หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ปลายทางที่ผูกพันธ์

เนื้อหาโดย เจ้าชายไข่แดง

เห็นแชร์กันในเฟสเยอะมาก แต่ยังคาราคาชังอยู่ ผมเลยถือโอกาศเขียนบทเพิ่มเติมตามความคิดของผมขึ้นมาเองครับ

ปรับเปลี่ยนคำพูดบางฉากบางตอนให้ดูเห็นเหตุการณ์มากขึ้น ลองชมและอ่านดูครับ

************************************************************ 

มีอยู่วันหนึ่ง

เมื่อสามีแอบกลับบ้าน ไม่ให้เมียรู้ตัว แล้วแอบเปิดดูสิ่งที่เมียเอาให้แม่กิน แต่พอเห็นข้างในเท่านั้นแหละ…

สามี.....“นี่มันอะไรกัน...คุณก็รู้ไม่ใช่เหรอ ว่าแม่ผมกินเค็มไม่ได้”

ภรรยา..... “ทำจืดแม่ก็ว่าไม่มีรสชาติ ตอนนี้ทำเค็มนิดหนึ่ง แม่ก็ว่ากินไม่ได้ แล้วคุณจะให้ฉันเอายังกันแน่ ฉันชักจะไม่ไหวแล้ว อย่างโน้นก็ไม่เอาอย่างนี้ก็ไม่เอา!”

สามี.... “คุณก็ใจเย็น ๆ สิ เรื่องแบบนี้คุณก็ทราบดีนิ ก็แค่ทำอาการให้แม่ผมมันจะยากเย็นอะไร”

ภรรยา... “โอ๊ยยย อะไรกันนักหนา เอาล่ะๆ ในเมื่อเป็นแม่ของคุณ วันหลังคุณก็ทำให้ทานเองแล้วกัน” ภรรยาโวยวายพร้อมเดินหนีขึ้นบนบ้านไปทันที

แม่แอบฟังอยู่ข้างห้อง ใบหน้าโศกเศร้า ก่อนที่จะเข้าไปในครัวแล้วทานอาหารที่ลูกสะใภ้ทำไว้ แม้ว่ามันจะมีรสเค็มมากก็ตาม แต่หล่อนก็ไม่กล้าพูดอะไรกับลูกชาย เอาแต่ฝืนกิน

ลูกชายมองดูแม่ฝืนกินข้าวด้วยกับข้าวที่รสเค็ม
“แม่ครับ ไม่ต้องกินหรอก เดี๋ยวผมต้มบะหมี่ให้แม่กินนะครับ”

ลูกชายพูดออกมาพร้อมกับไปที่ตู้กับข้าวแกะบะหมี่ใส่ชาม เพื่อทำให้มารดาทาน แต่ใบหน้าของลูกชายเหมือนมีอะไรบางอย่างจะพูด

“ ลูกมีอะไรจะบอกแม่หรือเปล่า” มารดาถาม

“เอ่อ....เปล่านี่ครับแม่ แม่รอแป๊บนะ เดี๋ยวไกล้จะได้ทานแล้ว” ลูกชายแก้ตัว

“ลูกเป็นลูกของแม่ ทำไมแม่จะไม่รู้ว่าลูกมีอะไรจะบอกแม่”

ทันทีที่แม่พูดออกมา ลูกชายที่กำลังต้มบะหมี่ให้มารดาอยู่นั้น น้ำตาไหลออกมา เขาหันมามองมารดาที่ยืนอยู่ข้างหลัง เขามองมารดาของตนเองพร้อมน้ำตาที่ไหลอาบแก้มของเขา มารดาน้ำตาคลอ พลางเอามือมาเช็ดหน้าตาของลูกชายที่อาบเต็มแก้มไปหมด

“มีอะไรจะบอกแม่หรือเปล่า” มารดาถามอีกครั้ง

ลูกชายยังไม่พูดอะไร เขากอดมารดาอย่างแน่น น้ำตายังไหลพรากอยู่

“แม่ครับ เดือนหน้าผมได้เลื่อนตำแหน่งงาน เกรงว่าผมจะไม่มีเวลาดูแลแม่ อีกอย่างเมียผมเองก็อยากจะออกไปทำงานด้วย คือว่า...” ลูกชายกลั้นใจพูดออกมา

“ไม่นะ...อย่าเอาแม่ไปไว้ที่บ้านพักคนชรานะลูก”

เมื่อมารดาพูดคำนี้ออกมา ลูกชายก็นิ่งไปนานด้วยหัวใจที่ปวดร้าว

“แม่ครับ อยู่บ้านพักคนชราก็ดีนะครับ แม่จะได้ไม่เหงา ที่นั่นมีคนดูแล มีเพื่อนในวัยคราวเดียวกัน ดีกว่าอยู่ที่บ้านนะครับ หากเมียผมไปทำงาน เธอจะไม่มีเวลาดูแลแม่เลยนะครับ”

“แต่แม่อยู่บ้านคนเดียวได้นะ แกกับเมียของแกก็ออกไปทำงานเถอะ แม่อยู่บ้านคนเดียวได้”

“แม่ครับ แม่จะอยู่คนเดียวได้ไง กว่าผมจะกลับก็ดึก กว่าเมียผมจะกลับอาจจะดึกด้วย แล้วใครจะหุงหาอาหารให้แม่ทานล่ะครับ ไปอยู่ที่โน้น มีคนดูแลเอาใจใส่ตลอดเวลานะครับ”

ลูกชายพูดออกมา ทำให้มารดาพูดออะไรไม่ออกก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องครัว ลูกชายมองตามก่อนที่จะเดินตามไป

หลังจากที่เขาอาบน้ำเสร็จ ก็ออกมาทานบะหมี่ จากนั้นก็เข้าไปที่ห้องหนังสือ เขายืนนิ่งอยู่ที่หน้าต่าง ในใจเกิดความสับสนขัดแย้ง ไม่รู้จะตัดสินใจอย่างไรดี!

แม่ของเขาเป็นหม้ายตั้งแต่ยังสาว กล้ำกลืนทนทุกข์เลี้ยงเขามาจนเติบใหญ่ อีกทั้งส่งเสียให้เรียนยังต่างประเทศ แต่แม่ไม่ได้อ้างสิ่งที่ทำไปเป็นเบี้ยต่อรองให้เขาต้องเลี้ยงดู กลับกัน
ภรรยาผู้มาทีหลังกลับเรียกร้องให้เขาต้องรับผิดชอบ นี่เขาต้องส่งแม่ไปอยู่บ้านพักคนชราจริงหรือ?

“คนที่จะอยู่กับแกในช่วงบั้นปลายชีวิตคือเมียนะโว้ย ไม่ใช่แม่!” เพื่อนๆมักจะเตือนเขาอย่างนี้

“แม่ของเธอแก่แล้วนะ หากโชคดีก็อยู่กับแกได้อีกหลายปี ทำไมไม่อาศัยเวลาที่เหลือของแม่แล้วก็กตัญญูปรนนิบัติท่านละ อย่ารอให้แกอยากกตัญญูแต่แม่ไม่อยู่แล้ว แล้วแกจะเสียใจ!” ญาติๆมักจะเตือนเขาว่าอย่างนี้ เขาไม่กล้าคิดอะไรต่อ กลัวว่าตนเองจะเปลี่ยนแปลงความตั้งใจ
เย็นแล้ว พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า เขานั่งเงียบๆคนเดียวด้วยจิตใจที่หดหู่

บนถนน รถของลูกชายแล่นไปอย่างช้าๆ มีมารดานั่งอยู่ข้างคนขับที่เป็นลูกชาย มารดาไม่พูดอะไรสักคำ ลูกชายเอาแต่ชะเง้อมองมารดาเป็นบางครั้ง

ณ บ้านพักคนชราที่แสนจะหรูหรานอกชานเมือง เขาใช้เงินจำนวนมากเพื่อทดแทนความรู้สึกผิดต่อแม่ของเขา อย่างน้อยที่นี่ก็สะดวกสบาย
เมื่อเขาพยุงแม่เข้าสู่ตัวอาคาร ทีวีจอยักษ์กำลังฉายภาพยนตร์ตลกอยู่ แต่ไม่มีเสียงหัวเราะจากผู้ชมแม้แต่คนเดียว คนชราจำนวนหนึ่งที่สวมใส่เสื้อผ้าเหมือนกัน นั่งอยู่บนโซฟานั่งมองประตูทางเข้าด้วยสายตาอันเหม่อลอย หญิงชราคนหนึ่งกำลังก้มตัวลงไปเก็บขนมที่ตกอยู่ที่พื้นขึ้นมาใส่ปาก
เขารู้ว่าแม่ชอบห้องที่สว่างโล่ง จึงเลือกห้องที่แสงพระอาทิตย์สามารถสาดส่องเข้ามาได้ เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ใบไม้กำลังร่วงลงสู่พื้นหญ้าเป็นจำนวนมาก นางพยาบาลหลายคนกำลังเข็นรถเข็นที่มีคนชรานั่งอยู่ออกไปชมพระอาทิตย์ตกดิน รอบตัวเงียบสงัด ทำให้เขาสะท้านวาบในจิตใจ
แม้แสงพระอาทิตย์ยามลับขอบฟ้าจะงดงามสักเพียงใด นั่นก็หมายความว่าความมืดยามค่ำคืนกำลังจะย่างกรายเข้ามาแทนที่ เขาถอนหายใจเบาๆ

“แม่ครับ ผม....ต้องไปแล้วนะ” ผู้เป็นแม่ทำได้เพียงแค่พยักหน้า
ตอนที่เขาเดินจากมา แม่ยังคงโบกมือลาด้วยสีหน้าอันเศร้าสร้อย อ้าปากพูดโดยไม่มีเสียงอยู่ตลอดเวลา เมื่อเขาหันมามอง จึงเห็นผมสีดอกเลาของแม่ เขานึกในใจ “แม่แก่แล้วจริงๆ”
อยู่ๆ ภาพในครั้งอดีตก็ผุดขึ้นในห้วงแห่งความคิด ปีนั้นเขาอายุได้เพียงแค่6ขวบ แม่มีธุระต้องไปต่างจังหวัด จึงต้องพาเขาไปฝากไว้ที่บ้านคุณลุง ตอนที่แม่จะออกจากบ้านไป เขารู้สึกกลัวมาก เอาแต่กอดขาแม่ไม่ยอมให้แม่ไป

“แม่จ๋าอย่าทิ้งหนูไป แม่จ๋าอย่าทิ้งหนูนะ!” สุดท้าย แม่ก็ไม่กล้าทิ้งเขาไปต่างจังหวัด
เขารีบก้าวเท้าเดินออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด เมื่อปิดประตูแล้วก็ไม่กล้าหันไปมองแม่อีก

เมื่อกลับถึงบ้าน เขาเห็นภรรยาและแม่ยายกำลังเก็บเอาข้าวของของแม่โยนออกมานอกห้อง
ถ้วยรางวัลรูปคนยืนสูงประมาณ3ฟุตที่เขาชนะเลิศประกวดเรียงความ “แม่ของฉัน”
พจนานุกรมอังกฤษจีนที่แม่ซื้อให้เขาในวันเกิดซึ่งเป็นของขวัญชินแรกที่เขาได้รับจากแม่
ยังมียาหม่องน้ำที่แม่ต้องทาขาก่อนนอนทุกวันฯ

“หยุดเดี๋ยวนี้นะ! พวกคุณโยนของๆแม่ผมออกมาทำไม?” เขาถามออกไปด้วยความโมโหสุดขีด

“ขยะทั้งนั้น ถ้าไม่ทิ้ง แล้วฉันจะเอาของๆฉันวางไว้ตรงไหน?”แม่ยายพูดอย่างไม่สบอารมณ์

“ใช่แล้ว คุณรีบเอาเตียงเน่าๆของแม่คุณไปทิ้งได้แล้ว พรุ่งนี้ฉันจะซื้อเตียงใหม่ให้แม่ฉัน!”

“ว่าอะไรนะ” สามีอุทานออกมา

รูปเก่าๆสมัยเขายังเด็กกองอยู่กับพื้น มันเป็นรูปที่แม่พาเขาไปเที่ยวสวนสัตว์และสวนสนุก

“นั่นมันเป็นสมบัติของแม่ผม ใครก็เอาไปทิ้งไม่ได้! ทั้งนั้น” สามีตวามดเสียงดัง

“มันจะมากเกินไปแล้วนะ มาทำเสียงดังกับแม่ฉันได้ยังไง ขอโทษแม่ฉันเดี๋ยวนี้!”

“ใช่ มาตวาดใส่ชั้นทำไม ชั้นนะแม่ยายแกนะ ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ไม่รู้จักว่าใครเป็นใคร ” แม่ยายพูดออกมาด้วยอารมณ์เสีย

“ขอโทษแม่ชั้นเดี๋ยวนี้ ” ภรรยาออกคำสั่งกับสามี

สามีนิ่งไม่พูดอะไร ค่อยก้มตัวลงเก็บของใช้ของแม่  ทังแม่ยายและภรรยามองดูอย่างสมเพช

“ของเน่า ๆ เก่าๆ แบบนี้จะไปหวงไว้ทำไม เอาทิ้งไปขายเป็นของเก่าจะได้เงินหรือเปล่าก็ไม่รู้ ตอนนี้แม่เธอก้ไม่ได้อยู่ที่บ้านหลังนี้แล้ว จะเก็บมันไว้ทำไม รกหูรกตาเปล่า ” แม่ยายพูด

“แม่ชั้นพูดถูกแล้ว คุณรีบเก็บของเน่าๆเก่า ๆ เหม็นๆของแม่คุณโยนทิ้งขายเป็นของเก่าไปชะ อย่างที่ฉันบอกว่าพรุ้งนี้ฉันจะชื้อเตียงให่ข้าวของเครื่องใช้ใหม่ให้แม่ฉัน” ภรรยาบอก

สิ้นสุดคำพูดของภรรยา สามีมองหน้าภรรยาและแม่ยาย

“ผมเลือกคุณ ผมแต่งงานกับคุณ ผมก็ต้องรักแม่คุณด้วย   แต่ทำไม...ทำไมคุณแต่งงานกับผมคุณและแม่ของคุณย้ายเข้ามาอยู่บ้านผม แล้ทำไมคุณรักแม่ผมไม่ได้? ” สามีพูดออกมาทำให้ภรรยาของเขาหยุดนิ่งกับสิ่งที่สามีพูด

“แม่ของผมทำอะไรให้พวกคุณไม่พอใจอะไรหรือเปล่า คุณและแม่ของคุณถึงได้รังเกียจท่านมากขนาดนี้ บ้านหลัง บ้านที่คุณสองคนอาศัยตั้งแต่ผมแต่งงานกับคุณจนมาถึงปัจจุบันนี้ก็เป็นบ้านของแม่ของผมที่ท่านสร้างขึ้นมา ตอนนี้คุณเป็นเมียผม คุณมีหน้าที่ดูแลบ้านดูแลแม่ผม ดูแลแม่ของคุณ แค่นี้คุณยังทำไม่ได้เลย ”

“เอ่อ...คือว่าฉัน...”

“ผมจะไปรับแม่ผมกลับบ้าน แล้วผมจะจ้างคนรับใช้ให้มาดูแลท่านเอง แล้วดูแลบ้านหลังนี้”

“งั้นก็รีบไปสิค่ะ ฉันขอโทษที่ฉันทำกับแม่คุณแบบนั้นออกไป ฉันขอโทษ” ภรรยาขอโทษ

“ผมว่าเราไปด้วยกันไม่ได้แล้วล่ะ คุณไม่รักแม่ของผมแม้แต่น้อยเลย แล้วคุณจะม่สำนึกรักแม่ของอะไรตอนนี้ มันสายไปแล้วล่ะ ” สามีพูดออกมา

“คุณหมายความว่าไง” ภรรยาถามสามี สงสัยสิ่งที่สามีพูดออกมา

“หวังว่าผมไปรับแม่กลับมาบ้านคงจะไม่เห็นคุณและแม่ของคุณที่นี่อีกนะ”

สามีพูดจบรีบเดินออกไปขึ้นรถทันที ภรรยาเอาแต่วิ่งร้องให้ตามสามีเพื่อสำนึกในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ไม่ทัน...เพราะสามีขึ้นรถและขับรถออกไปแล้ว ภรรยาเอาแต่ร้องให้ฟูมฟาย มารดาของภรรยาเดินเข้ามาปลอบใจลูกสาวของตนเอง

ท้องฟ้าอันมืดมิดหลังฝนตก หนาวสะท้านเข้าไปถึงหัวใจ ท้องถนนที่ว่างเปล่าไร้รถรา บีเอ็มดับบลิวคันหนึ่งพุ่งไปข้างหน้าราวกับอยู่ในสนามแข่ง พร้อมกับเสียงสะอื้นไห้ของชายคนหนึ่งซึ่งมุ่งไปทางบ้านพักคนชรานอกเมือง
จอดรถเสร็จ เขารีบวิ่งขึ้นไปที่ห้องพักของแม่ เมื่อเปิดประตูเข้าไป เขายืนมองแม่ด้วยความรู้สึกที่ไม่น่าให้อภัยตัวเอง แม่ของเขาก้มหน้าใช้มือนวดที่ขาของตัวเอง
เมื่อแม่ของเขาเงยหน้าขึ้นมองไปที่ประตู ก็เห็นลูกชายของตัวเองยืนอยู่และในมือถือยาหม่องน้ำอยู่ และก็พูดออกมาด้วยเสียงอ่อนโยนว่า

“นั่นยาหม่อมของแม่ แม่ลืมเอามาด้วย ดีนะที่ลูกเอามาให้” มารดาพูดกับลูกชาย
เขาเดินไปหาแม่และคุกเข่าลงไปพร้อมกับเปิดฝายาหม่อมแล้วนวดขาของมารดาเบาๆ

“มันดึกมากแล้วนะลูก แม่ทาเองได้ พรุ่งนี้ลูกต้องไปทำงานแต่เช้า กลับไปเถอะ!”
เขานิ่งไปครู่หนึ่ง สุดท้ายก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้

“แม่ครับ ผมขอโทษ แม่ยกโทษให้ผมนะ กลับบ้านเราเถอะนะครับแม่” ลูกชายโอบกอดมารดาพร้อมร้องให้ไปด้วย มารดาแปลกใจกับสิ่งที่ลูกชายบอกตนเอง แต่ก็ดีใจที่ลูกชายสำนึกได้พร้อมอภัยให้ลูกเสมอ

“ไม่เป็นไรลูก แม่เข้าใจในสิ่งที่ลูกของแม่ทำ แม่ให้อภัยลูกได้เสมอ” มารดาบอก

“ผมทำผิดกับแม่มาก ผิดอย่างไม่น่าจะให้อภัยได้ แม่ไม่ให้อภัยผมก็ได้นะครับ ”

“แม่บอกแล้วไง ผิดแล้วยอมรับผิดในสิ่งที่ทำขึ้น แม่ให้อภัยลูกของแม่เสมอ แม่รักลูกนะ”

“ผมก็รักแม่นะครับ....กลับบ้านเรานะ” ลูกชายเงยหน้าบอกมารดา มารดาพยักหน้า

ทั้งสองแม่ลูกกอดกันพร้อมกับร้องให้ในอ้อมกอดของกันและกัน

ที่บ้าน.... รถของลูกชายขับเข้ามาในบ้าน มารดาของเขาเห็นลูกสะใภ้กับแม่ของหล่อนกำลังสะพายกระเป๋าเดินออกจากบ้าน

“นั่นเมียของลูกกำลังจะไปไหน” มารดาถามลูกชายอย่างสงสัย แต่ลูกชายไม่ตอบอะไร

“ว่าไง...พวกเขากำลังจะไปไหน” มารดาเค้นถามลูกชายอีกครั้ง

“แม่ครับ...ผมรับไม่ได้กับสิ่งที่เขาทั้งสองคนทำกับแม่ เขาแต่งงานกับผมย้ายเข้ามาอยู่บ้านของเรา เขาก็ต้องรักและเคารพแม่ด้วย แต่นี่พวกเขาสองคนไม่รักและไม่เคารพแม่ ผมไม่อาจจะอยู่ร่วมชายคาเดียวกันกับพวกเขาได้ ผมก็เลย...” ลูกชายพูดไม่ทันจบ มารดารีบเปิดประตุรถลงไปทันที และเดินมาขวางหน้าลูกสะใภ้และมารดาของลูกสะใภ้

          ลูกสะใภ้พร้อมมารดาของหล่อนไม่กล้าสบตากับมารดาของสามี

“พวกเธอจะไปไหน” มารดาของสามีถาม

“เอ่อ...ฉัน” มารดาของลูกสะใภ้ตอบไม่ถูกว่าจะไปที่ไหน

“ฉันรู้ว่าพวกเธอไม่มีที่ไป เพราะบ้านของเธอที่ต่างจังหวัดก็ไม่มีแล้วหลังจากที่พวกเธอย้ายเข้ามาที่บ้านของฉันในวันที่ลูกชายของฉันแต่งงาน” 

“แม่ครับ กลับเข้าบ้านเถอะครับ ดึกมาแล้ว ” ลูกชายพูดกับมารดา

“กลับเข้าบ้านของเรากันเถอะ” เสียงของมารดาพูดออกมา ทำให้หญิงสาวและมารดาตกใจกับคำพูดนั้น ทั้งสองมองหน้ามารดาของสามี

“หมายความว่า...” หยิงสาวถามอย่างสงสัย

“เธอคือลูกสะใภ้ของฉัน เธอก็ต้องอยู่ที่บ้านหลังนี้  เธอเป็นเมียของลูกชายฉันเธอก็ต้องอยู่กับสามีของเธอที่นี่ ที่บ้านหลังนี้ เธอจะไปไหนไม่ได้ ” มารดาฝ่ายสามีพูดออกมา

“คุณแม่...คุณแม่ไม่โกรธที่หนูเหรอค่ะที่หนูกับคุณแม่ปฎิบัติกับคุณแม่ไม่ดีแบบนั้นไป” ลูกสะใภ้บอกมารดาของสามี

“เรื่องอะไรที่มันผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านเถอะ มันยังไม่สายเกินไปถ้าจะปรับปรุงตัวแก้ไขปรับเปลี่ยน” มารดาของฝ่ายสามีบอกกล่าว ลูกสะใภ้ก้มลงกราบเท้าแม่สามี ทั้งสองโผล่กอดกัน สามียืนดูอย่างซาบซึ้ง เช่นเดียวกับแม่ของภรรยาที่ยืนน้ำตาคลอเบ้าที่เห็นภาพความรักของแม่ของลูกเขยที่ไม่โกรธสิ่งที่ตนเองและลูกทำลงไป

****จบ****

เนื้อหาโดย: เจ้าชายไข่แดง
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เจ้าชายไข่แดง's profile


โพสท์โดย: เจ้าชายไข่แดง
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
32 VOTES (4/5 จาก 8 คน)
VOTED: makhamdong, เจ้าชายไข่แดง, zerotype, The Little Devil, Tabebuia, Keroppi
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เขมรอ้างกีฬายิมนาสติก มีต้นกำเนิดมาจากเขมร มีหลักฐาน ณ กำแพงนครวัด?อิตาลี่ออกกฏ "ห้ามขายพิซซ่า ไอศครีม" หลังเที่ยงคืนคดีฆ่ๅชำแหละยัดถุงดำ เป็นฝีมือชาวญี่ปุ่นห้ามพลาด 3 ร้านอาหาร คาเฟ่ หัวหินนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ตั้งกรรมการสอบ ปมไอลอว์ตั้งคำถามเล่มจบ ป.เอกของ "สว.สมชาย" ข้อความคล้ายหลายแหล่งสาวคาซัคสถาน ทนไม่ไหว ทำสัญญาเลิกจากการเป็นทาสอย่างเด็ดขาด (โปรดดูหน้านายทาส รูปสุดท้าย ดูเต็มใจม๊ากมาก)แร๊พเปอร์ชื่อดัง "คริส คิง" ถูกโจรยิงตายในตรอกโควิด-19 อีกแล้ว!!!
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
"หนุ่ม กรรชัย" ลั่น! ไม่ทะเลาะกับเด็ก แต่ผู้ใหญ่ไม่แน่..หลังต้องอ่านข่าวลัทธิเชื่อมจิตอากาศร้อนทำราคาไข่พุ่ง เป็ดออกไข่น้อยห้ามพลาด 3 ร้านอาหาร คาเฟ่ หัวหินอิตาลี่ออกกฏ "ห้ามขายพิซซ่า ไอศครีม" หลังเที่ยงคืน
กระทู้อื่นๆในบอร์ด เรื่องน่ารักๆ ซึ้งๆ
ภาพความประทับใจ : ภาพของคุณตาชาวเมียนมาร์หอบคุณยายหนีตายข้ามแม่น้ำเมย มาสู่ฝั่งไทยเข้าใจคิด!! เมื่อร้านอาหารวางเเป้งเย็นไว้ทุกโต๊ะ เสิร์ฟความเย็นถึงมือลูกค้าให้ใจร่ม ๆ ก่อนสั่งอาหาร 😆เมื่อหนูน้อยทำตุ๊กตา "ลาบูบู้"..เพราะรู้ซื้อไม่ได้ มันราคาแพง!ดอกไม้ประจำเดือนเกิด มาดูกันว่า แต่ละเดือนเกิดนั้น ดอกไม้ประจำเดือนนั้น จะเป็นดอกอะไรกันบ้างได้เลยน๊า
ตั้งกระทู้ใหม่