หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ซึมเศร้าหรือไบโพลาร์ อธิบายสมองส่วนลิมบิก โดยเปรียบเทียบกับผู้ติดยาเสพติด (อาจทำให้คนผู้ป่วยเข้าใจโรคได้เพิ่มขึ้น)

โพสท์โดย SpiderMeaw

สมองส่วนลิมบิกคือ อยู่บริเวณส่วนกลางของสมอง ทำหน้าที่หลั่งฮอร์โมน.... โดปามีน นอร์อะดรีน่ารีน อะดรีน่ารีน และเซโรโตนิน ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับโรคทางอารมณ์(โรคซึมเศร้าหรือไบโพลาร์) หรือโรคอื่นๆเช่น โรควิตกกังวล โรคความผิดปกติที่เกิดหลังความเครียดที่สะเทือนใจ หรืออื่นๆ

- แล้วยาเสพติดเปรียบเทียบให้เข้าใจกับโรคเหล่านี้ได้อย่างไร?
     ยาเสพติด เช่น ยาบ้า(เมทแอมเฟตามีน20-25%) ยาไอซ์(เมทแอมเฟตามีน100%) หรือสารเสพติดอื่นๆ เช่น เหล้า บุหรี่
ยาเสพติดจะกระตุ้นสมองส่วนลิมปิกให้หลั่งโดปามีน เมื่อเสพบ่อยๆ ก็จะทำให้สมองส่วนนี้ทำงานได้มากกว่าปกติ(ไวต่อสิ่งเร้า เช่น เมื่อมีความสุขเล็กน้อยก็จะสุขมากเกินจริง หรือเมื่อเครียดเล็กน้อยก็จะเครียดมากเกินจริง คือ หลั่งโดปามีนและอะดรีน่ารีนมากกว่าเกินจริง)


    เมื่อเสพได้ระดับหนึ่งซีโรโตนินก็จะต่ำลง ทำให้ วนคิด วิตกกังวล และควบคุมอารมร์โกรธไม่ได้ เมื่อเสพนานเกินไปหรือมากเกินไปอย่างต่อเนื่อง สมองส่วนนี้ก็จะทำงานหนักมากเกินไป ทำให้สมองบาดเจ็บ มีอาการหลงผิดชั่วคราว(เก่งเกินไปจริง) หรือหวาดระแวงชั่วคราว(กลัวเกินจริง)


    ถ้ายังไม่รักษาด้วยการหาหมอและกินยา เพื่อควบคุมระดับฮอร์โมนเหล่านี้(การรักษาก็คือ กินยารักษาโรคซึมเศร้าหรือไบโพลาร์นั่นเอง) สมองส่วนนี้ก็จะบาดเจ็บมากขึ้นและถูกทำลายในที่สุด ทำให้มีอาการหลงผิดหรือหวาดระแวงถาวร ไม่สามารถกลับเป็นปกติ หรือคล้ายไอคิวต่ำขึ้นกับความรุนแรงของการถูกทำลายเนื้อสมอง
*เช่น ยาไอซ์มีสารกระตุ้นมากกว่ายาบ้า4-5เท่า ทำให้ผู้เสพยาไอซ์สมองจะเสียหายเร็วกว่ายาบ้า คือ ใช้งานสมองส่วนนี้หนักกว่านั้นเอง

- คล้ายกับผู้ป่วยโรคทางอารมณ์(ซึมเศร้าหรือไบโพล่าร์)
    ที่ใช้งานสมองส่วนนี้นานเกินไป เช่น ใช้เวลาคิดเรื่องเครียดยาวนานเกินไป/1วัน(หลั่งอะดรีน่ารีนมากเกินไป) หรือใช้เวลาคิดถึงเรื่องสุขยาวนานเกินไป/1วัน(หลั่งโดปามีนมากเกินไป) จากพฤติกรรมนี้..... ก็จะทำให้ซีโรโตนินต่ำในที่สุด ก็ยิ่งวนคิดเรื่องเครียดเพิ่มขึ้น หรือวนคิดเรื่องสุขเกินจริงเพิ่มขึ้นไปอีกนั่นเอง(เชื่อว่าตัวเองเก่งเกินจริงจนขาดความรอบคอบ คล้ายคนเมาทำงาน) และควบคุมอารมร์โกรธไม่ได้(ไม่ว่าโกรธตัวเองหรือผู้อื่น)


ดังนั้น.... เมื่อผู้ป่วยเข้าใจกลไกนี้ ผมหวังว่าผู้ป่วยจะตั้งใจกินยา ตั้งใจควบคุมพฤติกรรมการใช้สมองส่วนนี้ไม่ให้มากเกินไป(ต้องพัก) เพื่อให้ยาช่วยควบคุมระดับการหลั่งฮอร์โมนจากสมองส่วนนี้ จนสมองส่วนนี้สามารถกลับมาหลั่งฮอร์โมนตามระดับปกติในที่สุดครับ(ก็คือ หายจากอาการหรือกินยาเพื่อควบคุมอาการได้)

การรักษาช่วยได้อย่างไร
1. ยาในกลุ่มลดการนำเข้าNa2+ที่เซลล์สมองส่วนนี้ ทำให้ผิวเซลล์ไม่เพิ่มประจุ+เข้าไป ส่งผลให้เซลล์สมองส่วนนี้หลั่งโดปามีนหรืออะดรีน่ารีนลดลง
ให้สมองค่อยๆปรับตัว ไม่ให้ตอบสนองต่อความไวจากสิ่งเร้ามากเกินไป ไม่ว่าสุขหรือเครียด(ลดการหลั่งโดปามีนและอะดรีน่ารีน) จนสมองสามารถตอบสนองได้ตามระดับปกติ(ไม่มากเกินไปเหมือนตอนมีอาการ)
2. ยาในกลุ่มคลายกังวล เพิ่มการนำเข้าCl-เข้าเซลล์โดยกระตุ้นตัวรับกาบ้า ทำให้ผิวเซลล์มีประจุลบเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เซลล์สมองส่วนนี้ ลดการหลั่งอะดรีนารีน จึงทำให้ลดความกังวลและง่วงนอน ให้สมองและร่างกายได้นอนหลับพักผ่อนเต็มที่
3. ยากลุ่มยับยั้งการดูดกลับของซีโรโตนิน เพื่อให้ลดการวนคิด ลดความวิตกกังวล ช่วยในการนอนหลับ และช่วยควบคุมความโกรธ

     เมื่อตั้งใจรักษาต่อเนื่องนานพอ(สมองค่อยๆลดความไวต่อสิ่งเร้า) ก็จะทำให้สมองกลับมาหลั่งฮอร์โมนเหล่านี้ได้ในระดับปกติ การควบคุมอารมณ์ก็จะปกติ ก็จะสามารถมองเห็นความสุขต่างๆในชีวิต(ไม่มีอาการโกรธง่าย วนคิด วิตกกังวล นอนไม่หลับ กลัวหรืออื่นๆอีก)

ปล. ผู้ป่วยมักจะเข้าใจผิด คิดว่ายากินแล้วต้องหายทันที หรือคิดไปเองว่ายาทำให้เกิดอาการ อาการมึน สมองช้าหรืออื่นๆ
ความจริงแล้ว..... เกิดจากอาการของโรคครับ(ใช้สมองหนักต่อเนื่องอย่างหนัก จนสมองมันล้า) หรือเกิดจากใช้ยาผิดวิธี(ตรงนี้ก็ต้องอธิบายเวลาการกินยาให้ผู้ป่วยใช้ได้ตรงกับอาการ เช่น กินยาคลายกังวลดึกเกินไป ยายังไม่หมดฤทธิ์ก็ต้องตื่นไปทำงาน จึงทำให้มีอาการง่วงเคลื่อนไวช้าคิดช้านั่นเอง)

ถ้าใครยังไม่เคยอ่านกระทู้เก่าผม เรื่องโรคทางอารมณ์เหล่านี้ ลองอ่านเพื่อทำความเข้าใจเพิ่มได้ที่ http://pantip.com/topic/33099319
*ถ้าเคยอ่านกระทู้เก่าแล้วจะเข้าใจกระทู้นี้ง่ายขึ้นครับ ค่อยๆอ่านไปนะครับ จะได้เข้าใจโรคและตั้งใจรักษาจนหายจากโรคได้ในที่สุด

ขอบคุณที่มา: สมาชิกเวบไซต์พันทิป หมายเลข 811484
http://pantip.com/topic/35507807?utm_source=facebook&utm_medium=pantip_page&utm_content=Boom&utm_campaign=35507807
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
SpiderMeaw's profile


โพสท์โดย: SpiderMeaw
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
8 VOTES (4/5 จาก 2 คน)
VOTED: ไปเซเว่นเอาอะไรไหม๊
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
สาวสอบติดครู ร้องไห้หนัก เหตุบนลิเกไว้ 4 วัด เข่าทรุดหลังรู้ราคาลิเกเมื่อสาวเจอความทรงจำที่หายไป..มาอยู่ที่ใต้สะพานลอยแฟนๆ กรี๊ด หนุ่มคนใหม่ของสาว "เบลล่า"..ไม่ธรรมดา ทั้งหล่อและรวยสำนักงานพุทธฯ สั่งตรวจสอบ พ่อแม่ "น้องไนซ์" เชื่อมจิต7 ที่มา คําว่ากระบี่ มีต้นเค้ามาจากคําไหน?การพบงูทะเลยักษ์ ในปี 2391รู้ยังค่าเทอม "จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย" ค่าธรรมเนียมการศึกษา ปี 2567นักเรียนมุสลิมในเยอรมันเผย "ศาสนาของเรา อยู่เหนือกฎหมาย!!"ยังจำ " คลิปแรก " ของโลกบน YouTube กันได้ไหม
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
รู้ยังค่าเทอม "จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย" ค่าธรรมเนียมการศึกษา ปี 2567เอาอีกแล้ว! เขมรก็อปปี้หนังไทย เรื่องเด็กหญิงวัลลี ยอดกตัญญู?หลวงพ่อทองคำ พระพุทธรูปทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลกไทยเสนอเป็นคนกลาง ไกล่เกลี่ยสงครามเมียนมาเมื่อหนูน้อยทำตุ๊กตา "ลาบูบู้"..เพราะรู้ซื้อไม่ได้ มันราคาแพง!
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
รู้ทันกลโกง มุกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ขายลาบให้ตา 50 บาท ได้ไหม? ต้องเดินหน้าเศร้า ร้านไม่ขายให้สาวสอบติดครู ร้องไห้หนัก เหตุบนลิเกไว้ 4 วัด เข่าทรุดหลังรู้ราคาลิเกเจ้าอาวาสวัดหดหู่ใจโจรทุบ 23 เจดีย์ลักเงินผีที่วัดปาไร่พรหมาราม
ตั้งกระทู้ใหม่