นานาผ้าล้านนา
นานาผ้าล้านนา
พูดถึงดินแดนล้านนา ก็อาจจะนึกถึงดินแดนที่เต็มไปด้วยความงดงามของสถาปัตยกรรมอันวิจิตรอ่อนช้อย แต่สิ่งหนึ่งที่ยังเป็นเอกลักษณ์และทรงคุณค่าคู่กับสตรีชาวล้านนาก็คือ การแต่งกาย กายแต่งกายโดยทั่วไปของสตรีชาวล้านนานั้น นิยมนุ่งซิ่น เกล้าผมมวย เหน็บดอกไม้หอมนานาชนิด บ้างก็ประดับแต่งด้วยเครื่องประดับโลหะหลากชนิด เช่น เงิน ทอง หรือ นาก เป็นต้น แต่เดิมผู้หญิงมักนิยมเปลือยอก หรือคาดอกห่มสไบ ต่อมาเมื่อมีมิชชันนารีเข้ามาเผยแผ่ศาสนาในยุคล่าอาณานิคม ก็ทำให้เกิดแฟชั่นนิยมการสวมเสื้อแขนกระบอกสีขาวกันมากขึ้นในหมู่คนชั้นสูงไปจนถึงชาวบ้านทั่วไป แต่ก็มีบางชาติพันธุ์ที่มีการสวมเสื้อเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เช่น ชาวไตลื้อ ที่นิยมสวมเสื้อป้าย หรือเสื้อปั๊ดตามแบบของตน เป็นต้น
สำหรับซิ่นในล้านนานั้นก็มีมากมายหลากหลายชนิด วันนี้ผมจะพาทุกท่านไปรู้จักกับเสน่ห์ของผ้าล้านนาที่เกิดจากการทอแบบวิจิตรบรรจงปราณีตและมีความสอดคล้องกับศรัทธา และความเชื่อของผู้คนลงบนผืนผ้ากันครับ เริ่มจากนางพญาผ้าซิ่นล้านนาที่ถือเป็นผ้าซิ่นผืนเอกทั้ง 5 ผืน ที่มีความสวยงาม ทรงคุณค่า และหายากในปัจจุบันกันครับ
นางพญาผ้าซิ่น
1.ซิ่นวิเศษเมืองน่าน หรือ ซิ่นหล่ายน่าน แพรพันธุ์มหัศจรรย์แห่งลุ่มน้ำน่าน
เมืองน่านหรือเมืองนันทบุรีซึ่งแปลว่าเมืองแห่งความสุขรื่นรมณ์ เมืองน่านนั้นเป็นแหล่งกำเนิดของผ้าซิ่นที่สวยงามหลากหลายชนิด ความงามของผ้าซิ่นเมืองน่านนั้นเป็นการเอาสุดยอดเทคนิคของชนชาติต่างๆอย่าง ยวน ลื้อ ลาว มาหลอมรวมจนเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซิ่นวิเศษ หรือเรียกอีกอย่างว่า ซิ่นหล่ายน่าน
โดยปกติความงามของซิ่นเมืองเหนือจะอยู่ที่ลายจกในส่วนตีนแต่ซิ่นชนิดนี้มีความงามอยู่ทั่วผืนผ้า ทั้งตัวซิ่น ตีนซิ่น และสีของซิ่น เป็นซิ่นเย็บ ๓ ตะเข็บ (ปกติซิ่นที่ใช้ในปัจจุบันจะมี ๑ หรือ ๒ ตะเข็บ) และใช้เทคนิคหลากหลาย ทั้งจก การเกาะล้วง ขิด และแซมด้วยมัดหมี่ อันเป็นที่มาของชื่อซิ่นวิเศษเมืองน่าน
ความหายากของซิ่นชนิดนี้ที่มีการผสานเทคนิคอย่างที่กล่าวนั้นมีประมาณ ๒๐ ผืน ซึ่งกระจายอยู่ตามพิพิธภัณฑ์และนักสะสม ว่ากันว่าซิ่นชนิดนี้ไม่ปรากฏร่องรอยการใช้ แต่ที่เก่าก็เพราะการเก็บรักษา เป็นซิ่นที่ตกทอดไว้ขึ้นหิ้งบูชา ใน1ปีเมื่อมีพิธีกรรมจึงนำออกมาใช้ นี่จึงเป็นอีกสาเหตุที่พบน้อยผืน เพราะไม่ค่อยใช้จึงไม่มีการทอเพิ่ม
2.ซิ่นไหมคำราชสำนักเชียงตุง เสน่ห์ตรึงใจซิ่นไหมไทเขิน
ซิ่นไหมคำเมืองเชียงตุงหรือเรียกอีกอย่างว่า ซิ่นบัวคำ เป็นซิ่นชนิดเดียวในผ้าซิ่นทั้ง 5 ที่ไม่ได้มีแหล่งกำเนิดในเมืองไทย เป็นซิ่นของราชสำนักไทเขิน นอกจากจะมีความสวยงามและความโดดเด่นแล้วยังมีมูลค่าหลายแสนบาทด้วยเพราะซิ่นชนิดนี้หาได้ยากมาก เชื่อกันว่าซิ่นชนิดนี้มีอาถรรพ์โดยเป็นซิ่นชนิดเดียวที่เลือกผู้เป็นเจ้าของ เนื่องด้วยเมืองเชียงตุงเป็นเมืองการค้าระหว่างล้านนา จีน พม่า จึงรับเอาวัฒนธรรมของชาติต่างๆ มาผสมผสานผ่านผืนผ้าได้อย่างลงตัว
ตัวซิ่นจะทอยกมุกด้วยไหมคำโดยนำเอาทองคำหรือเงินหรือกาไหล่ทองมารีดเป็นเส้นแบนยาวแล้วเอามาตีเกลียวกับเส้นใยส่วนมากเป็นฝ้ายแล้วนำมาทอ ต่อกับส่วนล่างของซิ่นคือผ้าไหมจีนหรือกำมะหยี่สีเขียว ด้านบนของตีนซิ่นจะปักลายบัวคำด้วยเส้นไหมหรือโลหะมีค่า ส่วนล่างสุดของซิ่นจะติดด้วยแถบไหมของจีน
3.ซิ่นตีนจกไหมเงินไหมคำราชสำนักเชียงใหม่ มนตราผ้าเชียงใหม่
ซิ่นตีนจกแบบเชียงใหม่นั้นเรียกได้ว่า เป็นซิ่นที่เป็นมาตรฐานของซิ่นล้านนา ลวดลายที่แน่นอนมีแบบแผนชัดเจน ซิ่นชนิดนี้มักมีผู้สั่งทอมากเช่นเจ้านายลำพูน ลำปาง และพวกคหบดีมีเงิน
ลักษณะของซิ่นตีนจกแบบเชียงใหม่นั้น มีลวดลายเหมือนซิ่นจกที่อื่นๆ คือจกอยู่บนเชิงและปล่อยที่ว่างด้านล่างซิ่นที่เป็นสีแดงเรียกว่า เล็บซิ่น ลวดลายมีหลากหลายแต่ที่นิยมมากคือคือลาบโคมภายในมีรูปนกกินน้ำร่วมต้น ขนาบด้วยห้องนกสามเหลี่ยมซ้อน ๒ ชั้นด้านบน ด้านล่างซ้อนชั้นเดียว หางสะเปามีสีเดียวคือดำล้วน และสลับสี โดยปกติที่ตีนจะทอด้วยฝ้ายแต่ถ้าเป็นของเจ้านายหรือผู้ดีมีเงินจะทอด้วยดิ้นเงินดิ้นทอง ต่อกับตัวซิ่นลายขวาง ในพระตำหนักของเจ้าดารารัศมี มีการต่อตัวซิ่นด้วยผ้าลุนตยาอชิคของพม่า
ตีนซิ่นที่ทอจกด้วยไหมคำนั้นไม่จำกัดเฉพาะในราชสำนักเชียงใหม่อย่างเดียว พวกผู้ดีมีเงินก็สามารถที่จะใส่ได้เช่นกัน ในปัจจุบันจะหาแบบเต็มผืนยากส่วนมากจะเหลือแต่ตีนซิ่นที่เป็นโลหะมีค่า
4.ซิ่นน้ำถ้วม (น้ำท่วม) ผืนผ้าที่ถูกเลือนใต้เขื่อนภูมิพล
ซิ่นน้ำถ้วม (เขียนตามอักขระล้านนา) หรือซิ่นน้ำท่วม (ตามภาษาไทยกลาง) เป็นชื่อของผ้าซิ่นไทยวนชนิดหนึ่ง มีถิ่นกำเนิดในบริเวณพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมในคราวสร้างเขื่อนภูมิพล จ.ตาก จึงเป็นที่มาของชื่อ ในอดีตเป็นชุมชนโบราณที่ความเจริญมากแต่ประวัติศาสตร์ของเมืองต้องมลายหายไปเมื่อมีการสร้างเขื่อน ทำให้ผู้คนหนีย้ายไปยังที่ต่างๆ ว่ากันว่ามีคนหนีตายจำนวนมากเพราะดื้อดึงที่จะอยู่ที่เดิม บางคนหนีทันก็นำเอาข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นติดตัวมาเท่านั้น หอบเอาผ้าซิ่นไม่กี่ผืนติดตัวมา กระจัดกระจายกันไป เมื่อมาอยู่ที่ใหม่วิถีชีวิตก็เปลี่ยนไปและยิ่งนานวันก็ไม่มีผู้สืบทอด
ซิ่นชนิดนี้มีลวดลายและองค์ประกอบคล้ายคลึงกับซิ่นที่ใช้กันในราชสำนักเชียงใหม่ แต่ไม่ใช้ดิ้นเงินดิ้นทองแบบราชสำนัก จึงมีความงามแบบพอดีๆ ซิ่นชนิดนี้มีความหลากหลายในตัวลายมาก แต่ลักษณะเด่นคือหางสะเปาเป็นสีดำล้วนและขนาดไม่ยาว
5.ซิ่นน้ำปาด-ฟากท่า อุตรดิตถ์
เดิมทีนั้นชาวน้ำปาดมีถิ่นฐานอยู่แถบประเทศลาว ต่อมาจึงมีการอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในบริเวณอ.น้ำปาด และขยายเมืองไปยังอ.ฟากท่า ซิ่นน้ำปาด ฟากท่านั้นได้กลิ่นอายจากผ้าลาว ลื้อ และยวน อย่างครบถ้วน มีความประณีตในการออกแบบลายและเลือกสีสัน ลักษณะจะคล้ายซิ่นลาวครั่ง ตัวซิ่นจะมัดหมี่เป็นลายแบบลาว บางผืนจะใช้เทคนิคเกาะล้วงแบบลื้อ เชิงซิ่นใช้วิธีจกแบบไทยวน(ล้านนา) ลวดลายการมัดหมี่นั้นมีไม่ซ้ำแบบ บางผืนนำเอาผ้าต่างชาติอย่างจีนและอินเดียมาทำตัวซิ่น
ซิ่นชนิดนี้เป็นซิ่นพิเศษคือไม่ได้ทอใช้ในชีวิตประจำวัน แต่ทอเป็นซิ่นมูนมัง มรดกประจำตระกูล ด้วยเหตุนี้ซิ่นน้ำปาด ฟากท่าจึงหายากแสนยาก
และยังมีผ้าซิ่นเอกลักษณ์ล้านนาที่เกิดจากการสั่งสมภูมิปัญญาความศรัทธาและความเชื่อของบรรพบุรษ
อีกหลายชนิด ซึ่งล้วนแต่เป็นมรดกล้ำค่าที่ชาวล้านนาได้สร้างสรรค์ไว้ทั้งสิ้น เช่น
ซิ่นตีนจกลับแล
ซิ่นตีนจกแม่แจ่ม
ซิ่นไหมยกดอกลำพูน
ซิ่นต๋าลื้อ
ซิ่นไหมสันกำแพง
ซิ่นคำเคิบเมืองน่าน
ขอขอบคุณภาพส่วนใหญ่จาก Facebook: Sbunnga Collection , Suthipan Hera , Montri Punyafu
ค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวน
ไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญ
สถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่น
เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจ
นักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33
จีน ไฟเขียว ให้ไทย ถล่มรังแก๊งสแกมเมอร์
ภาพวาดแผ่นเดียว ครูต้องรีบแจ้งแม่ให้พาไปหาหมอ ด่วน!!!
IO เขมรปั่นหนัก! ใช้ AI สร้างพาสปอร์ตปลอม อ้าง “บัวขาว” เป็นคนกัมพูชา ไม่ใช่คนไทย
























