เตือน! เด็กเล่นซ่อนหา ระวัง! ยุงลายเล่นด้วย ตัวการทำป่วย 3 โรค
นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(กรมสบส.) กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งเป็นฤดูกาลที่ยุงลายมีจำนวนเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีแหล่งเพาะพันธุ์จำนวนมาก จึงมีความเสี่ยงถูกยุงลายกัดมีโอกาสป่วยเป็นไข้เลือดออกเพิ่มขึ้น
ในรอบ 5 เดือนปีนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 ถึงวันที่ 24 พฤษภาคม 2559 สำนักโรคติดต่อนำโดยแมลง กรมควบคุมโรค รายงานพบผู้ป่วยโรคนี้ทุกจังหวัด 17,614 ราย สูงกว่าช่วงเดียวกันในปี 2558 ถึง 1.08 เท่า เสียชีวิต 16 ราย และได้คาดการณ์ว่าในปีนี้ทั่วประเทศจะมีผู้ป่วยไข้เลือดออกประมาณ 160,000-170,000 ราย เสียชีวิตประมาณ 160 ราย
ยุงลายเป็นตัวการแพร่เชื้อสู่คนได้ 3 โรคได้แก่ ไข้เลือดออก ไข้ปวดข้อยุงลาย และไข้ชิกา ยุงลายมี 2 ชนิดคือยุงลายบ้านและยุงลายสวน จากการศึกษาพบว่ายุงลายบ้านชอบเกาะพักบริเวณที่อับมืด ไม่มีลมพัดผ่าน เช่นเสื้อผ้าที่แขวนบนราวตากผ้าในบ้าน มุมห้อง ใต้โต๊ะ ส่วนยุงลายสวนส่วนใหญ่มักพบในบริเวณรอบๆ บ้าน ตามพุ่มไม้เตี้ยต้นหญ้า ที่ซึ่งไม่มีแสงแดดและมีความชื้น ยุงลายจะออกกินเลือดคนเวลากลางวัน
“กลุ่มที่น่าเป็นห่วงคือเด็กๆ ที่ชอบเล่นซ่อนหา ซึ่งมักเล่นเวลากลางวัน และเป็นเวลาที่ยุงลายออกหากิน เด็กๆ มักจะหลบซุกเพื่อนตามที่มืดๆ หรือแอบใต้โต๊ะยิ่งแอบได้นานเท่าใด ยิ่งมีความเสี่ยงถูกยุงลายกัดได้มาก เด็กบางคนทนไม่กล้าตบยุง เพราะกลัวเพื่อนจะได้ยินเสียงและหาตัวเจอ จึงมีความเสี่ยงเป็นไข้เลือดออกได้ง่าย จึงขอให้ผู้ปกครองช่วยย้ำเตือนเด็กๆ ให้เปลี่ยนการเล่นซ่อนหา มาเล่นอย่างอื่นแทน” นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง กล่าว
นอกจากยังมีความเสี่ยงในกลุ่มที่มีความเชื่อผิดๆ ในเรื่องไข้เลือดออกด้วย เช่น คิดว่าโรคไข้เลือดออกเป็นโรคของเด็ก ผู้ใหญ่ไม่น่าเป็น ไข้เลือดออกเป็นโรคของคนต่างจังหวัดที่บ้านใกล้ป่า ใกล้สวน และใครเคยเป็นโรคนี้แล้วจะไม่เป็นซ้ำอีก จึงไม่สนใจป้องกันตัว จึงได้ให้อสม.เร่งให้ความรู้ประชาชนทุกหมู่บ้าน และขอความร่วมมือประชาชนทุกบ้านกำจัดลูกน้ำยุงลายต่อเนื่องทุก 5-7 วัน นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรืองกล่าว
ด้านนายแพทย์ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรมสบส.กล่าวว่า ในการป้องกันไข้เลือดออก ประการแรกคือการลดจำนวนยุงลาย ที่ทำง่ายและได้ผลดีที่สุดคือกำจัดขณะที่ยุงยังเป็นลูกน้ำ โดยยุงลายตัวเมียหลังกินเลือด จะวางไข่ในภาชนะขังน้ำที่มีน้ำนิ่งและใส ไม่เน่าเสีย วางไข่ครั้งละ 50-100 ฟอง ไข่จะฟักตัวเป็นลูกน้ำภายใน 2 วัน และฟักเป็นตัวยุงประมาณ 9-12 วัน
จึงขอให้ช่วยกันกำจัด ตัดวงจรไม่ให้ลูกน้ำกลายเป็นตัวยุงบินได้ซึ่งกำจัดได้ยากกว่า โดยการเทเปลี่ยนน้ำในภาชนะขนาดเล็กเช่นแจกันปลูกไม้เลื้อย น้ำหล่อขาตู้กับข้าว ทุก 7 วันไม่ใช้วิธีเติมน้ำ เพราะเท่ากับว่าเป็นการเลี้ยงลูกน้ำยุงลาย รวมทั้งเทน้ำที่ขังในที่รองน้ำทิ้งในเครื่องทำน้ำเย็น ส่วนภาชนะขังน้ำปากกว้าง เช่นโอ่งน้ำ ถังซีเมนต์ใส่น้ำ ให้ใช้ฝาปิดหรือใช้ตาข่ายปิด ป้องกันไม่ให้ยุงลายลงไปวางไข่ เก็บกวาดบ้านเรือนให้สะอาด โล่ง ไม่ให้เป็นที่เกาะพักยุงลายในบ้าน และเก็บกวาดรอบๆบ้าน ไม่ให้มีแหล่งน้ำขัง ถางหญ้าให้โล่งเตียน ไม่ให้เป็นที่เกาะพักยุงลายสวน
ประการที่ 2 คือ การป้องกันไม่ให้ยุงกัด ผู้ที่นอนกลางวันทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต้องนอนในมุ้ง หรือนอนในห้องที่มีมุ้งลวดมิดชิด หลีกเลี่ยงใส่เสื้อผ้าสีทึบๆ ซึ่งเป็นสีที่ยุงชอบเช่นสีดำ สีน้ำเงินเป็นต้น อาบน้ำชำระเหงื่อไคลให้สะอาดก่อนนอน เนื่องจากกลิ่นเหงื่อไคลของคน จะเป็นตัวเรียกยุงให้มาใกล้ หากป่วยมีไข้สูงเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน ไข้สูงลอยทุกวัน ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก กินยาลดไข้หรือเช็ดตัวแล้วไข้ไม่ลด ขอให้รีบพบแพทย์หรือแจ้งอสม.ทันที โดยได้ให้กองสุขศึกษาจัดทำความรู้วิชาการง่ายๆ บริการประชาชน
สามารถดูได้ที่เว็บไซต์ www.hed.go.th