ทานาคา เจาะลึก ความลับ ทานาคา ไม้มหัศจรรย์
สวัสดีครับ , วันนี้ผมจะมาแนะนำ ผงทานาคาบริสุทธิ์ 100% ที่มีต้นกำเนิดในประเทศพม่า สมุนไพรโบราณของภาคเหนือโดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ - เชียงราย - แม่ฮ่องสอน จะนิยมใช้กันมาก และใช้กันมาเนิ่นนานตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษเลยหละครับ
ผงทานาคาบริสุทธิ์ 100% สี เหลืองอ่อนนี้ ผมมีโอกาสรู้จักมันมาตั้งแต่อายุ 12 ขวบครับ ที่บ้านของผมไปซื้อมาจาก อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ในครั้งนั้นผงทานาคาของผม มันมาเป็นถุงพลาสติกมัดหนังกะติ๊กครับ ^^
ผมอยากชวนคุณผู้อ่านมาศึกษาดูรายละเอียดสำคัญ ๆ เกี่ยวกับคุณลักษณะทางวิทยาศาสตร์ของไม้ทานาคาด้วยกันก่อนที่จะแนะนำว่า ผมเอามันมาใช้ยังไงนะครับ
ไม้ทานาคา มีชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า "LIMONIA ACIDISSIMA" มีลักษณะเป็นไม้เนื้อแข็ง เติบโตได้ดีในภูมิอากาศแห้งแล้ง พบได้มากแถบภาคกลางของประเทศพม่า ส่วนของเยื่อไม้ด้านในจะมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ มีฤทธิ์เป็นสมุนไพรสารพัดประโยชน์ต่อผิวพรรณ คือ ช่วยให้ผิวพรรณผุดผ่อง ลดสิว ลดความมัน ในระยะยาวจะช่วยให้ผิวละเอียดเนียนแน่นขึ้น ครับ
คนพม่ารู้จักใช้ทานาคามานานกว่า 200 ปีแล้วครับ เกือบทุกบ้านจะมีไม้ทานาคาวางไว้หน้ากระจก เพื่อจะใช้ท่อนไม้ทานาคาฝนกับแผ่นหิน ผสมด้วยน้ำเล็กน้อย หลังจากนั้นก็จะเอามาพอกทั่วใบหน้าทิ้งไว้สักครู่แล้วล้างออก นี่คือ เคล็ดลับแห่งผิวพรรณที่ตึง เนียน แน่น ละเอียด เหมือนผิวเด็กของคนพม่าครับ
เยื่อเปลือกไม้ทานาคามีสารต่อต้านอนุมูลอิสระอยู่สูงมาก โดยมีมากที่ "เปลือกด้านในของไม้ทานาคา" สารนั้น คือ สารต่อต้านอนุมูลอิสระเทียบเคียงได้กับที่พบในเปลือกสนมาริไทน์ฝรั่งเศส และที่ "เนื้อในของไม้ทานาคา" ก็ยังอุดมไปด้วยสาร Curcuminoid สารชนิดเดียวกันกับที่พบในขมิ้นชันของประเทศไทยอีกด้วยครับ
เช่นนั้น เยื่อไม้ทานาคาจึงมีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะต่อต้านความเสื่อมของเซลล์และยังช่วยป้องกันการเกิดสิว ด้วยคุณสมบัติฆ่าเชื้อแบคทีเรียของสาร Curcuminoid และช่วยลดผดผื่นคัน ลดการเกิดจุดด่างดำและฝ้า มีฤทธิ์ลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน
อันนี้เป็นสารประกอบที่พบจากการฝนทานาคาด้วยแท่นหินนะครับ ซึ่งการฝนแต่ละครั้งจะได้ปริมาณเยื่อไม้ทานาคาที่น้อยมาก และสารประกอบยังเจือจางลงไปอย่างมากเนื่องจากโดนละลายด้วยน้ำ และการฝนซ้ำก็จะทำให้มีเชื้อราติดที่เนื้อท่อนไม้ทานาคาและแท่นหิน ส่วนอณูจากแท่นหินซึ่งถูกขัดสีบ่อยครั้งก็จะหลุดติดออกมาด้วย ทำให้ผู้ใช้ทานาคาจำนวนมากพบกับอาการแพ้จากการฝนด้วยแท่นหิน หรือ ไม่มีเวลาในการฝน ซึ่งการฝนทานาคาแต่ละครั้ง จะต้องใช้แรงและเวลาอย่างมาก หรือ บางคนไม่สะดวกในการจัดหาที่เก็บรักษาท่อนไม้ที่ฝนเสร็จแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเชื้อราที่ท่อนไม้ทานาคาครับ .. หลายคนจึงยอมแพ้กับความยุ่งยากในการใช้ทานาคามาพอกบำรุงผิว
ประโยชน์ของผงทานาคาบริสุทธิ์ 100 %
ผงทานาคาบริสุทธิ์ 100% จึงถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองกับความต้องการของผู้ชื่นชอบสมุนไพรพอกผิวครับ โดย ผงทานาคาบริสุทธิ์ 100% ผลิตจากท่อนไม้อ่อนของต้นทานาคา ให้คุณลักษณะบดเป็นผงค่อนข้างละเอียด โดยไม่มีการผสมสิ่งใด ๆ ลงไปเลย สิ่งที่สำเร็จรูปออกมาแล้วจึงมีแต่ ผงทานาคาบริสุทธิ์ 100%
ผงทานาคาบริสุทธิ์ 100% มี สรรพคุณในการชะลอความชราของผิวได้ดีมาก ด้วยฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระของทานาคา ที่มีประสิทธิภาพสูง และคงตัวได้ดี ไม่สลายไปง่าย ๆ เมื่อโดนออกซิเจน หรือ โดนน้ำที่เป็นตัวทำละลาย ซึ่งได้ผลดีกว่าการใช้ผงทานาคาทั่วไปที่จำหน่ายในราคา 30 - 50 บาท พอกผิวถึง 10 เท่า (ผง ทานาคาทั่วไปอาจมีการผสมดินสอพอง , ผงแป้ง , เนื้อไม้บดชนิดอื่นๆ , ผงขมิ้น , ผงหอม ฯลฯ จึงทำให้มีราคาถูก แต่ของแถมที่ได้มาอาจก่อให้เกิดสิว เพราะผู้ใช้อาจแพ้ผงแป้ง ผงหอม หรือ เนื้อไม้อื่นที่นำมาบดผสมลงไป)
ผงทานาคาบริสุทธิ์ 100% ยังใช้พอกผิวหน้าเพื่อลดความมันอันเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้ผลเป็นอย่างดี ช่วยให้สิวลดลง รอยดำจากสิวลดลง ผิวหน้ามีความมันลดลง เมื่อใช้ในปริมาณที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง
วิธีการพิสูจน์ผงทานาคาแท้
ตอนนี้ผงทานาคาก็กำลังดัง คนก็เอามาใช้กันเยอะครับ แต่ประสบการณ์ที่ผมใช้ ผงทานาคาบริสุทธิ์ 100% มายาวนาน (นานกว่า 25 ปี) ผมจะบอกเคล็ดลับและข้อเท็จจริงจากการใช้ให้ (ซึ่งอาจจะแตกต่างจากที่โฆษณากันร่ำ ๆ ในเว็บไซต์ขายของที่มีกันเกร่ออินเทอร์เน็ต) ดังนี้นะครับ
1. อันดับแรกต้องยอมรับกันก่อนครับว่า ผงทานาคาของแท้อาจพิสูจน์ได้ด้วยตายาก เพราะสิ่งที่บดผสมกันเป็นผง มันรวมกันไปหมด แต่ประสบการณ์ผมสอนว่า ให้เอามะนาวบีบลงบนผงทานาคาที่คิดว่าใช่ของปลอม ถ้ามันเกิด "ฟองฟู่" หนะ ของปลอมครับ เพราะของปลอมจะถูกผสมด้วยดินสอพองครับ
2. สามารถสังเกตด้วยการสัมผัสครับ ถ้าหยิบเอาผงทานาคาใส่นิ้วมือแล้วมันเนียนเหมือนแป้งฝุ่น ก็อย่าซื้อนะครับ ของแท้จะต้องหยาบหน่อย ๆ เพราะกรรมวิธีการบดหยาบจะช่วยคงคุณค่าของสารในเยื่อไม้ทานาคา ได้มากกว่าการนำไปเข้ากระบวนการแปรรูปในโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งจะนำไปผ่านการอบเชื้อด้วยความร้อน ผ่านการผสมกับสารเคมี และตัวทำละลายอีกมากมาย กว่าจะออกมาเป็นผงทานาคา หรือ ครีมผสมทานาคา 1 กระปุก (สารต่างๆ ก็ตายแดดิ้นในนั้นแล้วครับ ไม่ต่างอะไรจากการเอาผงไม้ธรรมดามาขัดหน้านะครับ) ที่สำคัญจะหลงเหลือสารออกฤทธิ์จากเปลือกไม้ทานาคาอยู่ในจำนวนที่น้อยมาก , สู้เอา ผงทานาคาบริสุทธิ์ 100% แบบบดหยาบ มาพอกหน้าไม่ได้เลยครับ – เปรียบแล้วก็เหมือน "มวยคนละชั้นกัน" ครับ
3. ลองดมดูครับ ทานาคาของแท้มันจะมีกลิ่นเย็น ๆ คล้าย ๆ กลิ่นยาสมุนไพรโชยออกมานิดหน่อย นั่นแหละของแท้ แต่ว่าถ้าเย็นมาก ๆ หอมมาก ๆ นั่นผสมแป้งหอมแล้วครับ
ดังนั้นก็ให้ยึดหลัก คือ มีความหยาบเล็กน้อยและมีกลิ่นหอมเย็นสมุนไพรนิดหน่อยครับ แล้วที่นี้ถามว่า ที่ขาย ๆ กันบนเว็บไซต์อื่น ๆ หนะมันยังไงเหรอ ? เห่ ๆ .. ผมคงตอบว่า ก็ต้องลองดูครับ หน้าดีก็ดีไป หน้าพังก็พังไป , อ้าวซะงั้น T_T
แล้วผมใช้ผงทานาคายังไงให้หน้าดูเด็กกว่าอายุจริง ?
โชคดีที่ผมใช้มันมาตั้งแต่เด็กครับ จำได้ว่าตอน ม.1 (อายุราว ๆ 11-12 ขวบ) ก็ได้ผงทานาคามาใช้แล้ว ตอนนั้นเป็นเด็กที่หน้ามันและสิวอักเสบเต็มไปหมด ผมเอาผงทานาคามาผสมน้ำธรรมดาจนเหมือนโคลนเหนียว แล้วเอามาพอกหน้าครับ ตอนนั้นผมขัดไม่ได้เพราะเป็นสิวอักเสบ ผมพอกแค่ประมาณ 5-10 นาที ผมก็ล้างออก ทำติดกันเดือนกว่า ๆ ได้ สิวก็ยุบและหน้าก็ไม่มันมาก
หลังจากที่สิวหายแล้วผมก็ใช้เป็นประจำครับ แค่สัปดาห์ละ 1 ครั้งเท่านั้นครับ คือ ใช้ขัดหน้าประมาณ 5 นาทีและก็ทิ้งไว้จนแห้งแล้วก็ล้างออกครับ ผมไม่รู้หรอกว่ามันจะมีผลยาวนานมาถึงขนาดนี้ อิอิ .. ทุกวันนี้ผมก็อายุมากแล้วครับ 36 ปี (ปี 2555) แต่หลายคนก็บอกว่า ผมดูอายุไม่ถึง 30 เลย .. ก็ดีใจครับ ^^
สรุปการใช้ผงทานาคาให้ได้ผลตามประสบการณ์ของผม มีดังนี้ครับ
1. ตามปกติใช้แค่น้ำสะอาดผสมกับ ผงทานาคาบริสุทธิ์ 100% ก็เพียงพอแล้วครับ ความเรียบง่าย คือ ความใสบริสุทธิ์อย่างแท้จริง
2. ถ้าหน้าเป็นสิวอักเสบใช้ได้อยู่ครับ แต่ห้ามขัดโดยเด็ดขาด ถ้าขัดมันจะเป็นสิวมากขึ้นทันตาเห็น (ที่ สิวมันขึ้นไม่ใช่เพราะผงทานาคา แต่เป็นเพราะน้ำหนักของนิ้วมือ ที่ไปถู ๆ โดนหัวสิวเข้า ทำให้ถุงหนองแตกตัว เชื้อก็ยิ่งลาม ทำให้ลามไปทั่วหน้า .. งานเข้ากันหละทีนี้)
3. ผงทานาคาจึงเหมาะที่จะใช้ขัดหน้ากับคนที่ไม่มีสิวแล้ว (แต่ถ้าเป็นสิวให้พอกอย่างเดียว ไม่ให้ขัด) และใช้ได้กับผิวธรรมดา ผิวมัน ผิวผสม ผิวอย่างหนาตราสามห่วง ยิ่งใช้ได้ครับ ตอนที่ขัดให้เบามือที่สุด ประมาณแค่ลูบโดยให้นึกว่า เป็นการขัดที่พยายามจะไม่ให้นิ้วโดนผิวหน้าเลย ห้ามกดแรงลงบนนิ้วขณะขัด และให้ขัดแค่ 5 นาทีนะครับ อย่าไปบ้าตามสูตรพิสดารว่า ขัด 15 นาที .. ของดี 5 นาทีมันก็ออกฤทธิ์แล้วหละครับ เมื่อ ครบ 5 นาทีแล้วก็ให้ทิ้งไว้อย่างนั้นครับ จนมันแห้ง ผงทานาคาจะเริ่มร่อนออกเป็นก้อน ๆ เป็นแผ่น ๆ (อาจใช้ระยะเวลาพอกทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที)
4. หลังจากแห้งจนร่อนออกมาแล้ว ให้ทำการล้างด้วยน้ำธรรมดา ห้ามใช้น้ำอุ่นโดยเด็ดขาด ล้างแบบเบาที่สุด ถ้าจะให้ดีนะครับ ให้เปิดฝักบัวเบา ๆ แล้วก็ปล่อยให้มันราดลงบนหน้าไปสัก 2-3 นาที แล้วก็ใช้ฝ่ามือลูบให้เบาที่สุด หลักการล้างก็แบบเดียวกับการขัดหน้า ก็คือ เป็นการขัดที่พยายามจะไม่ให้นิ้วโดนผิวหน้าเลย
5. ล้างหน้าเสร็จแล้ว ซับหน้าให้แห้ง ให้เอาน้ำผึ้งผสมน้ำเปล่าธรรมดาในอัตราส่วน 1 ช้อนชาเท่ากัน ทาให้ทั่วผิวหน้า แล้วนวดวนเบาๆ ทั่วใบหน้าสักเล็กน้อย ทิ้งน้ำผึ้งไว้ 10 นาที ก็ล้างออกได้ครับ
6. สำหรับบางครั้ง สามารถเสริมฤทธิ์ให้ผงทานาคาได้ด้วยการผสมน้ำผึ้ง , ใบบัวบกตำละเอียด ในอัตราส่วนเท่ากันและใช้พอกก็ได้ครับ
7. พอผมเริ่มเข้าสู่ช่วงวัยทำงาน ผมจะเพิ่มแตงกว่าปั่น โดยการเอาแตงกวามาปอกเปลือกและนำมาปั่นให้ละเอียด แล้วเอาเฉพาะน้ำเทออกมา เอาสำลีชุบน้ำแตงกวาทาให้ทั่วหน้าหลังการพอก ผงทานาคาบริสุทธิ์ 100%
เท่านี้เองครับ สูตรการใช้ ผงทานาคาบริสุทธิ์ 100% ของผม ที่ไม่มีอะไรซับซ้อนและคงความดูเด็กมาได้ถึงทุกวันนี้
หมายเหตุ : ถ้าหน้าสกปรกจากเหงื่อ ฝุ่นละออง เมคอัพ ก็ให้ทำความสะอาดผิวหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ใช้อยู่ก่อนได้ครับ แต่หลังจากขัดหรือพอก ผงทานาคาบริสุทธิ์ 100% แล้ว ไม่ควรทำความความสะอาดผิวหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าซ้ำอีก ยกเว้น น้ำเปล่า เท่านั้นครับ
ข้อเท็จจริงและความแตกต่างของผงทานาคาในตลาด
1) ผงทานาคาบริสุทธิ์ 100% ผลิตมาจาก "เยื่อไม้ทานาคา" ไม้ก็ย่อมเป็นไม้ครับ ผมขอเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดขึ้น โดยขอเปรียบเทียบระหว่าง แป้งฝุ่นทาหน้า กับ ทิชชู่ นะครับ
ทิชชู่ ทำมาจากเยื่อไม้ เวลาเอามาละลายน้ำ ยังไงมันก็จะเกาะกันเป็นก้อนส่วนหนึ่ง และ อีกส่วนหนึ่งจะหลุดออกมาเป็นขุย ๆ กระจาย ไม่มีการเกาะกันเนียนละเอียด หากเอาทิชชู่ไปชุบน้ำ ขยำ ๆ จนเละ แล้วเอามาทาหน้า มันจะเกาะผิวหน้าเราเป็นก้อน ๆ เกลี่ยให้ตายยังไงก็ไม่เนียนละเอียดคลุมผิวหน้าเราได้ทุกตารางผิว
ส่วน แป้งฝุ่นทาหน้า มีกรรมวิธีการบดละเอียดและผสมสารที่ทำให้ซับความชื้นและเกาะยึดผิวได้ดี รวมถึงสี แค่เอาแป้งมาทาหน้า ผิวหน้าก็จะดูเนียนขึ้น มีสีตามที่ผสมลงไป
แต่ ผงทานาคาบริสุทธิ์ 100% ซึ่งผลิตด้วยวิธีที่สั้นและเรียบง่ายตามแบบโบราณ ไม่มีการผ่านขบวนการอย่างมาก จึงทำให้ ผงทานาคาบริสุทธิ์ 100% คงไว้ซึ่งสารสำคัญในการออกฤิทธิ์ตามธรรมชาติ โดยไม่มีการผสมสารอื่น ๆ เช่น ผงแป้ง , ผงหอม , ดินสอพอง , แป้งร่ำ , สี ฯลฯ ลงไป
ผงทานาคาบริสุทธิ์ 100% เมื่อละลายน้ำแล้วจึงมีลักษณะเป็นกลุ่มก้อนหยาบ ๆ เหมือนทิชชู่ละลายน้ำ ไม่เนียนละเอียดเหมือนแป้ง นี่คือข้อพิสูจน์ว่า ผงทานาคาบริสุทธิ์ 100% ผลิตจากเยื่อไม้ทานาคาครับ และไม่มีทางเนียนละเอียดเหมือนแป้งได้ นี่จึงเป็นข้อแตกต่างของ ผงทานาคาบริสุทธิ์ 100% กับ แป้งทานาคาทั่วไปครับ
ดังนั้น เมื่อผู้บริโภคนำ ผงทานาคาบริสุทธิ์ 100% มาละลายน้ำ แล้วนำมาขัดและพอกบนใบหน้า จะพบว่า ผงทานาคาบริสุทธิ์ 100% ไม่เกาะผิวหน้าเนียนเรียบเหมือน 'ครีมพอกหน้า' ที่ผู้บริโภคคุ้นเคยนะครับ ^^
2) ผู้ขายตามร้านออนไลน์หลายแหล่งโฆษณากันว่า "เอามาทาหน้ากันแดด ทาแทนแป้งฝุ่น" อย่าทำนะครับ เพราะสภาพอากาศมันไม่เหมือนเมื่อ 100 - 200 ปีที่แล้ว และมันคงตลกถ้าคุณจะทาหน้าเหลืองวอกไปนอกบ้านเหมืองหนังไก่ลวก และ ไม่ต้องเชื่อนะครับว่า มันกันแสงแดดได้ เพราะตอนนี้มันกันไม่ได้เสียแล้ว อย่างที่ผมบอก กาลเวลาเปลี่ยน หลายอย่างเปลี่ยน คุณต้องพึ่งพาครีมกันแดด นะครับ อย่าไปคิดว่า ใช้ทานาคาแล้วหน้าจะทนต่อรังสียูวีในยุคปัจจุบัน
3) ส่วนการรักษารอยแผลเป็น ความหมองคล้ำ พวกนี้มันเป็นผลที่ต้องใช้เวลานานมากกกกกกกกกกกกกกกกก ถ้าจะใช้ทานาคาเพื่อหวังผลพวกนี้ในระยะสั้น เลิกคิดไปได้เลยครับ , มันไม่ได้ออกผลปุ๊ปปั๊ปหน้าใสเด้ง มหัศจรรย์ภายใน 7 วันครับ สมุนไพรนั้นปลอดภัย แต่มันก็ใช้เวลาในการทำปฏิกิริยากับโครงสร้างชั้นผิวนานพอสมควรครับ ดังนั้น "วินัย" จึงมาพร้อมกับความสวย คำนี้ใช้ได้เสมอครับ เพราะผงทานาคาก็เหมือนกัน ขอให้ใช้อย่างต่อเนื่อง แล้วผิวหน้าคุณจะดูอ่อนลง เด็กลง ทุกปี ทุกปี (เอาหน่วยว่ากันเป็นปี อย่างนี้พอใจไหมครับ)
ตัวผมเองได้ลองค้นหาข้อมูลว่า เว็บไซต์อื่น ๆ จะพูดถึงผงทานาคาว่าอย่างไรบ้าง ? ก็ได้เห็นคำโฆษณาหลายแหล่งอวดอ้างสรรพคุณที่เกินเลยไปจากข้อเท็จจริงมากครับ จนเกิดภาพมโนกันในหมู่ผู้บริโภคให้คิดกันไปเองว่า ผงทานาคาวิเศษเลิศหรูอลังการ แต่เมื่อผู้บริโภคเสียเงินซื้อไปแล้ว ก็อ้าว..ทำไมไม่เห็นผลครั้งแรกตั้งแต่ที่ใช้ โถ .. ก็มันจะเป็นไปได้อย่างไรหละครับ , สมุนไพรมันใช้เวลาการออกฤิทธิ์นาน , อ้าวกลายเป็นผู้บริโภคเสียรู้คนขายซะงั้น (ก็เพราะเขากะขายอย่างเดียวไงครับ) ^^ ดังนั้น ผมให้ข้อคิดว่าเครื่องสำอางค์ประเภทใดก็แล้วแต่ ถ้าใช้มันไม่ถูกที่ ไม่ถูกเหตุ ไม่ถูกสภาพปัจจัยหนะ ใช้แทบตาย จ่ายเท่าไหร่ ก็ไม่ได้ผลครับ
บทส่งท้ายผงทานาคาบริสุทธิ์ 100 % ใช้ได้ทุกวัย
ผงทานาคาบริสุทธิ์ 100% เหมาะ กับคนทุกวัยจริง ๆ แต่ต้องระวังในกรณีที่มีสิว คือ ไม่ให้ใช้ขัด เพราะแรงขัดจะไปกระตุ้นให้สิวเกิดมากขึ้น แต่ให้ใช้พอกทับลงบนหัวสิวได้ ทิ้งไว้ 5 นาที และล้างออกด้วยการใช้น้ำราดโดยไม่เอามือไปถูหน้าครับ (อ่านตามโฆษณาบอกว่า ผงทานาคารักษาสิว คนอ่านก็จะเข้าใจว่า ให้เอาไปขัด ๆๆๆ แล้วสิวจะหาย อันนี้งานเข้าเพราะความเข้าใจผิดของคนขายเลยหละครับ)
เมื่อใช้ ผงทานาคาบริสุทธิ์ 100% ได้สัก 2-3 เดือน หน้าจะหายมันมากขึ้น (หมายถึง ความมันที่เกิดจากการขับน้ำมันออกมาของผิวนะครับ) โดยในสภาพอุณหภูมิอากาศปกติ หลังจากล้่างหน้าแล้ว และนั่งอยู่เฉย ๆ ภายใน 30 นาทีหน้าจะไม่มันเยิ้มขึ้นมาเองจนผิดสังเกตครับ
นอกจากนั้น จะสังเกตได้ว่า ผิวหน้าจะละเอียดขึ้น เพื่อนผมกี่คน ๆ เอา ผงทานาคาบริสุทธิ์ 100% ไปใช้แล้ว ผลที่เห็นได้ชัด ก็คือ ผิวละเอียดขึ้น เหมือนผิวคนพม่า (ผมเคยมีพี่เลี้ยงเป็นคนพม่าจริง ๆ ผมเห็นภาพเลยว่า คนผิวละเอียดหนะมันเป็นยังไง ไม่ใช่ผิวคนจีนนะครับ) และในบางคนหน้าจะขาวขึ้นมาอีกหน่อยครับ
ส่งท้ายกันตรงนี้ว่าผงทานาคาบริสุทธิ์ 100% ไม่ ใช่สมุนไพรมหัศจรรย์ที่ออกฤทธิ์ได้ในระยะเวลาอันสั้น 7 วัน 14 วัน อย่างที่เข้าใจกันผิดนะครับ ผงทานาคาจะออกผลให้คุณได้เชยชมสักนิดหน่อยได้ มันใช้เวลา 2-3 เดือนโน่นแหละครับ
ดังนั้น "วินัย" ในการใช้อย่างสม่ำเสมอต่างหากครับ วินัยจะช่วยทำให้สารจากผงทานาคาบริสุทธิ์ 100% แสดงมหัศจรรย์ให้เกิดขึ้นกับผิวของคุณได้ครับ
นี่หละครับ ทานาคา เยื่อเปลือกไม้ขัดหน้า พอกหน้า ที่คนที่นี่ใช้กันจนติด ผมคนหนึ่งละครับ ใครสนใจสั่งซื้อไปใช้ได้ครับ ผงทานาคาบริสุทธิ์ 100% ราคาไม่แพง 1 กระปุกใช้ได้นานถึง 1 เดือน อายุการเก็บ 10-12 เดือน ขึ้นอยู่กับที่เก็บนะครับ
(ห้ามเก็บในตู้เย็น / ในห้องน้ำ / ในห้องครัว / ในพื้นที่ซึ่งโดนแอร์โดยตรง แนะนำให้วางไว้ในที่ร่มเย็น ปราศจากแสงแดดครับ)