ว่าด้วยเรื่องความรัก...เหนื่อยเนอะ
วันนี้ มีโจทย์มาให้ขบคิดอีกแล้วนะครับ
กับเคสๆนึง ที่ เกิดขึ้นระหว่าง สองครอบครัว
ครอบครัว ก มี น้องชาย พี่สาว และ พ่อ
ครอบครัว ข มี แม่ และ ลูกชาย
กับเหตุการณ์ที่ว่า ครอบครัว ข ไปพักอาศัยหรือกึ่งๆไปเที่ยวบ้าน ครอบครัว ก
เพราะพี่สาวและลูกชาย คบหากันร่วมๆ จะสองปีแล้ว
แต่เนื่องด้วย ฝั่ง ช (ในมุมมอง ช ) คิดว่าไปพักที่บ้าน ก็อยากจะช่วยเหลืออะไรเป็นชิ้นเป็นอันบ้าง ก็ไปถอนเงินแล้วให้ทาง
ครอบครัว ญ หลังจากตลอดการไปพัก ครอบครัว ญ ก็พาไปเที่ยวนู้นนี่นั่น ค่าน้ำมันอาหารการกินก็ช่วย service (จริงๆก็
ช่วยๆกันละ ประมาณว่าแชร์ๆๆ แต่ถ้าแยกสัดส่วน จะเป็น ครอบครัว ฝ่ายหญิง 80-85 % )
โดยมุมมองชองฝั่ง ช ไม่อยากจะมาพึ่งพาเปล่าๆโดยไม่ได้ช่วยไร ก็เลยบอกไปว่าให้ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหารการกิน แม้ใน
ช่วงระยะเวลาการไปพักอาศัย ฝ่าย ชาย ก็พยายามช่วยออกแรง เช่น กวาดบ้านถูบ้าน หรือล้างจาน (ในบางมื้อ)
ปล. พอให้เงินแล้วก็รีบกลับบ้านประมาณว่า กลับก่อนกำหนด
แต่ประเด็น (1)กลับไปอยู่ที่ว่า
ฝ่าย ญ โดยเฉพาะ น้องชาย มองว่า ฝ่าย ช กำลังดูถูก เอาเงินมาฟาดหัว แม้ว่า ทาง ฝ่าย ช (ทั้งแม่และลูกชาย) จะอธิบาย
เหตุผลที่ให้ว่าเพราะอะไร จนมีปากเสียงทะเลาะกันเสียงดัง
แต่ทางฝั้ง ครอบครัว ช โดยเฉพาะแม่ บอกว่าเคยได้ยินว่า มาอยู่ที่บ้าน ช่วยออกไรบ้าง
ก็ได้นะ ฝ่าย ญ ก็หาว่าไม่ได้ต้องการแบบนี้ ....และไม่ได้พูดประโยคนี้ น้องชายก็บอกว่า ผมเข้าใจพี่สาวผมดี ไม่มีนิสัยแบบ
นั้นแน่ๆ ฯลฯ.....ถึงขั้นบอกให้แม่ฝ่ายชาย สาบานเลยไหม
แม่ฝ่ายชายมั่นใจว่าได้ยิน ก็เลยว่า ได้ สาบานเลยก็ได้
จนน้องชายจะ "ปรี่เข้าหาเชิงทำร้ายร่างกาย แต่ติดที่ ญ ห้ามไว้"
ฝั่ง ญ ก็ถาม ช (ที่คบกัน) ว่าได้ยินไหมประโยคนี้ ฝ่าย ช ยืนยันว่าได้ยินๆ แต่ก็โดน
ฝ่าย ญ ตอบกลับมา เดาแล้วว่าคุณก็ต้องเลือกเข้าข้างแม่คุณ พร้อมพูดทิ้งท้ายว่า ถ้าจะมาคบกับเขา ก็ต้องเชื่อฟังเขา แต่
ถ้าเชื่อแม่ ก็เชิญไปอยู่กับแม่
แล้วพูดกับน้องชายทำนองว่า ไปกันเถอะถือซะว่าแม่ให้เงินเราแล้วกัน....ให้คืนก็ไม่รับ
ประเด็น(2)....พอวันรุ่งขึ้น เช้ามืดครอบครัวฝ่ายชาย ก็รีบกลับ แต่ก่อนไปก็ไปร่ำลาพ่อฝ่ายหญิง (ประมาณว่าไปลามาไหว้
แล้วก็เดินไปเพื่อขึ้นรถในเมือง ซึ่งบ้าน ญ ห่างจาก จุดที่ขึ้นรถประมาณ 15 กิโลเมตร
พ่อฝ่ายหญิง งงๆ ก็ทักว่า เด๋วให้ลูกชายไปส่ง แต่ทางครอบครัวฝ่ายชาย บอกว่าไม่เป็นไร แล้วก็เดินต่อไปเรื่อยๆ ด้วยความ
ที่แม่อายุมากแล้ว จึงเดินๆ ไปๆหยุดๆ เพราะสถานการณ์นั้นบอกตรงๆ ว่าไม่กล้าให้น้องชาย ที่แสดงกิริยาแบบนั้นไปส่ง หรือ
กลับพร้อมกัน (หมายถึงกิริยาที่จะปรี่เข้าหาผู้ใหญ่ ที่เป็นเพศแม่ จะแสดงความแมนต่อหน้าพี่สาว ?? งั้นหรอ)
แต่ทางฝั่ง ญ ก็พยายามขี่รถตามไป (ตอนแรกมีน้องชายคนเดียว) พร้อมกับบอกว่า รีบขึ้นรถเถอะครับ เดี๋ยวชาวบ้านเห็นเขา
จะมองพวกผมไม่ดี ฯลฯ จนครอบครัว ฝ่ายชาย ก็ยืนยันไม่ขึ้นรถ เดินไปเรื่อยๆ (เดินๆหยุดๆ) แต่แม่ฝ่ายชาย ไม่คุยกับ
น้องชายเลยนะ น้องชายคุยกับ ช อย่างเดียวๆๆเลย ช ก็ตอบไปว่า ไปพักเถอะ เมื่อคืนก็ไม่ได้นอนไม่ใช่หรอ อีกอย่างเราก็
ขับรถพาพวกพี่ๆเที่ยวหลายวันละ เดี๋ยวพี่กลับกันเอง
จนตอนหลัง น้องชายไปรับพี่สาว มาช่วยคุย.. พี่สาวก็พูดเชิงบอกว่า รีบขึ้นรถ ถ้ายังอยากมองหน้ากันอยู่
คือตลอดการขับรถตามไป ประเด็นคือเหมือนจะห่วงหน้าตาที่บ้านตัวเอง เช่น เดี่ญวชาวบ้านแถวนั้นเห็นจะเก็บไปนินทา
ไม่เคยถามเลย ว่าแม่ฝ่ายชาย จะเดินไปไหวไหม ....แต่เมื่อยืนยันปฏิเสธ ทางครอบครัวฝ่าย ญ ก็กลับไป
จนแม่ฝ่ายชายเดินต่อไม่ไหว ก็มาพักร้านค้าแห่งหนึ่งแถวนั้น และไหว้วานเชิงบอกว่ามีรถพอจะไปส่งในเมืองได้ไหม
ประมาณนี้
ทางแม่ค้า ก็ถามว่า ทำไมไม่ขึ้นรถคันที่ตามมาละ (จริงๆแม่ค้าคนนี้ก็รู้จักแหละ ว่า ชายคนนี้คือใคร มาทำไรแถวบ้าน ประ
มาณว่า รู้กันหมดแถวหมู่บ้านถึงความสัมพันธ์ของครอบครัวนี้แล้ว) ทางฝั่งชายก็ตอบดีๆไม่ได้ให้ร้ายเชิงบอกว่า
เกรงใจครับ เพราะตลอดที่มาพักบ้านเขาก็เลี้ยงดูปูเสื่อและพาพวกผมไปเที่ยวนู้นนี่นั่นตลอดเลย ก็เลยจะกลับกันเอง ฯลฯ
ข้ามประเด็นที่บ้าน ญ ไปละ จน ครอบครัว ช ก็หาทางมาถึงที่ขึ้นรถเมล์และกลับถึงที่บ้าน โดยปลอดภัย ลืมเล่าไปว่า
ครอบครัว ช ไม่มีรถยนต์ เวลาไปไหนมาไหน ก็มีแค่มอไซต์ เพระาฉะนั้นการไปหาบ้านแฟน จึงอาศัยขึ้นรถเมล์ไป
แต่พอมาถึงที่พักก็จะมี
ประเด็น (3) การตัดพ้อตลอดจากฝั่งหญิง
หาว่า ไปทำให้พ่อเขา(ซึ่งเป็นมัคทายกที่วัดแถวหมู่บ้านนั่นๆ) อับอาย โดนนินทา จากชาวบ้าน และรู้เรื่องการเดินกลับฯ
ของครอบครัว ช ประมาณว่ารู้กันทั่ววัดหมดแล้ว หรือแม้แต่ถามว่า ได้(เสีย)กันหรือยังละ มาพักถึงบ้านน่ะ
จนทำให้พ่อเขาเสียใจ ร้องไห้ที่ลูกเขาเป็นขี้ปากชาวบ้าน หรือต่างๆ นานา ซึ่งบอกตรงๆ ว่าครอบครัว ช ก็ งง เมื่อได้ยิน
เพราะตอนที่เล่ากับแม่ค้าคนนั่นก็ไม่มีประโยคไหนเชิงให้ร้ายเลยสักนิด
แต่ก็มีการตัดพ้อการมาตลอด
ทางฝั่ง ช ก็ แฟะเชิงไปว่า การกระทำแบบนักเลงแบบนี้ แมนแล้วใช่ไหม ที่จะปรี่เข้ามาทำร้ายผู้หญิงเพศแม่น่ะ (แม้ ณ
ตอนนั้น ญ จะเถียงแทนว่า แล้วมันทำไหมละ ก็ไม่ได้ทำ ?? หรือแม้แต่เถียงแทน ว่า ถ้าผู้ใหญ่มันทำตัวให้เด็กน่าเคารพ
มันคงไม่ทำกิิริยาแบบนี้หรอก) และต่างๆนานา ที่ว่าค่อนข้างแรง (ไม่ขอลงรายละเอียดนะ เพราะยาวมากๆ) หรือแม้แต่
ประเด็น ที่ พ่อฝ่าย ญ ชอบมอง
ฝ่าย ช ว่าเป็นลูกแหง่ ติดแม่ ไปไหนก็ต้องพาแม่ไปด้วย ไม่แมน กระตุ้งกระติ้ง หงิมๆติ๋มๆบ้าง แต่พอถามไปถามมา คือลุ๊คส์
ที่พ่อหรือบ้านฝ่าย ญ ต้องการคือ ความแมน แบบที่ น้องชายทำ ?? พอบอกว่า งั้นก็ไปแต่งงานกับน้องชายเหอะ ถ้าจะให้
แมนโดยการทำร้ายผู้ใหญ่หรือผู้หญิงแบบนี้ เป็นให้ไมไ่ด้หรอกหรือถ้าอยากได้แบบนี้ สักวันคงมีมวยให้ดูกันทุกวันๆ
ระหว่างน้องชายและพี่เขยตัวเองแน่ๆ และอื่นๆอีกมากมาย
เพราะตลอดหลังจากเกิดเรื่องฯ ก็มีการพูดคุย ของ ช + ญ ตลอด
จน ฝ่ายหญิงโพสขึ้น ว่า ระหว่างการถูกทำร้ายหรือกระทำ จากพฤติกรรม กับการถูกทำร้ายเพราะคำพุด ผู้ถูกกระทำมี
ความเจ็บเท่ากัน
ประเด็น (4) ในมุมมอง ช + ญ น่ะ ยังเหมือนเดิมทั้งคู่
แต่ ฝ่าย ญ มองว่า ถ้ากลับไปยืนที่กลับ (คือคบกันแบบเก่า) ทางฝั่ง ช ก็จะเชื่อแต่แม่ๆ ไม่เคยฟังหรือเชื่อไร ญ เลย ??
หรือพูดทำนองว่า ถ้ากลับไปคบกันก็จะกลายเป็นหมาหัวเน่า แถมคิดเล็กคิดน้อยโดยบอกว่า สายตาของแม่ฝ่ายชายที่มอง
ญ มองด้วยสายตาไม่ดีบ้าง ไรบ้าง ต่อหน้า ช อีกอย่าง ลับหลังอีกอย่างบ้างไรบ้าง
หรืออ้างต่างๆว่า น้องชายกับพ่อ ห้ามไม่ให้คบกันบ้าง..แต่ ญ ยังตัดใจไม่ได้ และภาพเดิมๆก็กลับมา (ภาพเหตุการณ์ที่ ช
เชื่อแต่ แม่)
แต่ ฝ่าย ช ก็มองว่า ถ้าครอบครัวฝ่าย ญ เห็นดีเห็นงามกับการกระทำของน้องชาย ไม่ว่ากล่าว ติติง หรือดุไร กับการไม่
เคารพผู้ใหญ่ ที่ฝ่ายครอบครัว(โดยเฉพาะ) ชาย ถือมาก เรื่องการเคารพผู้หลักผู้ใหญ่
สรุป ประเด็น 4 คือ
ครอบครัวชาย ติดแค่เรื่องเดียว คือเรื่องน้องชาย รวมทั้งการพูดจาไปรู้จักหลักลอย พูดแล้วก็หาว่าไม่ได้พูดไรแบบนี้
ครอบครัวหญิงติดทั้งเรื่องน้องชาย+พ่อ ห้าม และเรื่องกลัวเข้าไปยืนในจุดๆเดิม จะไม่มีอำนาจหรือสั่งหรือบอกกล่าว
อะไรในตัวฝ่ายชายได้
ปวดหัวเนอะเรื่องความรักเนี่ย