จะพาไปรู้จักกับ “ด่านลอย” ซึ่งถือว่าเป็น “ด่านเถื่อน” ว่ามีลักษณะอย่างไร
จะพาไปรู้จักกับ “ด่านลอย” ซึ่งถือว่าเป็น “ด่านเถื่อน” ว่ามีลักษณะอย่างไร แตกต่างจากด่านที่ตั้งโดยถูกต้องตามกฎหมายอย่างไร
เริ่มจากด่านถูกกฎหมายก่อน สำนักงานตำรวจแห่งชาติเคยจัดทำบันทึกข้อความเอาไว้อย่างชัดเจนว่า ด่านที่ถูกกฎหมายของตำรวจมี 3 ประเภทเท่านั้น คือ
1.ด่านตรวจ หมายถึง สถานที่ทำการที่เจ้าพนักงานตำรวจออกปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจค้นเพื่อจับกุมผู้กระทำความผิดในเขตทางเดินรถ ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก โดยระบุสถานที่ไว้ชัดแจ้งเป็นการถาวร การตั้งด่านตรวจจะต้องได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี หรือผู้มีอำนาจตามกฎหมายว่าด้วยทางหลวง หรือกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน.แล้วแต่กรณี
2.จุดตรวจ หมายถึง สถานที่ที่เจ้าพนักงานตำรวจออกปฏิบัติหน้าที่ตรวจค้นเพื่อจับกุมผู้กระทำความผิดในเขตทางเดินรถหรือทางหลวงในกรณีปกติเป็นการชั่วคราว โดยมีกำหนดระยะเวลาเท่าที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการปฏิบัติหน้าที่ แต่ต้องไม่เกิน 24 ชั่วโมง และเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจแล้วจะต้องยุบเลิกจุดตรวจดังกล่าวทันที การตั้งด่านตรวจประเภทนี้ต้องได้รับอนุมัติจากนายตำรวจระดับผู้บังคับการ (ยศ พลตำรวจตรี) ขึ้นไป
3.จุดสกัด หมายถึง สถานที่ที่เจ้าพนักงานตำรวจออกปฏิบัติหน้าที่ตรวจค้นเพื่อจับกุมผู้กระทำความผิดในเขตทางเดินรถหรือทางหลวง ในกรณีที่มีเหตุการณ์ฉุกเฉินหรือจำเป็นเร่งด่วนเกิดขึ้นเป็นการชั่วคราว และจะต้องยุบเลิกเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจดังกล่าว โดยการตั้งด่านประเภทนี้ต้องได้รับอนุญาตจากหัวหน้าสถานีตำรวจในท้องที่นั้นๆ
ส่วนด่านลอย หรือที่เรียกกันว่า “ด่านจ๊ะเอ๋” เพราะตำรวจมักหลบอยู่ตามสุมทุมพุ่มไม้ข้างทาง แล้วกระโดดออกมาจับกุมหรือสกัดรถนั้น เป็นด่านที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย มีลักษณะลักลอบตั้งตามทางแยก ทางโค้ง ทางเปลี่ยว // ตำรวจที่ตั้งด่านประเภทนี้มักหลบหลังต้นไม้ พุ่มไม้ เสาไฟฟ้า หรือแม้แต่มุมตึก // โดยเป็นการตั้งที่ไม่ได้รับอนุมัติจากผู้บังคับบัญชา // ไม่มีป้ายสัญญาณหยุดตรวจก่อนถึงด่าน // และไม่มีป้ายหรือป้ายไฟแสดงชื่อนายตำรวจที่รับผิดชอบด่าน
ปัญหาของด่านลอย นอกจากการรีดไถ หรือเรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบแล้ว ยังเสี่ยงเกิดอันตรายบนท้องถนน เพราะการที่ตำรวจกระโดดออกมาจากข้างทางอย่างกระชั้นชิดเพื่อสกัดรถหรือจับกุม จนเรียกกันว่าด่าน “จ๊ะเอ๋” นั้น หลายๆ ครั้งทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนตามมา ทำให้เกิดความสูญเสียทั้งประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน และตัวตำรวจเอง
ขณะที่ด่านตรวจถูกกฎหมาย ก็จะมีลักษณะตรงกันข้ามกับด่านลอยอย่างสิ้นเชิง ได้แก่
-ต้องมีเครื่องหมายบอกล่วงหน้าเป็นระยะว่าข้างหน้ามีด่าน เช่น กรวยสีส้มตั้งเป็นระยะ เพื่อบังคับทิศทางการจราจรให้เหลือช่องเดียวนำไปยังจุดตรวจค้น
-มีเครื่องหมายจราจรคำว่า “หยุด” หรือ “หยุดตรวจ” ก่อนถึงด่าน
-ในเวลากลางคืนจะต้องให้มีแสงไฟส่องสว่างให้มองเห็นได้อย่างชัดเจนในระยะไม่น้อยกว่า 150 เมตรก่อนถึงจุดตรวจ
-จะต้องมีหนังสือสั่งการให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่
-ต้องมีตำรวจสัญญาบัตรที่ควบคุมจุดตรวจ หรือด่านตรวจ พร้อมแจ้งวัน-เวลาที่ตั้งด่าน โดยกำลังพลทั้งหมดในด่านต้องสวมเครื่องแบบ
-หลังจากเลิกปฏิบัติหน้าที่ ต้องมีการสรุปผลการจับกุมตรวจค้น
จากมาตรการเข้มของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำให้หน่วยปฏิบัติรับนโยบายไปดำเนินการทันที โดยในส่วนของกองบัญชาการตำรวจนครบาลที่รับผิดชอบพื้นที่กรุงเทพฯ ก็สั่งให้เลิกด่านลอยทั้งหมดแล้ว พร้อมตั้งนายตำรวจที่รับผิดชอบการตั้งด่านตรวจ เป็นถึงระดับ “รองผู้กำกับการ” ซึ่งเป็นยศสูงกว่าที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนดไว้ในระเบียบ
สำหรับกฎเหล็กของตำรวจที่ทำหน้าที่ตั้งด่านตรวจนั้น พลตำรวจตรีอดุลย์ บอกว่า ห้ามเรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบทุกกรณี เพราะสิ่ที่กำลังดำเนินการอยู่นี้ ก็เพื่อกู้ภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นศรัทธาของตำรวจในสายตาประชาชนให้กลับคืนมา