ตำรวจเรียกแกนนำสงฆ์-ฆราวาสสอบชุมนุมพุทธมณฑลอาจมีความผิดประกาศคสช.ฉบับที่ 7
ตำรวจภูธร 7 เตรียมออกหมายเรียกสงฆ์และฆราวาส ชุมนุมบริเวณพุทธมณฑลสอบถามข้อเท็จจริง ยังไม่ตั้งข้อหา เผยอาจขัดประกาศคสช.ฉบับที่ 7 ห้ามชุมนุมการเมือง เจ้าคุณประสารเสียงอ่อยบอกยินดีให้ความร่วมมือ แต่อย่าให้ทหารไปถึงบ้านเพราะคนเฒ่าคนแก่อาจช็อกได้ ศิษย์พระธรรมกายฟ้องกลับหลวงปู่พุทธะอิสระ
เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2559 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรจภูธรภาค 7 เตรียมออกหมายเรียกกลุ่มพระสงฆ์และฆราวาส ที่เคลื่อนไหวชุมนุมที่พุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์มาให้ถ้อยคำ เบื้องต้น ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา แต่เนื่องจากมีพยานหลักฐานชัดเจนว่ามีบุคคลใดเป็นแกนนำ หรือผู้เกี่ยวข้องในการชุมนุมครั้งนั้นบ้าง โดยเฉพาะพระเมธีธรรมาจารย์ เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้จัดงานสัมมนาในวันดังกล่าว
ส่วนการชุมนุมจะเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย หรือขัดคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หรือไม่ ต้องพิจารณาข้อเท็จจริงอีกครั้ง โดยเชื่อว่า ภายในสัปดาห์นี้จะมีความชัดเจน ว่าจะมีการแจ้งข้อกล่าวหากับบุคคลใดหรือไม่
ในวันเดียวกัน พระเมธีธรรมาจารย์ หรือ พระประสาร จนฺทสาโร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร ในฐานะเลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย แกนนำเครือข่ายคณะสงฆ์และองค์กรภาคีพุทธบริษัท 4 ทั่วประเทศ (คสพ.) ที่ชุมนุมเรียกร้องให้บัญญัติพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติในรัฐธรรมนูญ และให้แต่งตั้งสมเด็จมหารัชมังคลาจารย์ หรือ สมเด็จช่วง เป็นพระสังฆราชโดยเร็ว กล่าวถึงกรณีที่ พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม หรือ พระพุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ได้แจ้งความดำเนินคดีตนและพวก ฐานร่วมกันบุกรุกพุทธมณฑล และชุมนุมโดยผิดกฎกหมาย ว่า พระพุทธะอิสระอยากทำอะไรก็เรื่องของเขา ส่วนอาตมาไม่ขอแจ้งความกลับ เพราะต้องการอยู่อย่างสงบ เพื่อให้รัฐบาลทำงานได้อย่างราบรื่นตามที่ตกลงกันไว้
นอกจากนี้ หากมีหมายจากตำรวจเรียกสอบอาตมาในกรณีที่มีการชุมนุมพระสงฆ์ที่พุทธมณฑล อาตมาก็ยินดีจะให้ความร่วมมือ ทั้งนี้อยากขอความร่วมมือไปยังฝ่ายทหารว่า อย่าดึงคนในครอบครัวของอาตมามาเกี่ยวข้อง เพราะชราภาพแล้ว ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ขอร้องอย่าส่งทหารไปที่บ้านเกิดอาตมาอีก เพราะกลัวว่าผู้เฒ่าผู้แก่จะตกใจ ถ้าช็อกขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ
ส่วนเรื่องที่ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม แถลงว่า รถยนต์โบราณของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ นำเข้าอย่างผิดกฎหมายนั้น อาตมาไม่ได้กังวลในเรื่องนี้ เพราะกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เคยออกมาพูดว่า ถึงแม้การนำเข้ารถยนต์จะผิด แต่หากพระที่รับบริจาคไม่ได้มีเจตนา หรือไม่รู้ที่มาของรถ ก็ไม่ถือว่าผิด ทั้งนี้ ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของดีเอสไอที่จะชี้มูลความผิดรายตัวบุคคล
อีกด้านหนึ่ง มีรายงานว่า นายอัยย์ เพชรทอง นักธุรกิจเจ้าของบริษัท แทนไทย ไทยแลนด์ จำกัด และลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี ในฐานะประธานองค์กรพลังชาวพุทธ (อพพ.) ได้นัดหมายสื่อมวลชน ที่สถานีตำรวจภูธรพุทธมณฑล จ.นครปฐม ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ เวลา 09.30 น. เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ พระพุทธะอิสระ ในข้อหาแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พระพุทธะอิสระได้แจ้งความดำเนินคดีกับพระเมธีธรรมาจารย์และพวก ฐานร่วมกันบุกรุกพุทธมณฑลและชุมนุมโดยผิดกฎหมาย นำไปสู่การออกหมายเรียกพระเมธีธรรมาจารย์ในที่สุด
คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศฉบับที่ 7
เมื่อเวลาประมาณ 19.35 น. วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ออกประกาศฉบับที่ 7 ห้ามมั่วสุมหรีอชุมนุมทางการเมือง ตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป หากฝ่าฝืน โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สำหรับผู้ชุมนุมปัจจุบันให้เดินทางกลับภูมิลำเนา ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
First posted: 18 กุมภาพันธ์ 2559 | 17:13