นี่คือวิธีที่ชายคนนี้ เลิกยา เลิกเหล้า เลิกอาหารขยะ และลด 56 กิโลกรัม!

นี่คือ Stephen Odom วัย 28 ปี เป็นช่างถ่ายภาพ และคนทำดนตรี อาศัยอยู่ที่ Houston สหรัฐอเมริกา และนี่คือเรื่องราวของเขาในการเปลี่ยนแปลงตัวเอง เลิกยา เลิกเหล้า เลิกอาหารขยะ และทำให้เขาลดน้ำหนักได้กว่า 56 กิโลกรัม

เขาเริ่มใช้ยามาตั้งแต่สมัยเรียนม.ปลาย จากแค่เสพเพื่อทำให้ใจสงบ และสนุกกับเพื่อนๆ เขาก็ติดมันอย่างหนักจนทำอะไรไม่ได้แล้ว

จนช่วงอายุ 20 กว่าๆ ที่เขาเรียกมันว่าจุดต่ำสุดของชีวิตของเขา และเขาคิดว่าเขาต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองได้แล้ว ซึ่งในเวลานั้นเขาบอกว่า เขาติดยาอย่างหนัก ติดเหล้าอย่างหนัก แต่ในที่สุดเขาตัดสินใจไป rehab เพื่อเลิกยาอย่างจริงจัง และเขาทำสำเร็จ อย่าขาดจากยาเสพย์ติดได้เมื่อปี 2009 เดือนกันยายน

แม้ว่าเขาจะเลิกยาอย่างสมบูรณ์แล้ว และค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ ตามเวลา การงานเริ่มเข้ารูป เข้าร่างขึ้น แต่เขากลับพบว่าบางอย่างมันขาดหายไป เขายังไม่มีความสุข และนั่นคือน้ำหนักของเขา เขาอยากลดน้ำหนัก เพราะเขาเป็นคนอ้วนแต่เด็ก และตอนนั้น เขาหนักกว่า 300 ปอนด์ หรือ 136 กิโลกรัม แต่เขาไม่รู้เรื่องลดน้ำหนัก หรือการกินอะไรที่มีประโยชน์มากนัก เขาไม่ปรึกษาใคร ไม่มีเทรนเนอร์ ไม่ปรึกษานักโภชนาการ ที่เขาทำคือเข้ายิมอย่างเดียว

และการเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้นทีละเล็ก ทีละน้อย และเมื่อเขาทำมันสำเร็จ เขาบอกว่าเขาชอบตัวตนของเขาในปัจจุบันมากๆ เขาภูมิใจมากๆ โดยเขาบอกเครื่องออกกำลังกายที่เขาชอบคือเครื่อง elliptical เขาเล่นมัน 5 วันต่อสัปดาห์ ครั้งละครึ่งชั่วโมง หรือ 45 นาที พอเขาน้ำหนักเริ่มลด สิ่งที่เขาทำต่อมาคือลดอาหารขยะ ไม่กินน้ำอัดลม ไม่กินขนมหวาน และฟาสต์ฟูด เริ่มทำอาหารทานเอง เขาเริ่มขี่จักรยาน ทำคาร์ดิโอมากขึ้น และภายในเวลา 4 ปี เขาก็หนักเพียง 175 ปอนด์ หรือ 79 กิโลกรัม และเขาบอกว่า หากเขาทำได้ ทุกคนก็ทำได้

และนี่คือ 6 ข้อเคล็ดลับของเขา ที่เขาบอกว่ามันทำให้เขามีวันนี้ได้ ที่เขาสามารถลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงชีวิตเขาเองได้

1.ให้รางวัลตัวเองด้วยมื้ออาหารที่เอ็นจอย

เมื่อคุณลดน้ำหนักมากๆ กินอะไรดีต่อสุขภาพมากๆ คุณต้องมีมื้อที่คุณมีความสุขและเอ็นจอยบ้าง นั่นคือรางวัลให้ตัวเอง ที่เรียกว่า cheating meals นั่นเอง

2.โฟกัสที่เป้าหมายระยะสั้นไปเรื่อยๆ

อย่ามองที่เป้าหมายระยะยาว เพราะมันจะน่ากลัวเกินไป และทำให้คุณท้อ เช่น คิดว่าจะลด 100 ปอนด์ และคิดแต่ภาพนี้ มันก็จะกดดันคุณเองเกินไป ที่ดีคือ กระจายเป้าหมายออกเป็นเป้าย่อยๆ และทำให้ได้ไปเรื่อยๆ ดีที่สุด

3.เริ่มจากน้อยๆ ก่อน

เริ่มตัดทีละอย่าง ลดทีละอย่าง อย่าลดทุกอย่างที่คุณเคยทำมาทั้งชีวิตพร้อมกัน เพราะมันอาจเป็นการกดดันเกินไป

4.เรียนรู้ที่จะทำอาหารทานเอง หาสูตรที่ดีต่อสุขภาพและถูกปากคุณ

อย่างตัวผม ผมชอบรสชาติที่จัดจ้าน ออกทางเอเชียหน่อย ผมเริ่มจากทำไก่เทริยากิ ทานกับผัก ผมทำกับข้าว สองสามครั้งต่ออาทิตย์ มันทำให้เราใจเย็น ฝึกสมาธิไปด้วยนะ ดีมากๆ เลยล่ะ เหมือนได้ใช้เวลากับตัวเอง

5.ทำกิจกรรมที่เสริมสร้างความมั่นใจให้ตัวเอง เมื่อรู้สึกแย่

เวลาผมรู้สึกแย่กับรูปร่างหน้าตาตัวเอง ผมจะสั่งตัวเองให้ทำสิ่งที่พอผมทำแล้วจะภูมิใจ เช่น ทำความสะอาดห้อง ออกไปซื้อของที่ดีต่อสุขภาพมาทำอาหาร ซักผ้า ขี่จักรยาน โทรหาเพื่อน เป็นต้น แม้งานพวกนี้อาจจะดูเล็กๆ แต่มันทำให้คุณรู้สึกดีต่อตัวเองได้จริงๆ นะ

6.ให้รางวัลตัวเองเมื่อบรรลุเป้าหมาย

เมื่อคุณบรรลุเป้าหมายที่คุณตั้งเป้าไว้ ออกไปหาซื้อของเป็นรางวัลแก่ตัวเองเสีย ของที่คุณอยากได้มานาน นั่นแหละ จะสร้างขวัญกำลังใจให้คุณสู้ต่อได้ดีขึ้น