เราต่างรู้กันดีอยู่แล้วว่าอาหารฟฟู้ดนั้นเป็นผลเสียต่อสุขภาพ แต่วันนี้หญิงสาวคนนี้ทำการทดลองให้เราดูจะจะ

ในปี 2004 Morgan Spurlock นักทำหนังตัดสินใจลองกินฟาสต์ฟู้ดทุกมื้อเป็นเวลา 1 เดือนเพื่อบันทึกผลการทดลองเอาไว้ ปรากฏว่า น้ำหนักตัวของเขาเพิ่ม สมรรถภาพทางเพศลด และมีอารมณ์แปรปรวน อย่างเห็นได้ชัด

คราวนี้ Phoebe Jackson-Edwards นักเขียนสาวเลยลองทำดูบ้าง

ผลปรากฏว่าผิวของเธอมันขึ้น และยังมีไขมันสะสมมากขึ้นถึงเท่าตัวบริเวณต้นขา

 

 

ก่อนการทดลองเธอเข้าตรวจสภาพผิวพบว่าผิวของเธอสุขภาพดี มีความชุ่มชื้นและเหมาะสมกับอายุ 24 ปีของเธอ และเมื่อวัดค่าไขมันบริเวณสะโพก ต้นขา และแขน อยู่ที่ 23% ซึ่งอยู่ในระดับปกติ

 

 

7 วันสำหรับการมดลอง เธอกินแมคโดนัลด์ พิซซ่า เฟรนฟรายด์ โค้ก เคเอฟซี

 

 

 

สี่วันผ่านไป หลังจาการทดลอง เธอตื่นมาพร้อมกับความรู้สึกเหนื่อยหน่าย อารมณ์แปรปรวนและหดหู่ เธอรู้สึกเหนื่อยแม้ว่าจะนอนไปเป็นเวลานานแล้วก็ตาม เธอรู้สึกพักผ่อนไม่เพียงพอ

 

 

วันที่ 6 เธอรู้สึกไม่มีพลังตลอดทั้งวัน

 

วันสุดท้ายของการทดลอง เธอพบว่าเธอไม่มีสมาธิในการทำงานเลย รวมถึงเหนื่อยง่าย ผิวหนังและหนังศีรษะเธอมันมากและต้องสระบ่อยขึ้น สิ่งที่เห็นได้ชัดคือพลังในการดำรงชีวิตของเธอลดไปมาก นี่เพียงแค่ 7 วันของการทดลองเท่านั้น ไม่อยากจะคิดว่าหากกินอาหารพวกนี้มาตลอดชีวิตจะเป็นอย่างไร

เธอเข้าตรวจระดับไขมันอีกครั้ง และพบว่ามันเพิ่มจาก 23% เป็น 25% สูงกว่าค่าปกติที่ 24%

2% ที่เพิ่มขึ้นมาใน 1 สัปดาห์นั้นถือว่าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมาก นอกจากนี้ไขมันบริเวณต้นขาจาก 6.1% ก็พุ่งไปถึง 11.8% หรือเกือบเท่าตัว

อาหารขยะพวกนี้เป็นอุปสรรคต่อการดูดซึมสารอาหารที่มีประโยชน์ของร่างกาย ที่จะมีผลต่อพลังงานและอารมณ์

 

ผลตรวจผิวหนังพบว่ามันชุ่มชื้นขึ้น แต่นั่นเป็นเพราะว่ามันมันขึ้นนั่นเอง ทั้งที่ระดับน้ำที่ผิวหนังลดลง

เธอต้องใช้เวลาถึง 2 เดือนกว่าจะปรับสภาพผิวหนังให้คืนเป็นแบบเดิม

 

 

การทดลองนี้น่าจะทำให้เราเห็นชัดแล้วว่า อาหารขยะพวกนี้เป็นอันตรายต่อสุขภาพขนาดไหน แชร์เรื่องนี้ให้เพื่อนๆคุณด้วยสิ

ที่มา: Dailymail