นอีกช่องทางนึงที่แบรนด์สามารถส่งข้อมูลข่าวสารให้กับผู้ติดตามตนเองได้มากยิ่งขึ้น

3. Twitter – โซเชียลมีเดียที่ขึ้นชื่อว่าใช้งานง่ายที่สุด เพราะถึงแม้ว่าจะพิมพ์ข้อความได้เพียง 140 ตัวอักษร แต่นั้นก็ช่วยกลั่นกรองให้ผู้เขียนพิมพ์เฉพาะใจความสำคัญลงไป ทำให้ข้อความที่ส่งออกไปนั้นกระชับ และง่ายต่อการอ่าน

4. Youtube – เว็บไซต์บริการที่ให้ผู้ใช้สามารถแชร์วีดีโอให้ผู้อื่นดูได้ โดยที่ยูทูปจัดเป็น 1 ในเว็บไซต์สำคัญสำหรับนักการตลาด ที่เราสามารถโฆษณาวีดีโอคอนเท้นท์ของเราให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายได้

5. Instagram – โซเชียลมีเดียที่เราสามารถอัพโหลดรูปภาพต่างๆและแชร์ให้กับผู้ติดตามของเราได้ โดยที่แบรนด์ต่างๆสมัยนี้ก็นิยมใช้ Instagram เป็นสื่อกลางเพื่อโปรโมทและให้ข้อมูลข่าวสารกับผู้ติดตามเช่นเดียวกัน

6. Snapchat – แอฟพลิเคชั่นที่เราสามารถแชร์รูป วีดีโอ ให้กับผู้อื่นได้ โดยเราสามารถตั้งเวลาได้ว่าจะให้รูปนั้นโชว์กี่วินาที เมื่อครบเวลาที่กำหนดรูปนั้นก็จะถูกลบออกทันที

7. Whatsapp – แอฟพลิเคชั่นแชทยอดนิยมที่มีผู้ใช้งานปัจจุบันมากกว่า 700 ล้านคนทั่วโลก

8. LinkedIn – Platform ที่เน้นในเรื่องของการทำธุรกิจโดยตรง เป็นทั้ง Business Community ที่อัพเดทข่าวสาร และยังช่วยให้บริษัทสามารถว่าจ้างบุลคากรที่มีประสิทธิภาพมาเข้าร่วมทำงานกับบริษัทได้

9. LinkedIn Pulse – Pulse ของ LinkedIn ซึ่งเป็นช่องทางที่คนสามารถแชร์ไอเดียใหม่ๆ และติดตามผู้นำความคิด (Thought Leader) ในอุตสาหกรรมนั้นๆได้

10. Pinterest – เว็บที่เป็นเหมือน Inspiration Board ให้กับคนหลายๆคน เป็นที่นิยมในหมู่ผู้หญิง มีฟังก์ชั่นให้เราสามารถแชร์รูปภาพ ความคิดสร้างสรรค์เจ๋งๆ ให้กับคนอื่น โดยผู้ใช้สามารถ “Pin” ข้อมูลเหล่านั้นเก็บไว้เป็นหมวดๆได้

11. Google+ – แพลดฟอร์มน้องใหม่จาก Google ที่รวมบริการต่างๆของ Google เข้าไว้ด้วยกัน ทำให้ผู้ใช่งานนั้นสามารถใช้งานได้อย่างสะดวก อีกทั้งยังสามารถให้ผู้ใช้งานสร้างคอนเท้นท์ต่างๆ แชร์ข้อมูลแลกเปลี่ยนกับเพื่อนใน Circles ที่ตนเองสร้างได้

12. Vine – โซเชียลมีเดียที่มีจุดเด่นในการแชร์วีดีโอคอนเท้นท์สั้นๆ ไม่เกิน 6 วินาที ทำให้ข้อมูลต่างๆจะสื่อสารกับผู้ใช้นั้น ถูกผ่านการกลั่นกรองมาอย่างดี เพื่อที่จะใช้ 6 วินาทีนั้นให้คุ้มค่าที่สุด

13. Xing – เป็นเว็บไซต์หางานที่ดีเว็บไซต์นึง สามารถช่วยให้เราพัฒนาความสัมพันธ์กับผู้ว่าจ้าง และ ผู้นำความคิดในธุรกิจนั้นๆได้

14. Renren – โซเชียลมีเดียที่ใหญ่ที่สุดในจีน มีการใช้งานจะคล้ายกับ Facebook คือผู้ใช้สามารถแชร์ความเห็นของตัวเอง อัพเดทสเตตัส และติดต่อกับผู้อื่นได้

15. Disqus – เป็น Tool ที่ให้เราสามารถใช้รับมือกับ feedback คอมเม้นต่างๆ และสแปม บนเว็บไซต์ของเรา อีกทั้งยังช่วยให้เราสามารถสร้าง social engagement กับลูกค้าได้อีกด้วย

16. Tumblr – เว็บบล๊อกที่มีจุดเด่นตรงที่ผู้ใช้สามารถอัพโหลดภาพเคลื่อนไหว ภาพ gif ลงไปได้ ซึ่งต่างจากแพลตฟอร์มอื่นๆ เช่น Facebook ที่ไม่รองรับฟังก์ชั่นนี้

17. Twoo – เว็บไซต์หาคู่ที่ช่วยให้ผู้ใช้พบปะผู้คนใหม่ๆ จับกลุ่มเป้าหมายอายุ 25 ปี หรือต่ำกว่า จากทั่วโลก

18. MyMFB – โซเชียลมีเดียของมุสลิม มีฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆเหมือน Facebook โดยมีเป้าหมายที่จะเชื่อมโยงผู้ใช้มากกว่า 1.5 พันล้านคน เข้าเป็นแพลตฟอร์มเดียว

19. vk.com – โซเชียลมีเดียสัญชาติรัสเซีย โดยที่เราสามารถตั้งโปรไฟล์ ส่งข้อความได้ มีวิธีการใช้งานแทบจะไม่ต่างจาก Facebook เลย

20. Meetup – แพลทฟอร์มที่ช่วยให้เราสามารถพบปะกลุ่มคนใหม่ๆที่มีความสนใจและความชอบเหมือนๆเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งเหมือนกับเรา ทำให้เราได้มีเพื่อนเพิ่มในวงที่กว้างขึ้น

21. Camfrog - แคมฟรอก (Camfrog) เป็นซอฟต์แวร์ของบริษัทแคมแชร์ (Camshare) สามารถให้ผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยนภาพจากเว็บแคมและเสียงผ่านทางอินเทอร์เน็ต โดยโปรแกรมนี้สามารถใช้ให้มีการประชุมออนไลน์ได้หลายคนพร้อมกัน แคมฟรอกแตกต่างจากโปรแกรมทั่วไปโดยผู้ใช้สามารถใช้โปรแกรมบนเซิร์ฟเวอร์ของตัวเองได้ ในปัจจุบัน แคมฟรอกมีการพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิด และการแสดงวีดีโอ หลายอย่างรวมถึงเรื่อง การท่องเที่ยว กีฬา ภาษา วัฒนธรรม เล่นเกมตอบปัญหาออนไลน์ แม้แต่เรื่องทางเพศ หรือการร่วมเพศออนไลน์ ในแคมฟรอก

22. Hi5 - มีจำนวนสมาชิกลงทะเบียนใช้งานอยู่กว่า 75 ล้านรายทั่วโลก สมาชิกส่วนใหญ่ใช้ไฮไฟฟ์ในการติดต่อสื่อสารกับกลุ่มเพื่อน แลกเปลี่ยนประสบการณ์ แชร์รูปภาพกันดู ในแต่ละวันจะมีสมาชิกเข้ามาใช้บริการจากทั่วโลกนับล้านราย

ประโยชน์ของ Social Network
เป็นการเชื่อมต่อที่ช่วยให้ข้อมูล ข่าวสารรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทำให้ผู้คนสามารถสื่อสารกันได้สะดวก ง่ายดาย และประหยัดเวลา นอกจากนี้ยังทำให้โลกกว้างขึ้นอีกด้วย เพราะทำให้หลายคนต่างก็มีสังคมที่กว้างขึ้น รู้จักกันเพิ่มมากขึ้น ทั้งยังช่วยสร้างรายได้อีกด้วย

แต่ก็ใช่ว่า Social Network จะมีแต่ข้อดี เพราะถึงแม้จะเป็นเทคโนโลยีที่มีประโยชน์ก็จริง แต่ถ้านำไปใช้ไม่ถูกทาง หรือเหมาะสมก็ก่อให้เกิดอันตรายได้ เช่น การแชร์ข้อมูลข่าวสารที่ผิดจากความเป็นจริง เป็นต้น ดังนั้น Social Network จะมีประโยชน์มากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับการนำไปใช้ของแต่ละคน…

ดังนั้น Social Network จึงเป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่เป็นโลกจำลองเสมือนจริง โดยทุกคนสามารถติดต่อสื่อสารและรับทราบข้อมูลได้อย่างสะดวก

ผู้ประกอบธุรกิจบนโลกออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกูเกิ้ล เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม แอปพลิเคชันไอโชว์ หรือบีโกไลฟ์ ที่ไม่ได้เสียภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย คงได้มีเสียวสันหลังกันบ้าง เพราะกระทรวงการคลังสั่งตั้งทีมพิเศษ เพื่อตรวจสอบการเสียภาษีของบุคคลเหล่านี้โดยเฉพาะ!

ไม่เพียงแต่เฉพาะเจ้าของธุรกิจต่างๆ เพียงอย่างเดียว ทางกรมสรรพากรยังเพ่งเล็งไปยังบรรดาเฟซบุ๊กแฟนเพจชื่อดัง รายไปถึงเน็ตไอดอลที่มียอดผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก เนื่องจากกลุ่มบุคคลเหล่านี้มักจะได้รับการติดต่อจากเจ้าของผลิตภัณฑ์ ในการโฆษณาสินค้า รวมถึงการเป็นพรีเซ็นเตอร์ของสินค้าให้อีกด้วย แน่นอนว่าเมื่อมีรายได้เข้ามา ก็ควรต้องทำการเสียภาษีให้ถูกต้อง

หลังจากที่ข่าวนี้เผยแพร่ลงบนโลกออนไลน์ ก็มีผู้คนให้ความสนใจในประเด็นนี้ และเห็นด้วยกับกระทรวงการคลังจะเร่งตรวจสอบ ในการเสียภาษีของบุคคลกลุ่มนี้อย่างจริงจัง

และนี้คือความคิดเห็นบนโลกโซเชียลฯ ถึงกรณีการเก็บภาษีของเหล่าเน็ตไอดอลนี้

“ไม่เคยมองพวกนี้เป็นเน็ตไอดอลอ่ะ คือมันทำอะไรบ้างนอกจากขายครีม รีวิวอาหารเสริม โชว์นม ??”
“ปรับให้หมดเลยไอพวกนี้ ไม่ชอบเลยไอ้พวกเน็ตไอดอลมาโฆษณา แอ๊บใช้ครีมนั่นนี่ ให้มันเสียภาษีตามกฎหมายไปเลย”
“ใช้ทรัพยากรแผ่นดินอาศัยอยู่แผ่นดินทำมาหากินบนแผ่นดินไทย เมื่อมีรายได้ก็ควรเสียภาษีให้กับประเทศชาติ แล้วขายของตามเพจตามเว็บหลายๆ ที่ เสียภาษีกันบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้”
“ประเภทโชว์นม โชว์เต้าคิดภาษีเท่าน้ำหนักเต้าเลยค่ะ วันๆ โชว์แต่เต้า”
“พระสายเหลือง พระนอกรีด พระปลุกเสกวัตถุมงคล โฆษณาหาเงินเข้าวัดอุบายเล่ห์เหลี่ยมสร้างโน้นสร้างนี้ ความผิดเล็กน้อยรู้ว่าผิดแต่ก็ทำ พวกนี้ลวงโลกทั้งนั้น ได้เงินจากคนนับหมื่นๆล้านเอาไปทำอะไร?”
“ก็ดีนะ จะได้ลดการเอาเปรียบกัน ไม่งั้นมนุษย์เงินเดือน ลูกจ้างในระบบ เสียภาษีกันอยู่พวกเดียว”
“เอาให้หนัก รำคาญมาก แต่ละคนโชว์นม เรียกlike แบบนี้ ทำตัวเถื่อนๆ แบบนี้ สงสารเยาวชนสมัยใหม่มา ไม่รู้ เอาพวกนี้ขึ้นมาเป็นไอดอลกันได้ยังไง”
“ขายจนแจกทองได้ แจก Iphone ได้ คงรวยไม่ธรรมดา คงไม่หนีภาษีหรอกมั่ง (มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่เชื่อว่าแจกจริง)”
“มาทายกันเล่นๆ ว่าพวกที่ชอบโพสต์โชว์ว่าขายครีมได้เดือนเป็นแสนๆ มันยังจะโชว์กันอยู่ไหม”

หากคนดังโซเชียลฯ คนไหนก็ตามที่ไม่ได้ยื่นเสียภาษีอย่างถูกต้อง ย่อมมีความผิดทางกฎหมายแน่นอน ส่วนอัตราโทษที่ระบุไว้คือ หากไม่ยื่นเสียภาษีภายในเวลาที่กำหนด ปรับไม่เกิน 2,000 บาท รายได้ถึงเกณฑ์ที่จะต้องเสียภาษี แต่ไม่ไปเสียภาษี โทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท จำคุกไม่เกิน 6 เดือน และต้องเสียเงินเพิ่มอีก 1.5% ต่อเดือนจนกว่าจะเสียภาษี

เมื่อกลายเป็นบุคคลสาธารณะไปแล้ว ย่อมมีสถานะไม่ต่างจากดารา นักร้อง นักแสดง ฉะนั้น หากตุกติกในการเสียภาษี ก็ต้องโดนเรียกเก็บย้อนหลัง ไม่ต่างจากดาราเช่นกัน...

แง้มเป๋า’ตังค์เน็ตไอดอล รายได้มาจากยอดคนติดตาม! และโฆษณาเช่น ขายสินค้า,เช่าบูชาวัตถุมงคล,ทำบุญ,สักยันต์ เป็นต้น

ในโลกยุคดิจิตอลเช่นนี้ หันไปทางไหนก็จะพบเจอแต่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนกันแทบทั้งนั้น ซึ่งสมาร์ทโฟนเหล่านั้นย่อมพ่วงกับแอปพลิเคชันต่างๆ เช่น ไลน์ เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม หรืออื่นๆ ที่ทำให้การติดต่อสื่อสารกันระหว่างบุคคลง่ายขึ้น รวมทั้งเป็นพื้นที่ในการสร้างตัวตนขึ้นมาให้เป็นที่รู้จักบนสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะผู้ที่มีรูปร่างหน้าตาดี ยิ่งใครมียอดการกดไลก์มาก มีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก เป็นที่ถูกใจชาวโซเชียลฯ ก็จะถูกยกตำแหน่งเน็ตไอดอลให้ไปอย่างสบายๆ

ส่วนแอปพลิเคชันต่างๆ ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารนั้น ทุกวันนี้ก็ถูกนำมาต่อยอดให้การเป็นพื้นที่ให้การสร้างรายได้ ทำให้ง่ายต่อการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าแล้ว แถมยังไม่ต้องเสียค่าบริการในการเช่าพื้นที่อีกต่างหาก เจ้าของผลิตภัณฑ์หลายรายจึงได้ใช้ความดังของเน็ตไอดอลนั้น เป็นสื่อกลางในการโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าของตน เพราะรู้สึกว่าพวกเขาหรือพวกเธอ สามารถเข้าถึงคนทั่วไปได้ง่ายกว่าดารานักแสดง

จากการสอบถามกับผู้ที่อยู่ใกล้ชิดในวงการนี้ ทำให้ทราบถึงรายได้ของเหล่าเน็ตไอดอลชื่อดังของเมืองไทย ว่ามีเรตการจ้างไม่น้อยหน้าดารานักแสดง กันเลยทีเดียว ดูได้จากบรรทัดดังต่อไปนี้

หากมียอดผู้ติดตามเกินหนึ่งแสนคน ราคาจะอยู่ที่ราว 3 หมื่นบาท ต่อการโพสต์ 1 ครั้ง

ถ้ามียอดคนตาม 5 แสนคนขึ้นไป ก็จะได้ประมาณ 5 หมื่นบาท โพสต์ 1 ครั้ง

ส่วนอีกเรตหนึ่งที่นิยมใช้กัน คือการคิดเรตจาก10% ของยอดฟอลโล เช่น ยอดฟอลโล 5 แสน ก็ได้ 5 หมื่นต่อครั้ง หรืออาจเรียกได้ว่า ยิ่งคนติดตามเยอะ ยิ่งจ้างแพง นั่นเอง

แต่การจะจ้างมาให้เป็นคนโปรโมตสินค้าอย่างเดียวคงจะธรรมดาเกินไป งานนี้จะต้องมีกลยุทธ์ทางการตลาดเข้ามาเสริม ซึ่งวิธีที่จะให้คนหันมาสนใจมากขึ้น นั่นก็คือการแจกฟรี ซึ่งเจ้าของผลิตภัณฑ์ต่างๆ จะเป็นผู้สนับสนุนให้มีการแจก มีทั้งการแจกเงินสด แจกทอง แจกเครื่องสำอาง แต่ที่ทุ่มสุดๆ ก็คงจะเป็นการแจกรถให้ไปขับกันฟรีๆ

ก่อนแจกจะมีเงื่อนไขมาให้ทำตามเล็กๆ น้อยๆ เช่นต้องกดติดตาม กดไลค์ กดแชร์โพสต์เสียก่อน แน่นอนว่ายิ่งแจกบ่อยเข้า แชร์บ่อยเข้า สินค้าก็เป็นที่รู้จักมากขึ้นเพราะถูกแชร์ต่อๆ ไป ทางด้านเหล่าเน็ตไอดอลเองที่ได้ผู้ติดตามเพิ่มขึ้น ก็เอาผลประโยชน์ตรงนี้มาเป็นเครื่องมือในการอัปเงินค่าจ้างจากเจ้าของสินค้าได้อีกทอดหนึ่ง เห็นไหมล่ะว่ามีแต่ได้กับได้

ไม่ได้มีแค่เพียงเน็ตไอดอลเท่านั้น เพราะทุกวันนี้ยังมีบรรดาเพจดังที่มีอิทธิพลต่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก เป็นอีกช่องทางที่เจ้าของผลิตภัณฑ์ขอหยิบยืมพื้นที่ให้การฝากสินค้าของตนเอง ให้พอผ่านหูผ่านตาประชาชนไม่แพ้กัน

ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมกรมสรรพากรถึงเพ่งเล็งคนกลุ่มนี้ จนถึงขนาดต้องตั้งทีมพิเศษขึ้นมาตรวจสอบกัน เพราะฉะนั้น เมื่อมีรายได้เข้ากระเป๋าตังค์กันแล้ว อย่าลืมว่าปัดไม่ได้เพราะมีการสอบย้อนหลังได้ก็อย่าลืมเสียภาษีกันนะจ๊ะ เพจดังและเน็ตไอดอล!

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Fuckyou's profile


โพสท์โดย: Fuckyou
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
36 VOTES (4/5 จาก 9 คน)
VOTED: นนท์คัฟ, ซุปเปอร์ ใจมด, เอ๋ง ไม่ดัดจริต, Keroppi, Tabebuia, ซาอิ, น้ำตาลเผ็ด, แมวฮั่ว แมวขี้น้อยใจ, โสมม
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
สิ่งที่สาวก iPad " รอคอยมา 14 ปี "ชาวเน็ตฮือฮา! ขายที่ดินพร้อมบ้าน 200 ล้าน ติดวิวสภาสัปปายะสภาสถานช้าหน่อยนะครับ!! เมื่อเจ้าของร้านไล่พนักงานออกยกเซต 8 คน เพราะขโมยเงิน งานนี้ต้องกลับมาทำทุกอย่างเองทั้งหมด 😌การกระทำที่คุณไม่สมควรทำเมื่อมาเที่ยวประเทศญี่ปุ่นสาวสอบติดครู ร้องไห้หนัก เหตุบนลิเกไว้ 4 วัด เข่าทรุดหลังรู้ราคาลิเกทีมเชื่อมจิตจ่อฟ้อง! สื่อปล่อยเฟกนิวส์..ไม่เคยบอกเชื่อมจิตแล้วจะไปนิพพานเขมรคือต้นกำเนิด วัฒนธรรมของการกิน 'สุนัข' ?สาวร้องสายไหมต้องรอด คลีนิกทำ "จิ๊มิไหม้" แล้วไม่รับผิดชอบสิ่งที่คนญี่ปุ่นเรียนรู้ เมื่อมาเมืองไทย
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
นกสุดแปลก!!นึกว่าหลุดออกมาจากโลกแฟนตาซีชาวกัมพูชาเดือด เมื่อมีบล็อคเกอร์หนุ่มคนกัมพูชา ไปถ่ายรูปล้อเลียนรูปปั้นม้าน้ำมากจนเกินงามเกินไปสาวร้องสายไหมต้องรอด คลีนิกทำ "จิ๊มิไหม้" แล้วไม่รับผิดชอบช้าหน่อยนะครับ!! เมื่อเจ้าของร้านไล่พนักงานออกยกเซต 8 คน เพราะขโมยเงิน งานนี้ต้องกลับมาทำทุกอย่างเองทั้งหมด 😌อดีตพระเอกดัง เตรียมตัวย้ายประเทศไปเยอรมนี
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
วาฬนับร้อยตัวเกยตื้น ที่หาดออสเตรเลียBarbiecue Sauce ซอสออกใหม่ของบาร์บี้มิจฉาชีพอ้าง! เป็น "อีลอน มัสก์"..หลอกสาวสูญเงินกว่า 2 ล้านบาทหนุ่มจ้อนยาว ช้ำใจ หลังโดนสาวหลอกถ่ายโอลี่แฟน
ตั้งกระทู้ใหม่