หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

5 ความเชื่อที่ไร้สาระทางไสยศาสตร์(ที่อธิบายอย่างมีเหตุและผล)

โพสท์โดย สาระรวมมิตร

เราทุกคนต้องยอมรับเนอะ ว่าเกือบทุกคนนั้นเชื่อเรื่องโชคลาง ไม่ว่าจะเป็นโชคดีหรือโชคร้ายก็ตาม เช่นเวลาคุณจะไปสอบสัมภาษณ์งาน คุณก็อมพระใส่เสื้อชุดเก่งโดยเชื่อว่ามันจะช่วยให้เราได้งาน หรือคุณไม่ออกจากบ้านในศุกร์ที่ 13 เพราะถือว่าโชคร้าย ฯลฯ และวันนี้ เราขอนำเสนอความเชื่อที่ฮิต 5 เรื่องจากทั่วโลกมาให้อ่านกัน แม้หลายคนบอกว่ามันเหลวไหล(ว่ะ) ไร้สาระ ใครเชื่อก็บ้าแล้ว แต่ถ้าเรามองลึกๆ หาที่มาและดูเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ก็สามารถเข้าใจในเรื่องพวกนี้อย่างสนุก สนานเช่นกัน

อันดับ 5 แมวดำ(Black Cats)

ลางร้ายเกี่ยวกับแมวดำนี้มีเยอะ เสียจริง ในประเทศแถบเอเชียนี้ใครเห็นแมวดำที่ไหนจะต้องมีคนตายที่นั้น, ในประเทศจีนถ้าแมวดำข้ามศพศพจะคืนชีพ ในประเทศไทยเชื่อว่าถ้าแมวดำโดนศพ ศพจะมลทิน ซึ่งวิธีแก้ของแขกมาลายู ที่ต้องเอาตะไกรหนีบมาวางบนอกศพ เผื่อว่าแมวกล้ำกรายเข้ามาใกล้ศพ หรือถูกศพ เหล็กตะไกรจะเป็นเครื่องบังคับไม่ให้ศพลุกขึ้นมา กลายเป็นผีร้าย เป็นที่หวาดเกรงของชาวบ้านได้

ความเชื่อมาจากไหนเหรอ?? ความเชื่อนี้ไม่สามารถระบุให้แน่ชัดได้ว่ามันมาจากไหน ทั้งๆที่ในยุคอียิปต์โบราณ แมวถือเป็นสัตว์เลี้ยงของเทพเจ้าทีเดียว !! ถึงขั้นที่ว่าแมวทุกตัวในสมัยนั้น(รวมแมวดำด้วย)จะได้รับการยกย่องมาก มีกฎหมายคุ้มครองไม่ให้ใครทำร้ายหรือฆ่าแมว หากแมวในครอบครัวตาย จะจัดพิธีศพอย่างหรูหรา ใช้ผ้าลินินมห่อศพเอาไว้เหมือนมัมมี่แล้วเก็บในโลงที่ทำจาก โลหะมีค่า เช่น บรอนซ์ หรือทำด้วยไม้

สันนิษฐานกันว่า ความหวาดกลัวแมวดำเริ่มขึ้นที่ยุโรปในยุคกลาง ยุคล่าแม่มดนั้นแหละ ซึ่งช่วงนั้น ประชากรแมวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วราวกับดอกเห็ด และคนเลี้ยงแมวส่วนใหญ่เป็นหญิงชราที่ถูกทอดทิ้ง ที่ดูแล้วไม่เป็นมิตรหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่ สกปรก น่ากลัว ประกอบกับแมวเป็นสัตว์ลึกลับ โดยธรรมชาติอยู่แล้ว เมื่อทั้ง 2 สิ่งมาอยู่รวมกันจึงเป็นธรรมดาที่คนพูดว่า "แมวดำเป็นสัตว์เลี้ยงของแม่มด" จึงเกิดความกลัวขึ้น ในแต่ละเดือน มีแมวดำนับพันๆ ตัวถูกเผา รวมถึงหญิงชราผู้เป็นเจ้าของแมวด้วย และนอกจากนั้นยัง ผสมกับความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์มนต์ดำและนิทานพื้นบ้านที่เล่าว่า "ในคืนเดือนมืดคืนหนึ่ง 2 พ่อลูกเห็นสิ่งมีชีวิตเล็กๆ เดินผ่านหน้าบ้านไป ด้วยความกลัวพวกเขาจึงขว้างก้อนหินออกไป ปรากฎว่ามันเป็นแมวดำ! มันเดินขากะเผลกไปที่บ้านที่หญิงชราอาศัยอยู่ วันรุ่งขึ้น พ่อลูกคู่นี้ก็เห็นหญิงชราคนนี้ หน้าเป็นแผล แขนเจ็บ และเดินขากะเผลก ตั้งแต่วันนั้นมา ชาวเมืองก็เชื่อกันว่าแมวดำคือแม่มดแปลงร่างมา"

อันดับ 4 Groundhog Day

ทุกๆ ปีในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ของแต่ละปี ที่มลรัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา เป็นประเพณีของชาวอเมริกันที่อยู่ตามชนบท ผู้ศรัทธาความเชื่อในความพิศวง การพยากรณ์อากาศ ของตัว groundhog(เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม รูปร่างเหมือนตุ่น)ซึ่งเปรียบเหมือนสัญลักษณ์การทำนายสภาพอากาศว่าฤดูใบไม้ ผลิ จะมาช้าหรือเร็วในปีนั้นๆ ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าหากพวกมันออกจากโพรงที่มันอาศัยและจำศีลในฤดูหนาวแล้วมัน ไม่มองเห็นเงาของตนเองแสดงว่าอากาศหนาว ยังคงดำเนินต่อไป แต่ถ้าหากว่ามะนเห็นเงาของตนเองสิ้นสุดการจำศีลและเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ ความเชื่อนี้มันอาจไร้สาระหรือไม่เป็นวิทยาศาสตร์ แต่ทุกปี เทศกาล " Groundhog Day " ก็เป็นความคึกคักของชาวเมืองแห่งนี้มาก มีการจัดกิจกรรม และงานเฉลิมฉลองตลอดวันตลอดคืน

ความเชื่อมาจากไหนเหรอ?? เรื่องนี้สามารถอธิบายตามวิทยาศาสตร์เหมือนกัน โดยธรรมชาติแล้วตัว groundhog เป็นสัตว์ที่คล้ายๆ หมีที่ มันจะตื่น เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ โดยเจ้าตัว groundhog ก็เช่นเดียวกันหมีนี้แหละที่ตื่นเพื่อดูว่าอากาศจะเป็นอย่างไร ถ้าอากาศหนาวมันก็ บ้ายบาย กลับไปนอนต่อดีกว่า ซึ่งมันอาจขึ้นๆ ลงๆ จนกว่ามันจะรับรู้ว่าฤดูใบไม้ผลิมาถึงแล้วจึงจะขึ้นข้างบนและไม่ลงไปจำศิล ที่รูแล้วละ นอกจากนี้สาเหตุที่มันมองเห็นเงาก็เพราะฤดูใบไม้ผลิ มันมีแสงอาทิตย์ส่องไงจึงเกิดเงาขึ้น แต่หากเป็นฤดูหนาวมันก็ไม่มีแสงแดดส่องสิแล้วเจ้าตัว groundhog จะเห็นเงาได้ไงละครับท่าน

อันดับ 3 กระจกแตก (Breaking a Mirror)

มนุษย์เรานี้ช่างขี้กลัวจริงๆ แม้กระทั้งอุบัติเหตุรอบตัวเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่นกระจกแตกเป็นเชื่ออย่างจับใจว่านี่คือลางร้ายอย่างยิ่ง คุณอาจเจ็บใจไข้ได้ป่วย มีอันตรายและต้องประสบเคราะห์กรรมเป็นเวลา 7 ปี บางคนถึงกับเปลี่ยนแปลงแผนการและพฤติกรรมไปเลยเมื่อเกิดเหตุเหล่านี้

ความเชื่อมาจากไหนเหรอ?? ความเชื่อนี้มีมาในสมัยกรีกซึ่งชาวกรีกที่เชื่อว่ากระจกคือเครื่องบอกอนาคต สะท้อนให้เห็นถึงวิญญาณของคน ทำให้มีความเชื่อว่า ภาพถ่ายหรือภาพเขียนหรือกระจกเป็นตัวแทนของวิญญาณหรือร่างอันแท้จริง ดังนั้นเมื่อมีอะไรเกิดขึ้นกับกระจกหรือรูปภาพ จึงเท่ากับว่าจะมีเหตุร้ายบางอย่าง เกิดขึ้นกับเจ้าของ นอกจากนี้ทางยังมีเหตุผลอธิบายได้อีกแบบคือในศตวรรษที่ 16 กระจกมีราคาแพงมาๆ เป็นสินค้าฟุ่มเฟือยของคนร่ำคนรวย หากมีการตกแตกล่ะก็ซวยสิ ดังนั้นผู้หลักผู้หญิงมักสอนเด็กเสมอว่า "เอ็งอย่ามาเล่นกระจกนะวุ้ย ไม่งั้นจะโชคร้ายถึง 7ปี (ทั้งนี้เพราะชาวโรมันมีความเชื่ออยู่ว่า สุขภาพของคน จะเปลี่ยนแปลงทุก ๆ 7 ปี) ซึ่งตามจิตวิทยาบอกว่า "เด็กมักเชื่อเรื่องที่ผู้ใหญ่เล่าเพราะขาดความเชื่อมั่นหรือความมั่นใจใน ตัวเอง จนขาดการวิเคราะห์เหตุผลอย่างเหมาะสมและเป็นวิทยาศาสตร์"

อันดับ 2 ใบไม้สี่แฉก(Four-Leaf Clover)

ใบไม้สี่แฉกเป็นความเชื่อของ ไอร์แลนด์ ที่เชื่อว่าใครได้พบต้น Clover (พืชตระกูลถั่ว)ที่มี 4 ใบจะถือว่าโชคดี (กลีบแรกหมายถึงความหวัง, กลีบสองหมายถึงศรัทธา,กลีบที่สามหมายถึงความรัก และสี่หมายถึงโชคดีไงล่ะ)

ความเชื่อมาจากไหนเหรอ??เหตุผลก็ ง่ายๆ เพราะมันหายากไงละอิงมาจากวิทยาศาสตร์เลยนะโดยบอกว่าโอกาสที่เจอใบพืชตระกูล ถั่วแบบสี่แฉกนี้เป็นเรื่องยาก เพราะการกลายพันธุ์แบบนี้โอกาสพบคือ 1 ใน 10000 ใบ ซึ่งส่วนใหญ่ต้นทั่วไปจะมี 3 ใบเท่านั้น แต่ถ้าใครขี้เกียจหาก็สามารถซื้อทางเน็ตได้!! พูดจริงๆ มันมีขายทางเน็ตแล้วครับ ราคาก็ดอกละ 25 ดอลลาร์(แพงหรือเปล่าเนี้ย) แต่ปัจจุบันพบว่ามีคนเพาะสายพันธุ์ แบบสี่ใบมาขายแล้วจ้าๆๆๆ http://www.lucky-four-leaf-clover.com/home.html แล้วมันโชคดีจริงๆ หรือ มีแน่นอน แต่เป็นเรื่องโภชนาการนะ ที่เขาบอกว่าพืชตระกูลถั่ว (เช่นถั่วแดง ถั่วเขียว ถั่วเหลือง และถั่วขาว) จากการศึกษาพบว่า ผู้ที่กินถั่วเป็นประจำมีระดับคอเลสเตอรอลน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้กิน และลดอัตราความเสียงต่อการเกิดโรคหัวใจด้วยพืชตระกูลถั่วนี้ประกอบด้วยไฟ เบอร์สูง ซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ทำความสะอาดลำไส้ ลดการสะสมของสารพิษในลำไส้ และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ อีกทั้งช่วยป้องกัน การเกิดมะเร็งลำไส้และมะเร็งต่อมลูกหมากด้วย

 

อันดับ 1 เท้าของกระต่าย (The Rabbit's Foot)

หลายคนในออสเตเลียเชื่อว่า การได้ของขลังเท้ากระต่ายมาประดับจะเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดีและความมั่น คั่งความร่ำรวย, ความอุดมสมบูรณ์, ความสำเร็จในชีวิต และสามารถคุ้มภัยได้ด้วย ยิ่งให้หญิงมีท้องจะช่วยให้คลอดลูกง่าย ลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมืองเลี้ยงจนตั้งเป็นทีมฟุตบอลซะเลย

ความเชื่อมาจากไหนเหรอ?? เหตุผลสุดง่ายคือกระต่ายเป็นสัตว์ที่ชอบถูกมนุษย์ล่าใช่เปล่า เมื่อนายพรานล่ากระต่ายได้ ก็จะเอาเนื้อหนังไปทำ ประโยชน์หลายๆ อย่าง แต่มีเพียงเท้าของกระต่ายเท่านั้นที่ทำประโยชน์ไม่ได้ แต่ด้วยความงกของนายพรานจึงตัดเท้ากระต่าย เอามาห้อยเป็น พวงกุญแจเพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่า(ตรูล่าฆ่ากระต่ายมา 100 ศพแล้วนะฮ่าๆ กลัวไหม) และเมื่อคนเห็นเครื่องประดับประกอบกับนิสัยของกระต่าย ที่เป็นสัตว์ ตื่นตัวอยู่เสมอ สามารถมองเห็นภัยอันตรายที่จะมาถึง เกิดลูกง่าย มีลูกเยอะ จึงกลายเป็นความเชื่อนี้ในที่สุด...... เอวัง

 

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
สาระรวมมิตร's profile


โพสท์โดย: สาระรวมมิตร
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
8 VOTES (4/5 จาก 2 คน)
VOTED: ท่านแมวฮั่ว แม่ทัพฮั่วชวี่ปิ้ง
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
คนไข้วัย 72 ติดเชื้อโควิดนาน 613 วัน ก่อนกลายพันธุ์ในร่างกายกว่า 50 ครั้งเด็กสาวในชุดนอนเปื้อนเลือด เดินตัวแข็งทื่อไปตามท้องถนน และตำนานการฆ่ๅตัวตๅยหมู่สาว "เจี๊ยบ" ทำเนียนเดินรวมกับ นร.ญี่ปุ่น..ทำเอาหนุ่ม "บอย" ถึงกับแยกไม่ออกพลังมหัศจรรย์ของ "เกลือ" เปลี่ยนการซักผ้าให้สะอาดง่าย
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
สาว "เจี๊ยบ" ทำเนียนเดินรวมกับ นร.ญี่ปุ่น..ทำเอาหนุ่ม "บอย" ถึงกับแยกไม่ออกชาวลาวไม่ทน! หลังหนุ่มจีนโพสทิ้งเงินกีบลงในถังขยะ ทำคนลาวถึงกับไม่พอใจ?อิหร่านขู่ถล่มที่ตั้งนิวเคลียร์ ของอิสราเอลด้วยขีปนาวุธชวนมารู้จักลาบูบู้ มาการอง เดี๋ยวจะคุยกับเค้าไม่รู้เรื่อง
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ดูดวง เรื่องลึกลับ
ราศีที่อ่อนไหวและอ่อนแอที่สุด5 ราศีที่มีพญาครุฑคุ้มครองคำทำนายวันสิ้นโลกจาก"นักวิทยาศาสตร์"3 ราศีที่มีความร้ายกาจ อย่างคาดไม่ถึง!
ตั้งกระทู้ใหม่