หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

อ่านกันสักนิด เพื่อให้เข้าใจความรู้สึกของเด็กไม่มีแม่ แต่ต้องทนร่วมกิจกรรมวันแม่กับทางโรงเรียน

โพสท์โดย Love Paradise

มีเจตนาจะเขียนให้ครูและผู้บริหารทุกโรงเรียนอ่าน…เผื่อพวกท่านจะได้ทบทวนว่าที่ทำๆกันมาหลายปีนั้นถูกต้องดีแล้วหรือ.?

ความเห็นส่วนตัวสำหรับกิจกรรมวันแม่ตามโรงเรียนที่ไม่เห็นด้วยที่จะต้องเรียกแม่ของเด็กๆ ไปให้ลูกกราบหรือมอบพวงมาลัยดอกมะลิหรือติดดอกมะลิให้แม่ที่โรงเรียนเพราะยังมีเด็กอีกกลุ่มที่ไม่สามารถพาแม่มาโรงเรียนได้

เช่น-พ่อแม่เลิกกัน แม่เสียชีวิตไปแล้ว แม่ไปมีสามีใหม่ไม่มาหาลูก หรือแม่กำลังป่วยหนัก คุณอาจจะเอากลุ่มใหญ่เป็นหลักว่าส่วนใหญ่มีครบทั้งพ่อแม่

แต่พวกคุณเคยนึกถึงความรู้สึกของเด็กที่ไม่มีแม่มองเห็นภาพเพื่อนๆนำดอกมะลิกราบแม่ติดดอกมะลิที่เสื้อแม่มั้ย.?

สายตาเด็กเหล่านั้นเป็นอย่างไร.?

บางคนนั่งแอบเสาอาคารร้องไห้ บางคนสะอื้นไห้กลางวงเพื่อนนักเรียนด้วยกัน

ที่เขาร้องไห้เพราะเขาเห็นเพื่อนๆมีแม่มาอวด ขณะที่ตัวเองนึกไม่ออกว่าแม่อยู่ที่ไหน บางคนแม่ตายตั้งแต่อายุไม่ถึง 1 ขวบ บางคนแม่ไปทำงานกรุงเทพฯกลับบ้านพร้อมกับเด็กน้อยเอามาเป็นภาระให้ย่าหรือยายเลี้ยงแล้วก็หายหน้าไปเลย

เขาและเธอไม่เคยเห็นหน้าแม่จริงๆเลย

 เด็กเหล่านี้แม้มีไม่กี่คนแต่ความสุขที่มันกำลังหลั่งล้นของคนที่มีแม่มันแอบทำร้ายจิตใจเด็กๆเหล่านี้ เรามั่นใจว่ากิจกรรมที่ทางโรงเรียนจัดทำให้เด็กๆเหล่านี้สะเทือนใจมาก

วิธีแก้ไม่ให้เด็กไร้แม่ปวดใจคือให้เด็กๆไปกราบแม่ของแต่ละคนที่บ้าน จะเป็นแม่จริงๆหรือคนที่เลี้ยงแทนแม่จริงก็เป็นเรื่องของทางบ้าน โดยก่อนถึงวันนั้นจะต้องโน้มน้าวให้เด็กซึ้งในพระคุณของคนที่เลี้ยงดู และของแม่ที่ให้กำเนิดโดยแยกแยะอธิบายว่าใครมีบทบาทอย่างไรที่ทำให้เขาเติบโตเป็นมนุษย์และอย่าพูดคำว่า“กำพร้าแม่”เด็ดขาด

วันสำคัญดังกล่าวโรงเรียนควรจัดกิจกรรมเป็นการน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของแม่ของชาติเท่านั้น คือกิจกรรมเพื่อ“สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนารถ”

เน้น “แม่ของแผ่นดิน”เป็นหลัก ไม่ต้องลากเอาแม่ของลูกๆมาโรงเรียนอย่างที่ทำกัน

ก่อนจะเริ่มพิธีที่โรงเรียนครูจะต้องพูดว่าวันนี้เป็นวันแม่และทุกคนต่างนึกถึงพระคุณของแม่ผู้ให้กำเนิด แต่เราต้องนึกถึงพระคุณของผู้ที่เลี้ยงดูเราทุกคนด้วยเพื่อตอบแทนพระคุณของคุณแม่ และของคุณพ่อ คุณปู่ คุณย่า คุณตาย คุณยาย รวมทั้งคุณป้า คุณอา ที่ช่วยเลี้ยงดูเราจนเติบใหญ่หลังจากเสร็จพิธีในวันสำคัญที่โรงเรียนแล้ว พวกเธอกลับบ้านต้องทำตัวให้เป็นประโยชน์ให้พวกท่านเหล่านั้นชื่นชมเช่น-

- ช่วยกวาดบ้าน ถูบ้าน
- ชักเสื้อผ้าเอง ซักถุงเท้า ซักรองเท้าเอง
- ช่วยเป็นลูกมือขณะผู้ใหญ่ทำกับข้าวเช่นช่วยล้างผัก เก็บจาน แกะเปลือกกระเทียมฯลฯ
- ช่วยล้างถ้วย ล้างจาน
- ทำอย่างนี้เป็นกิจวัตรประจำวันนอกเหนือจากทำการบ้านที่ครูสั่ง
- และ…มีอะไรที่เด็กทำได้ท่านผู้เป็นครูก็เสริมเขาไป

ขออย่าให้เด็กมีความรู้สึกอ้างว้างและหดหู่อีกเลย

ไม่ควรให้เด็กที่รู้สึกขาดแม่ไม่เสียใจ

จริงอยู่ที่ทุกคนจะมีน้ำตาเหมือนกัน มีการร้องไห้เหมือนกันแต่คุณอาจจะมีน้ำตาเพราะคุณมีความสุขปลื้มปีติ ได้หน้าได้ตาได้รับการชื่นชมจากหน่วยเหนือ

หากโรงเรียนไม่เอาแม่ของเด็กมานั่งบนเก้าอี้ แล้วให้เด็กนำดอกมะลิมามอบและกราบแม่บนเวทีห้องประชุมมีความผิดอุกฉกรรจ์ไหม 

หันมารณรงค์ให้เด็กๆสนใจที่จะมอบความรักทดแทนพระคุณแม่ในทุกๆที่ทุกๆโอกาส ให้หันมาทำดีกับแม่ทุกวันทุกเวลาดีกว่าทำต่อหน้าสาธารณชน

อย่าทิ้งให้เด็กเหล่านี้นั่งพิงเสาร้องไห้ หรือแอบมองภาพแม่กอดเพื่อนอย่างเจ็บปวด ปลูกฝังให้เข้มแข็งบอกกล่าวในสิ่งดีว่าแม้เด็กๆจะไม่มีแม่แต่คนที่เลี้ยงดูมา ก็สามารถทำหน้าที่แม่ได้แม้จะไม่เท่าแม่จริงๆก็ตามให้เค้ามีความเข้มแข็ง เพิ่มกำลังใจเข้าไป

กระทุ้งนอกสภาฯฉบับนี้ผมมีเจตนาจะชี้ว่า-

1.โรงเรียนควรจัดวันแม่แห่งชาติเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชนีฯเท่านั้น

2.โรงเรียนไม่ต้องเอาแม่ของเด็กๆมานั่งบนเวทีแล้วให้เด็กนำเข็มกลัดดอกมะลิหรือพวงมาลัยดอกมะลิมามอบบูชาแม่ในวันนั้นเพราะ (อ่านข้อ 3 ต่อนะ)

3.เราสงสารเด็กที่ไม่มีแม่มาร่วมกิจกรรม และไม่มีแม่ขึ้นไปบนเวทีเหมือนคนอื่นเพราะ แม่ตาย หรือ แม่เลิกกับพ่อแล้วหายหัวไปเลย รวมทั้งเด็กที่แม่ยังไม่ตายแต่มีภารกิจต่างจังหวัดหรือลางานไม่ได้

4.บางท่านอาจจะแย้งว่าเอาย่า เอายาย เอาป้า อา หรือเอาครูทำหน้าที่รับมะลิแทนแม่ก็ได้นั้น…ขอยืนยันว่า “ผิด”(อ่านข้อ 5 ต่อนะ)

5.เพราะแม่มีใครคนอื่นมาทดแทนแม่จริงๆที่คลอดตัวเองออกมาได้แน่ ต่อให้นางฟ้าเหาะจากเมฆมาขอเป็นแม่เด็กก็ไม่เอาหรอก

6.ขอยืนยันว่าทุกตัวอักษรนี้นำมาจากการรู้เห็นเอง และการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคนอื่นที่เคยพบเห็นเด็กร้องไห้

7.เมื่อวันที่ 8 ส.ค.57 ท่านหนึ่งทางอำเภอลอง จังหวัดแพร่ ยังโพสต์รูปเด็กชายไม่มีแม่และนั่งร้องไห้ในเฟซบุ๊คด้วย แต่เราไม่ได้นำมาโพสต์ประกอบข้อเขียนนี้

8.บทความนี้ มีข้อเสนอว่าเราควรให้เด็กตอบแทนพระคุณของ คุณพ่อ คุณแม่ วิธีไหนแล้ว (ควรอ่านอีกซักรอบ)

เด็กๆที่ขาดแม่คงน่าจะรู้สึกน้อยใจไม่มาก เท่าที่ผ่านมาเด็กอาจจะรู้สึกไม่เหมือนกันแต่เราก็ไม่ควรมองข้าม

ปีหน้าพวกท่านกรุณาทบทวนกิจกรรมกันใหม่เถอะค่ะ

ขอบคุณที่มา: http://pantip.com/topic/34017083
ขอบคุณบทความดีดีของ คุณศิริศักดิ์ ศิริทิชากร
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Love Paradise's profile


โพสท์โดย: Love Paradise
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
112 VOTES (4/5 จาก 28 คน)
VOTED: Okama, The Adventures of Ti, บ่าวสันขวาน, ไข่ต้มยางมะตูม, ซุปเปอร์ ใจมด, makhamdong, a rms, Pinksweet, Kies, nanat, Plooto, Dont sweat it, ผะอบทิพย์, MadamButterflY, namwanpan, Love Paradise, แมวฮั่ว แมวขี้น้อยใจ, อินจือ
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
สาวพม่ารีวิว! ค่าใช้จ่ายในการมาเรียนที่ประเทศไทย?5 ราศีที่มีพญาครุฑคุ้มครองชาวลาวไม่ทน! หลังหนุ่มจีนโพสทิ้งเงินกีบลงในถังขยะ ทำคนลาวถึงกับไม่พอใจ?คนไข้วัย 72 ติดเชื้อโควิดนาน 613 วัน ก่อนกลายพันธุ์ในร่างกายกว่า 50 ครั้งลูกค้าหนุ่มเศร้า หลังรีวิวชุดกีฬาที่ซื้อมา แต่ดันพลาดเห็นหนอนน้อยiPhone รุ่นประหยัดมาแล้ว!ชาวเน็ตท้าหนุ่มกินกาแฟทุกยี่ห้อ..ไม่น่าเชื่อเลยว่า เขาจะรับคำท้าหนังเรื่อง "คนกราบหมา" ได้เข้าฉายหลังจากถูกแบนมา 25 ปีนกอันตรายที่สุดในโลกเกมพลิก!! เมื่อหนุ่ม ๆ เเอบเเม่ไปหาปลา เกือบโดนด่า เเต่พอเห็นลูกได้ปลาตัวใหญ่กลับบ้าน เสียงเปลี่ยนทันทีเลยนะเเม่
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
"ลาบูบู้" ไม่รอด โดนเขมรเคลมเรียบร้อยแล้ว..บอกรากเหง้ามาจาก "หน้ากาล"3 ราศีที่มีความร้ายกาจ อย่างคาดไม่ถึง!ลูกค้าหนุ่มเศร้า หลังรีวิวชุดกีฬาที่ซื้อมา แต่ดันพลาดเห็นหนอนน้อยหนังเรื่อง "คนกราบหมา" ได้เข้าฉายหลังจากถูกแบนมา 25 ปี
ตั้งกระทู้ใหม่