ถึงเวลาหรือยัง ? 5 เหตุผล ทำไม หงส์แดง ถึงควรปลด ร็อดเจอร์ส !!

30 พฤษภาคม 2558 (10:31)โพสท์โดย รักที่บอกหลอกมากี่คน

ในฤดูกาลที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นกับ ลิเวอร์พูล ? นี่คงเป็นคำถามที่หลายคนต้องการหาคำตอบด้วยเหตุผลกันอย่างจริงจังที่สุด หลังจากสิ้นสุดช่วงเวลาอันน่าผิดหวังมาตลอด 10 เดือน

ถึงแม้ว่าจะมีช่วงเวลาที่ดูดีอยู่ราว 3 เดือน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าอย่างจะโอเค เพราะหลังจากนั้นเมฆดำก็แผ่ปกคลุมทั่วแอนฟิลด์อีกครั้ง พร้อมอำลาซีซั่นด้วยสกอร์พ่ายแพ้ครั้งมโหฬารให้สโต๊คไป 6-1

เมื่อดูองค์ประกอบแล้ว คงปฏิเสธไม่ได้ว่าทั้งหมดนั้น เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้เป็นกุนซือสมควรถูกตำหนิ ส่วนจะรุนแรงถึงขึ้นไล่ออกหรือไม่ เจ้าของทีมจะเป็นผู้ตัดสินใจ

และนึ่คือ 5 เหตุผล ที่บ่งชี้ว่าหมดเวลาของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ในถิ่นแอนฟิลด์เสียที

5. ไม่ดีพอจะคว้าถ้วยแชมป์ใด ๆ เลย

มือเปล่า มาตลอด 3 ปี นับตั้งแต่ ร็อดเจอร์ส เข้ามาคุมทีม คงไม่ใช่ภาพที่แฟนหงส์ทุกคนคิดเอาไว้แต่แรกแน่ ๆ แต่ก็เกิดขึ้นไปเรียบร้อยแล้ว

และเหตุการณ์ที่ดูราวกับทีมกำลังจะถอยหลังลงคลองแบบนี้ บอกเลยว่าแทบไม่เคยเกิดขึ้นมาในประวัติศาสตร์ของทีม ถ้าจะมีก็คงเป็นอดีตที่นานมาก ซึ่งมันกลับมาเกิดขึ้นอีกครั้งกับกุนซือตาหวาน

ลิเวอร์พูล เป็นสโมสรที่อยู่ในระดับหัวแถวของโลกฟุตบอลมาโดยตลอด และการที่พวกเขาไม่มีถ้วยแชมป์ใด ๆ ติดมือมานานขนาดนี้ ถือเป็นวิกฤติอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้ และมันก็บ่งชี้อย่างชัดเจนว่า เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ยังไม่ดีพอที่จะแบกรับภาระใหญ่ของทีม

4. แบกรับภาระในเกมยุโรปไม่ไหว

ฤดูกาล 2013-14 หงส์แดง บินสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาในช่วงหลายปีหลัง โดยสามารถจบอันดับที่สอง และได้สิทธิ์ไปเล่น ยูฟา แชมเปียนส์ลีก ซึ่งกองเชียร์ดีใจอย่างมากที่ได้กลับมาโลดแล่นบนรายการนี้อีกครั้ง

แต่แล้ว ร็อดเจอร์ส ก็ทำทีมได้น่าผิดหวังเมื่อกระเด็นตกรอบแรกไปแบบหมดท่า แถมเมื่อหล่นไปลุยต่อในยูโรปา ลีก ก็โดนสอยร่วงกลับแอนฟิลด์มาในสภาพบอบช้ำสุดขีดทั้งที่ไม่น่าเป็นไปได้

ที่สำคัญ ร็อดเจอร์ส ไม่สามารถบริหารจัดการทีมและผู้เล่นเพื่อรองรับศึกในอย่างพรีเมียร์ลีก และศึกนอกอย่างรายการระดับทวีปในเวลาเดียวกันได้ ซึ่งต้องบอกเลยว่า “กึ๋น” เขายังไม่ถึงที่จะแบกรับภาระหน้าที่ตรงนี้แน่นอน

3. ล้มเหลวในตลาดซื้อขาย

นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งของความผิดหวังทั้งปวงที่เกิดขึ้นในฤดูกาลนี้ เมื่อทีมจำต้องขายผู้เล่นที่ดีทีสุดอย่าง หลุยส์ซัวเรซ ออกไปโดยแลกกับเงินก้อนโต แต่กลับไม่สามารถหานักเตะที่มีคุณภาพมากพอเข้ามาสู่ทีมได้

ที่สำคัญ ร็อดเจอร์ส ถลุงเม็ดเงินไปมากกว่า 100 ล้านปอนด์ เพื่อสอยเอา บาโลเตลลี, ลอฟเรน, ลัลลานา, ชาน, มาร์โควิช และอื่น ๆ เข้ามา แต่ทั้งหมดนี้กลับทำให้การลงทุนสูญเปล่าไปอย่างสิ้นเชิง

ทั้ง ๆ ที่บีร็อดเองเคยพูดเอาไว้ว่า ผู้จัดการทีมที่ใช้เงินไปมากกว่า 100 ล้านปอนด์ แต่ทำไม่ได้สักแชมป์นั้นสมควรลาออกไปเสีย ฉะนั้นก็น่าจะถึงเวลาที่เขาต้องรับผิดชอบต่อคำพูดของตัวเองเสียที

2. มีปัญหาทุกจุด แต่แก้ไม่ได้ซักจุด

หลายคนคงจะเห็นชัดเจนแล้วว่าเครื่องจักรสีแดงในปีที่ผ่านมานั้นเหมือนกับอะไรสักอย่างที่ใกล้จะพังเต็มที มีความผิดพลาดใหญ่ ๆ ให้เห็นทุกจุดตั้งแต่ผู้รักษาประตูยันกองหน้า ซึ่งบีร็อดไม่เคยแก้ไขได้แม้แต่ครั้งเดียว

จริงอยู่ที่ช่วงหลัง มินโญเลต์ กลับมาเข้าฝักอีกครั้งแต่มันก็เหมือนกับโชคดีมากกว่า เพราะ โจนส์ ได้รับบาดเจ็บ ทำให้โค้ชจำใจส่งมินนี่ที่มีแพลนโดนดร็อปยาวลงมาแทน และเขาก็ดันทำได้ดีแบบที่ไม่มีใครอยากเชื่อ

แผงหลังที่ถูกติดตั้งด้วยระบบ เซ็นเตอร์ 3 ตัวนั้น ดูเหมือนจะดีในช่วงแรก แต่พอ ซาโก้ เจ็บ ชาน เริ่มหลุด สเคอร์เทลโดนแบน ทุกอย่างก็รวนไปหมด ดูแล้วเหมือน บีร็อด ตั้งใจปล่อยไปตามชะตากรรมเสียมากกว่า เล่นดีก็ถือว่าดีไป แต่พอเล่นแย่ก็เลยไม่รู้จะแก้ไขตรงไหนดี

ส่วนกองกลางกับกองหน้านั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะนับตั้งแต่เกมแรกยันเกมสุดท้าย เราไม่เคยได้เห็นแผนที่ลงตัวสักครั้ง ทุก ๆ เกมเหมือนเป็นสนามเด็กเล่นให้โค้ชลองใช้คนโน้นคนนี้ในตำแหน่งโน้นตำแหน่งนี้จนจบฤดูกาล นี่หรือสิ่งที่ผู้จัดการระดับท็อปเขาทำกัน?

1. มีตัวเลือกที่ดีกว่ารออยู่แล้ว

ไม่ต้องบอกคงรู้ว่าหมายถึงใคร เพราะเมื่อไม่กี่วันก่อน เจอร์เกน คล็อปป์ เพิ่งบอกเองว่าเขาพร้อมที่จะรับข้อเสนอคุมทีมใหม่ทันทีที่มีคนติดต่อเข้ามา

หากไม่ใช่คล็อปป์ ก็ยังมี ราฟาเอล เบนิเตซ ที่ประกาศลานาโปลีไปอีกคน ซึ่งเขารักหงส์แดงอยู่เต็มอกไปแล้ว รวมถึงตัวละครลับอย่าง คาร์โล อันเชล็อตติ ที่เพิ่งแยกทางกับทีมชุดขาว กระทั่ง แฟรงค์ เดอบัวร์ เองก็ออกปากตลอดว่าอยากมาคุมลิเวอร์พูลจริง ๆ

รายของพี่แจ้นั้นอาจจะดูเป็นได้ยากกว่าคนอื่น ราฟาเองก็มีแววจะไปแทน อันเช่ ที่มาดริด หรือคล็อปป์ ก็อาจจะโดนฉกไปอยู่ทีมไหนก็ได้ทั้งนั้น แต่ถามบอร์ดบริหารดัง ๆ หน่อยเถอะ ในเมื่อมีตัวเลือกที่ดีกว่าแบบนี้อยู่ตั้งมากมาย แล้วจะมัวรออะไรอยู่ !