หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

อุทาหรณ์!! ไปบ้านคนที่เราชอบ แต่ถูกซ้อมและข่มขืน เป็นสิ่งที่เจ็บปวดมาก

โพสท์โดย กิตตินันท์

กระทู้ไปไกลมากๆและแน่นอนว่ามีทั้งสิ่งที่ดีและสิ่งที่ไม่ดี สิ่งที่ดีคือหลายๆท่านได้รับทราบถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นจริง และตระนักถึงความไม่สบายใจของน้อง ให้กำลังใจน้อง สิ่งไม่ดีคือมีบางท่านที่มองเห็นเรื่องการข่มขืนเป็นเรื่องตลกโปกฮาไป ซึ่งตรงส่วนนี้เราคงต้องเข้าใจว่าแต่ล่ะคนก็ถูกเลี้ยงดูมาแตกต่างกัน คงจะว่าอะไรไม่ได้ เพราะพ่อแม่บางคนก็สั่งสอน หรือพ่อแม่บางคนก็อาจจะลืมหน้าที่ของตัวเองในส่วนนี้ไป จนทำให้เกิดบุคลากรที่ไม่สามารถยกระดับสภาพจิตใจตัวเองขึ้นมาได้ในหลากหลายรูปแบบ

สิ่งที่สะเทือนใจผมมากที่สุด คือคอมเม้นท์ที่มองเห็นเป็นเรื่องตลก มองเห็นว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องอุปโลก หรือแม้กระทั้งมองเห็นว่าเป็นเรื่องขบขัน คนจำพวกเหล่านี้คือจำพวกที่ถ้าเลือกได้ก็คงไม่ขออยู่ร่วมโลกด้วย คุณต้องเติบโตมาในสังคมแบบไหน ได้รับการสั่งสอนยังไง ถึงจะสามารถกลายเป็นคนที่ทำร้ายคนอื่นได้ทั้งๆที่ไม่รู้จักกัน ทำไมถึงเลือกที่จะทำร้ายคนอื่นด้วยคำพูดเพียงแค่เพราะต้องการตอบสนองความรู้สึกของตัวเองล่ะครับ?

อยากฝากไว้ว่า #การข่มขืนไม่ใช่เรื่องตลก และ #ผู้ชายโดนข่มขืนมันไม่ได้ฟินแบบในนิยาย

ใจเขา ใจเรา ไม่มีใครอยากเจอเรื่องต่ำทรามแบบนี้

อยากทำให้ใครรู้สึกเหมือนโดนกระทำอีกรอบเพราะคำพูดที่ไม่ได้คิดของตัวเองเลยนะครับ...


-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


เริ่มก่อนว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับผม แต่เกิดขึ้นกับน้องๆที่ผมได้ไปเป็นพี่อาสาดูแลนะครับ (เป็นโครงการบำบัดโครงการหนึ่งที่ขอไม่กล่าวถึง) และเรื่องนี้ได้รับการอนุญาตแล้วในปัจจุบัน ผมเคยได้พูดคุยกับน้องคนหนึ่งถึงสิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับตัวเขา เป็นเด็กอายุวัยประมาณสิบเจ็ดสิบแปดครับ เริ่มจากตัวน้องมีอาการกลัวผู้ชายด้วยกัน วันแรกๆที่เราเข้าไปคุยด้วยเขาไม่สบตา ไม่พูด และมีท่าที่หวาดกลัวครับ คือน้องไม่พร้อมจะรับมือเราเลย แรกๆผมเลยเริ่มจากการสร้างสันทนาการ ดีดกีต้าร์ ร้องเพลงให้ฟัง น้องดูมีการตอบสนองมากขึ้นแม้จะยังไม่ยอมพูด เริ่มให้เราเข้าไปทำความรู้จัก

เขาแนะนำตัวง่ายๆไม่กี่ประโยค แล้วก็บอกกับเราว่าขอบคุณที่มานั่งเป็นเพื่อนเขา (เด็กๆแต่ล่ะคนจะมีพี่ๆอาสาคอยดูแล 2-3คนต่อเด็กหนึ่งคน แต่จากที่ได้อ่านประวัติฯมาตอนคัดเลือกเด็กๆแต่ล่ะคนในความกำกับ ผมขอพี่ๆในกลุ่มอาสาไปนั่งคุยกับน้องคนเดียว) น้องยังไม่ยอมพูดอะไรครับ ผมไม่ถาม และไม่ทำให้น้องลำบากใจ น้องไม่อยากพูดผมก็นั่งเล่าเรื่องของผมไป เรื่องตลกๆในชีวิตที่เคยเจอมา เราทำความรู้จักกันผ่านเพลงและประโยคที่ตอบโต้กันไป จนจบวันแรกน้องยังไม่เล่าอะไรครับ แต่สำหรับผมถือว่าคืบหน้าขึ้นอีกนิด ผมเลยถอยกลับและบอกกับน้องว่าจะมาใหม่อีกครั้งในอาทิตย์หน้า

อาทิตย์ต่อมาผมซื้อหนังสือไปฝากน้องหนึ่งเล่มเป็นเรื่องสั้นตลกๆ เรานั่งเล่นนั่งคุยกันจนหมดเวลาสันทนาการในสัปดาห์นี้ น้องมีอาการที่ดีขึ้น ยิ้มขึ้นมานิดหน่อยจากตอนแรกที่รักษาระยะห่างจากทั้งผมและพี่ๆคนอื่นๆที่มาด้วยกัน น้องยังไม่เล่าเรื่องอะไร และผมไม่ซักถามอะไรเช่นเดียวกัน

อาทิตย์ต่อมาอีกครั้งก่อนอาทิตย์สุดท้ายจะหมดโครงการของพวกผม ผมนั่งคุยกับน้องเรื่องความฝันในอนาคต น้องอยากเรียนการบินครับ เขาบอกผมว่าอยากเป็นกัปตัน ผมหัวเราะแล้วบอกว่าเขาเป็นได้แน่ ถ้าตั้งใจพยายามให้กับการศึกษา เราคุยกันไปคุยกันมาจนมาถึงจุดหนึ่งที่น้องหลุดปากออกมาว่า ถ้าทุกคนเป็นแบบผมได้น้องคงไม่ต้องกลัวอะไร ผมเลยถามเขากับว่า แล้วเขากลัวอะไร?

น้องเงียบ ผมเลยเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่นแต่น้องเงียบไปนานก่อนจะเปิดปากพูดกับผม เขาถามว่าว่ารู้ใช่ไหมว่าเขาเคยโดนข่มขืน ผมพยักหน้าไม่พูดปัด น้องเขาเงียบอีกครั้ง ผมเลยบอกต่อว่าถ้าไม่สบายใจก็ไม่ต้องเล่า มันไม่ใช่เรื่องผิดอะไรถ้าเราจะลืมเรื่องแย่ๆที่ผ่านไปแล้ว เขาร้องไห้ครับ และเขาถามผมว่าเชื่อเขาจริงๆเหรอว่าเขาโดนข่มขืน เชื่อจริงๆใช่มั้ย ผมพยักหน้าและบอกเขาว่าผมเชื่อเขานะ น้องร้องไห้หนักขึ้นไปจนผมต้องลูบหลัง เอาน้ำเอาท่าให้กิน ก่อนจะนั่งเงียบกันไป แต่ถึงที่สุดแล้วน้องก็ยอมเปิดใจยอมเล่าให้ฟังครับ

น้องเล่าว่าที่ไม่อยากเล่าให้ใครฟังเพราะน้องกลัวคนอื่นไม่เชื่อ กลัวหาว่าน้องโกหก เพราะน้องเคยเล่าให้คนใกล้ๆตัวฟังแล้วเขาหาว่าน้องโกหก น้องเล่าว่าเพราะตัวเองหน้าตาธรรมดาๆ ธรรมดาๆในที่นี้คือน้องเป็นเด็กผิวสองสีครับ หน้าตาและบุคลิกภาพเหมือนคนทั่วไปเพียงแต่น้องจะระแวงๆและนอนไม่ค่อยหลับ น้องบอกว่าคนที่ฟังสิ่งที่น้องเล่าปลักใจเชื่อไปว่าน้องโกหกเพื่อเรียกร้องความสนใจ ผมบอกว่าคนอื่นไม่เชื่อไม่เป็นไร แต่ผมเชื่อเขานะอยากให้เขาสบายใจตรงนี้ เขาร้องไห้อีกครั้งและเล่าไปทั้งแบบนั้น

น้องเป็นเกย์และชอบรุ่นพี่คนหนึ่งเรียกว่าก็ปลื้มนั้นแหละ จนกระทั้งน้องได้มีโอกาสพูดคุยทำความรู้จัก น้องบอกว่าน้องดีใจที่เหมือนเขาสนใจเรา แต่น้องไม่ได้อยากมีอะไรด้วย วันที่รุ่นพี่คนนั้นนัดไปบ้านน้องโดนข่มขืนครับ เขาเล่าว่าพอไม่ยอมรุ่นพี่คนนั้นก็ซ้อมน้องและพยายามยัดส่วนตรงนั้นเข้ามา น้องบอกว่ามันเจ็บ และน้องไม่ได้มีความสุขเลย ตรงส่วนนั้นของน้องฉีกขาดและมีของเหลวไหลออกมา น้องโดนต่อยเข้าที่หน้าและลำตัว รุ่นพี่คนนั้นทำแบบนั้นจนกระทั้งเขาเสร็จ น้องเล่าว่าน้องโดนบังคับให้ใส่เสื้อผ้า ก่อนมันจะพาน้องไปปล่อยไว้ตรงป้ายรถเมล์แถวนั้น

หลังจากกลับถึงบ้านน้องก็ไม่กล้าเล่าให้ใครฟัง เล่าเพียงแต่ว่าไปมีเรื่องชกต่อยธรรมดา น้องเล่าว่าน้องไม่สามารถถ่ายหนักได้ในช่วงนั้นเพราะมันแสบและจุกเสียด มันเหมือนมีอาการพะอืดพะอมตลอดเวลาและน้องถ่ายไม่ออก น้องไม่กล้าไปแจ้งความเพราะอับอายซึ่งถ้ามองในมุมนั้นมันคงไม่ผิดอะไรที่น้องจะกลัวและอายจนไม่กล้าเอาเรื่อง เพราะถ้าเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา คนที่เสียมากที่สุดก็อาจจะเป็นตัวน้องเอง

ต่อมาน้องเคยเล่าให้เพื่อนฟังและได้โดนตอกกลับมาว่าเป็นเรื่องที่ไม่จริง (จริงๆคำพูดที่เพื่อนน้องพูดตอบกลับกับน้องมันรุนแรงกว่านี้ค่อนข้างมากนะครับ) เพราะไม่คิดว่าจะมีใครข่มขืนคนที่หน้าตาธรรมดาๆแบบน้อง น้องร้องไห้และเก็บตัวอยู่คนเดียวช่วงหนึ่งจนที่บ้านพาไปหาหมอ และพร้อมแจ้งว่าตรงบริเวณนั้นของน้องมันอักเสบ และต้องกินยารักษาตามวิธีการ น้องเล่าว่าทั้งครอบครัวมีแค่แม่ที่เชื่อในสิ่งที่เขาเล่า คนอื่นๆก็จะพูดทำนองคล้ายๆกับเพื่อนน้องที่ว่า ทำให้ตั้งแต่ตอนนั้นมาน้องไม่กล้าเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง และมีอาการหวาดระแวงทุกคนที่เข้าใกล้ จนเกือบจะคิดสั้นฆ่าตัวตายเพราะความกลัวจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนเอง น้องเข้ารับการบำบัดจิตใจและเยียวยาไปตามกระบวนการจนมาเจอพวกผม

จบวันนั้น ต่อมาเป็นอาทิตย์สุดท้ายที่จะได้เจอกัน ผมบอกกับน้องว่าไม่ต้องเป็นห่วง ถ้าต้องการคำปรึกษาสามารถโทรมาหาผมได้เลยนะ หรือทักไลน์ผมมาก็ได้ ผมยินดีพูดคุยกับเขา เขาถามย้ำกับผมอีกรอบว่าทำไมถึงเชื่อเขาไม่เหมือนกับคนอื่นๆที่ไม่เชื่อเขา ผมบอกกับเขาว่าเรื่องแบบนี้มันสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกคนที่โชคร้ายไปเจอกับบุคคลผู้ไม่หวังดี การโดนข่มขืนไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นกับเฉพาะคนหน้าตาดีๆ ถึงเหตุการณ์ตรงจุดๆหนึ่งเรื่องเลวร้ายแบบนี้มีสิทธิ์เกิดขึ้นได้กับคนทุกคน ดังนั้นผมจึงเชื่อในสิ่งที่เขาเล่า เขาฟังผมพูดจบและร้องไห้ บอกกับผมว่าขอบคุณมากๆที่เชื่อเขาวนเวียนไปแบบนั้น

ตลอดระยะเวลา น้องมีอาการที่ดีขึ้นครับ แม้จะยังไม่กล้าจับมือหรือถูกเนื้อต้องตัว แต่นับว่ามีอาการที่ดีขึ้นกว่าอาทิตย์แรกที่เราเจอกัน หลังจากวันนั้นผมก็ยังติดต่อกับน้องเป็นครั้งคราว ถามไถ่ถึงอาการและชีวิตทั่วๆไป ปัจจุบันนี้น้องสอบติดการบินพลเรือนของสถาบันแห่งหนึ่ง มีอาการที่ดีขึ้นกว่าครั้งแรกที่เราเจอกันเยอะมากๆจนเกือบจะหายเป็นปกติ มีบางครั้งที่เราได้เจอกันบ้างตามค่ายอาสาต่างๆและน้องกลายเป็นเด็กค่ายอาสาอีกคนหนึ่ง น้องเล่าให้ผมฟังว่าบาดแผลพวกนั้นยังคงอยู่ตลอดไป น้องไม่ได้ลืม แต่ไม่คิดว่าจำเป็นจะต้องไปกรีดแผลที่ตัวเองมีซ้ำๆ น้องมีแนวคิดที่โตขึ้นมากๆในอีกระดับครับ

...เรื่องของน้องเรื่องหนึ่งที่น่าอดสู่ใจมากที่สุดคือการที่สังคมตัดสินว่าน้องโกหกเพียงเพราะน้องหน้าตาไม่ดี

ผมอยากจะบอกว่าเรื่องแบบนี้ใครๆก็มีสิทธิ์โดนกันได้ และถ้าเลือกได้ไม่มีใครอยากโดนข่มขืนหรอกนะครับ ไม่ว่าจะผู้หญิงกับผู้ชายหรือผู้ชายกับผู้ชาย การข่มขืนมันไม่ได้สวยงามแบบในหนังในละคร ผู้ที่โดนข่มขืน โดนทั้งทารุณกรรมร่างกายและจิตใจ มันไม่ฟิน ไม่มีความสุขหรอกนะครับที่โดนกระทำอะไรแบบนี้ มันไม่เหมือนกับภาพฝันหรือนิยายวายที่หลายๆคนฟินกันเลย

'เหยื่อ' หลายรายเสียทั้งสุขภาพจิตและสุขภาพใจเพียงเพราะความต้องการและความมักมากของคนๆหนึ่ง ซึ่งผมพูดจริงๆนะผมสาปแช่งคนพันธ์นี้มากๆ และมีอีกเยอะมากที่ไม่ได้รับโทษตามกฎหมายเพราะอะไรหลายๆอย่างจากในบ้านเรา

โดนกระทำทางร่างกายว่าหนักหนาแล้ว โดนกระทำทางด้านจิตใจมันแย่มากกว่านั้นเยอะครับ  

อย่าทำตัวเหมือนฆาตกรเพียงเพราะต้องการตอบสนองความปากเปราะของตัวเอง

อยากฝากให้ไอ้พวกปากเปราะทั้งหลายได้ตระนักและคิดบ้างนะครับ คำพูดของคุณบางครั้งก็ไม่ต่างอะไรจากมีดที่ฆ่าคนๆหนึ่งให้ตายทั้งเป็น คุณสามารถเลือกไม่พูดอะไรก็ได้ แต่คุณกลับเลือกจะพูดในสิ่งที่มันทำร้ายคนอื่นออกมา ไม่คิดบ้างเหรอครับว่าคำพูดพวกนั้นมันทำให้คนๆหนึ่งทุกข์ทรมานใจได้มากขนาดไหน เคสนี้เป็นอีกเคสที่เจอแล้วผมหนักใจในรีแอคฯของสังคมที่มีต่อเหยื่อ

โปรดอย่าได้ซ้ำเติมคนที่เป็นเหยื่ออีกเลยนะครับ

ขอบคุณครับ

ขอบคุณที่มา: คุณ สมาชิกหมายเลข 3433451 http://pantip.com/topic/35631682
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
กิตตินันท์'s profile


โพสท์โดย: กิตตินันท์
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
36 VOTES (4/5 จาก 9 คน)
VOTED: vho, Chawap, โจวเทียนไฉ, วายุนันท์, makhamdong, fujita, zerotype
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ลูกค้าหนุ่มเศร้า หลังรีวิวชุดกีฬาที่ซื้อมา แต่ดันพลาดเห็นหนอนน้อยiPhone รุ่นประหยัดมาแล้ว!เกมพลิก!! เมื่อหนุ่ม ๆ เเอบเเม่ไปหาปลา เกือบโดนด่า เเต่พอเห็นลูกได้ปลาตัวใหญ่กลับบ้าน เสียงเปลี่ยนทันทีเลยนะเเม่ไปซื้อน้ำแข็งแต่สิ่งที่ได้มาด้วยคือเจ้าตัวนี้ชาวลาวไม่ทน! หลังหนุ่มจีนโพสทิ้งเงินกีบลงในถังขยะ ทำคนลาวถึงกับไม่พอใจ?ของในร้านนี้หยิบได้ฟรีทุกชิ้นคนไข้วัย 72 ติดเชื้อโควิดนาน 613 วัน ก่อนกลายพันธุ์ในร่างกายกว่า 50 ครั้งอิหร่านโวยมะกัน ฐานขวางปาเลสไตน์ เป็นสมาชิกสหประชาชาติโรงแรมหลอน! สาวพบมือปริศนาโผล่ที่กระจก..หลังย้ายรูปพระได้ไม่นาน
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
"ลาบูบู้" ไม่รอด โดนเขมรเคลมเรียบร้อยแล้ว..บอกรากเหง้ามาจาก "หน้ากาล"นักร้องดังชาวมะกัน "มันดิซ่า" เสียชีวิตแล้ว!!iPhone รุ่นประหยัดมาแล้ว!ชาวมุสลิมตันหยงมัสปลื้มใจบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ไม่แบ่งแยกศาสนา
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
เกิดเหตุเรือล่มในสาธารณรัฐแอฟริกากลางหนุ่มที่ข่มขืนสาววัย 15 กลางทะเลถูกสั่งจำคุกแล้วนักร้องดังชาวมะกัน "มันดิซ่า" เสียชีวิตแล้ว!!WHO พบเชื้อไข้หวัดนก H5N1 ในนม
ตั้งกระทู้ใหม่