กฎของการโฟกัส...สุดยอดเคล็ดลับ "สไนเปอร์" ที่คุณไม่ยักรู้ว่าใช้ในชีวิตประจำวันได้
คุณสามารถควบคุมตัวเองได้ดีแค่ไหน? บ่อยแค่ไหนที่คุณปล่อยตัวปล่อยใจให้สิ่งต่างๆ เกิดขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ เคยรู้สึกไหมว่าทำไมการโฟกัสกับบางอย่างนั้นยากเหลือเกิน? หรือหลายครั้งที่อยากทำงานให้สำเร็จแต่กลับรวบรวมสติไม่ได้เลย ถ้าคุณกำลังรู้สึกอย่างนั้นล่ะก็ ถึงเวลาที่คุณจะต้องนำเทคนิคดีๆ จากมือปืนในกองทัพมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันแล้วล่ะ
Jeffry Harrison เคยเป็นทหารในกองทัพสหรัฐฯ หลังปลดประจำการเขาได้กลายมาเป็นผู้จัดหางานให้กับผู้คนในวอชิงตัน ดี. ซี. และนิวยอร์ก และนี่คือเทคนิคจากการฝึกแบบพลซุ่มยิงที่คุณสามารถนำมาปรับใช้ในการทำงานแบบประชาชนคนทั่วไปได้อย่างดีเยี่ยม
พลซุ่มยิง หรือ สไนเปอร์ เป็นหน่วยหนึ่งในกองกำลังทหารและตำรวจ มีความสามารถสูงในเรื่องของการยิงปืนในระยะไกล ทำหน้าที่ยิงเพื่อหวังผลจำกัดการเคลื่อนไหวหรือการปฏิบัติการของข้าศึกจากระยะไกล รวมถึงมีการอำพรางตัว เพื่อไม่ให้ข้าศึกรู้ตัวระหว่างรอยิง
ซึ่งพลซุ่มยิงเป็นงานที่ใช้ความอดทนในการรอคอย รวมทั้งต้องอาศัยสติและสมาธิในการโฟกัสเป้าหมายอยู่ตลอดเวลา เพราะถ้าพลาด นั่นหมายถึงชีวิต
เคล็ดลับจากสไนเปอร์
ก่อนที่จะมาทำงานออฟฟิศแบบคนอื่นทั่วไป ผมเคยเป็นทหารในหน่วยสไนเปอร์ประจำกองทัพ ผมถูกฝึกให้อยู่ในพื้นที่อันตราย ได้ออกไปสอดแนมและลาดตระเวน โดยที่ห้ามให้ใครมองเห็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งศัตรู ซึ่งนั่นเป็นส่วนที่ยากที่สุดในการทำงาน
คนส่วนใหญ่มักคิดถึงหน้าที่ของผมว่าเป็นการซุ่มยิงจากระยะไกลโดยอาศัยความสามารถเรื่องการยิงปืน แต่จริงๆ แล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการซ่อนอย่างเงียบเชียบ ขยับตัวอย่างระมัดระวังในขณะที่แบกอาวุธหนัก 75 ปอนด์ และห้ามหลุดโฟกัสจากเป้าหมายโดยเด็ดขาด แน่นอนว่าสภาพอากาศและสภาวะที่โหดร้ายแบบนี้ย่อมทำให้ง่ายที่จะยอมแพ้และเลิกสนใจสิ่งที่กำลังทำซะ แต่สมาธิคือสิ่งเดียวที่ช่วยรักษาชีวิตของเราไว้
มันเป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะวอกแวกและทิ้งความตั้งใจ แต่สิ่งสำคัญคือการดึงความสนใจกลับมาและควบคุมตนเองให้ได้โดยเร็วที่สุด
กฎของการควบคุม: หยุด มอง ฟัง และดมกลิ่น
พวกเขาบอกว่า “เมื่อความร้อน ความลำบาก และสิ่งต่างๆ ดึงความสนใจของพวกนายออกไปจากควบคุมตนเอง จงพัก! หยุดทุกสิ่งที่กำลังทำ มองไปรอบๆ ฟังเสียง และดมกลิ่นจากสภาพแวดล้อม”
เป้าหมายของการทำแบบนี้คือเพื่อให้มีเวลาพักและรวบรวมสติสมาธิกลับไปยังเป้าหมายที่ต้องทำ มันทำให้เราสามารถหยุดให้ความสำคัญกับสิ่งที่กวนใจ และได้โฟกัสกับอะไรที่สำคัญอย่างแท้จริง
แน่นอนว่ามันได้ผล เทคนิคนี้ทำให้ผมสามารถซ่อนตัวจากศัตรูในการซุ่มยิง และยังช่วยผมสำหรับการทำงานออฟฟิศในปัจจุบันอีกด้วย ผมพบว่ามันทำให้ผมสามารถดึงความสนใจของตัวเองกลับมาสู่งานอันแสนน่าเบื่อที่กำลังทำ และช่วยหยุดความคิดฟุ้งซ่านหรืออาการเหม่อลอย
ถ้าคุณมีงานตรงหน้าที่ต้องทำ แต่กำลังรู้สึกว่าอะไรหลายอย่างดึงความสนใจของคุณไปเสียหมด ไม่ว่าจะเสียงโทรศัพท์ คนคุยกัน หรือเสียงหนวกหูต่างๆ รอบกาย ลองพักสักนิด หยุด มอง ฟัง และดมกลิ่น เมื่อรู้สึกสงบแล้วคุณจะสามารถดึงโฟกัสกลับมาได้อย่างมีสมาธิมากขึ้นแน่นอน
เคล็ดลับ
ใช้นาฬิกาปลุกในการช่วยเตือนความจำเมื่อถึงเวลาสมควรที่จะต้องพัก ตั้งนาฬิกาปลุกทุก 2 ชั่วโมงระหว่าง 8 โมงเช้าถึง 2 ทุ่ม เมื่อนาฬิกาดัง นั่นหมายความว่าคุณต้องพักเพื่อ หยุด มอง ฟัง และดมกลิ่นแล้ว ไม่สำคัญว่าการพักของคุณจะใช้เวลาเพียง 30 วินาทีหรือถึง 5 นาที ใช้เวลาให้มากที่สุดเท่าที่คุณต้องการในการดึงสติและความสนใจของตัวเองกลับมา
เทคนิคนี้ยังช่วยให้คุณสามารถให้ความสนใจกับปัจจุบันได้มากขึ้น มันทำให้สมอง ความคิด และจิตใจของคุณได้พักผ่อน เพื่อให้กลับมาหายใจได้คล่องขึ้นและมีเวลาได้คิดว่าอะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดที่ควรจะทำในขณะนั้น คุณจะสามารถดึงความคิดและการควบคุมคืนมาได้ในสถานการณ์ที่น่าเบื่อหน่ายหรือเคร่งเครียด
ฝึกฝนจนมันกลายเป็นกิจวัตรประจำวัน จากนั้นลองหยุดใช้นาฬิกาปลุกและทำให้ชินจนกลายเป็นนิสัยด้วยตัวคุณเอง ในเวลาที่รู้สึกว่าสิ่งต่างๆ นั้นยากที่จะควบคุม ลองหยุดพักและใช้สมาธิในการสัมผัสสิ่งรอบข้าง แล้วคุณจะสามารถโฟกัสกับเป้าหมายและกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้อย่างแน่นอน
ที่มา: BusinessInsider, themuse