แต่งตัวคล้ายนักบวช เรี่ยไรยัน 3ทุ่ม ขอค่ารถกลับวัดดังย่านสมุทรปราการ

เมื่อตี2 วันที่ 27 มิ.ย. "padcha bels" ได้โพสต์ ผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัวว่า ตนเห็นผู้แต่งตัวคล้ายพระมาเคาะกระจกรถเพื่อขอเงินนั่งแท็กซี่กลับวัดดังย่านจังหวัดสมุทรปราการ โดยมีรายละเอียดดังนี้

หลังเลิกจากงานเลี้ยง ผู้เขียนได้แวะที่โลตัส บางนา กม.8 เพื่อให้สมาชิกในครอบครัวได้ลงไปซื้อของ ซึ่งขณะนั้นเป็นเวลา ประมาณ 3 ทุ่ม ผู้เขียนได้นั่งรอในรถ โดยจอดรถฝั่งติดถนนบางนา-ตราด ซึ่งจะมองเห็นแท็กซี่จอดรอผู้โดยสารอยู่อย่างชัดเจน

หลังจากนั่งรอในรถสักครู่ใหญ่ ก็ได้มีพระรูปหนึ่่่ง เข้ามาเคาะกระจกหน้าต่างฝั่งคนนั่ง และทำท่าทางให้ผู้เขียนเปิดกระจกรถเพื่อที่จะคุยด้วย แต่ผู้เขียนไม่ไขกระจกลง และมองไปรอบๆ บริเวณ สังเกตว่าไม่มีคนอยู่ใกล้ๆ ตัว พระรูปนั้นยังคงเคาะกระจกรถต่อ ผู้เขียนได้แต่นั่งนิ่งภายในรถ ในขณะเดียวกันก็คว้าโทรศัพท์เพื่อที่จะโทรเรียกสมาชิกที่กำลังซื้อของอยู่ภายในโลตัสให้รีบกลับมาที่รถ ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่สมาชิกได้กลับมาที่รถพอดี

เมื่อสมาชิกเข้ามาอยู่ในรถแล้ว ผู้เขียนจึงได้เปิดหน้าต่างคุยกับพระรูปนั้น ซึ่งพระอ้างว่าได้มาเยี่ยมญาติ แต่ไม่พบ อยากจะขึ้นรถแท็กซี่กลับวัดแต่มีเงินไม่พอ เพราะมีเงินอยู่เพียง 60 บาท จะขอให้ผู้เขียนทำบุญค่าแท็กซี่อีก 100-200 บาท

ผู้เขียนมองเวลาในขณะนั้นประมาณ สามทุ่มสี่สิบ และคิดว่าไม่ควรจะมีพระออกมาเตร็ดเตร่อ้างไม่มีเงินกลับวัด และมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นพวกมิจฉาชีพ อีกทั้งสังเกตดูย่ามของพระจะค่อนข้างตุงๆ ซึ่งไม่สามารถบอกได้ว่ามีอะไรอยู่ภายในย่าม...ผู้เขียนจึงได้ถามชื่อวัดที่จะไป ซึ่งพระบอกชื่อ วัดนิมมาน...(จำไม่ได้) และอยู่แถวปากน้ำ ผู้เขียนไม่ทราบหรอกว่ามีวัดนี้อยู่หรือไม่ แต่เมื่อบอกว่าอยากกลับวัดแต่ไม่มีค่าแท็กซี่ ผู้เขียนจึงถามว่าจะเรียกแท็กซี่คันไหน ให้คนขับแท็กซี่มาคุยค่ารถกับผู้เขียน แล้วผู้เขียนจะจ่ายค่ารถกับคนขับแท็กซี่ให้เลย พระไม่ต้องเดือดร้อน

ครั้งแรกพระก็อิดเอื้อนไม่ยอมไปเรียกแท็กซี่ โดยบอกว่าให้เงินพระมาแล้วพระจะไปเรียกแท็กซี่เอง ขอสัก 60 -100 บาทก็ได้ แต่ผู้เขียนยังยืนยันจะให้ค่าแท็กซี่กลับวัดกับคนขับเอง ในที่สุดพระก็เดินไปโบกแท็กซี่ โดยผู้เขียนเห็นพระเข้าไปนั่งในรถแท็กซี่เพื่อเจรจาบางอย่าง สักครู่คนขับแท็กซี่ก็เดินมาคุยกับผู้เขียน

คนขับแท็กซี่บอกว่าพระจะไปปากน้ำ แต่ไม่ได้บอกชื่อวัด และราคาอยู่ที่ประมาณ 200 บาท ผู้เขียนจึงให้เงินกับคนขับแท็กซี่ แล้วบอกว่า เงิน 200 บาทเป็นค่าแท็กซี่ หากเหลือไม่ต้องทอนให้พระ หากขาดก็เรียกเก็บกับพระเพราะเขาอ้างว่ามี 60 บาท และหากพระบอกว่าไม่ต้องการไปปากน้ำแล้ว เงิน 200 นี้ก็ไม่ต้องให้พระ แต่ให้คนขับเก็บไว้เอง

คนขับแท็กซี่บอกว่า อันที่จริงหากจะ "ทำบุญ" ให้เงิน 200 บาทแล้ว ก็ทำใจให้สบายไม่ต้องไปสนใจว่าพระจะเอาเงินไปทำอะไร ...ผู้เขียนได้ตอบคนขับว่า "ดิฉันไม่ได้ต้องการ 'ทำบุญ' แต้ต้องการ 'ส่ง' พระรูปนี้กลับวัดหรือกลับบ้าน และเงินที่ให้นี้เจตนาคือ 'เป็นค่าแท็กซีี่เท่านั้น' ฉะนั้นเงินนี้เป็นค่าแรงของคุณ ไม่ว่าพระต้องการจะกลับหรือไม่ เงินนี้เป็นของคุณแล้ว"

คนขับแท็กซี่รับเงินจากผู้เขียนและเดินกลับไปที่รถพร้อมพา "ผู้โดยสารพระ" ออกไปตามจุดหมายปลายทาง

หลังจากผู้เขียนกลับถึงบ้าน ก็ได้ตรวจหารายชื่อวัดในเขตปากน้ำ ที่ขึ้นต้นด้วย "นิมมาน..." ซึ่งผลปรากฎว่า "ไม่มี"