หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ภาพจากสลัมทั่วโลก ดูแล้วคุณรู้สึกอย่างไร

โพสท์โดย MuayMuaythai

ภาพจากสลัมทั่วโลก ดูแล้วรู้สึก

ญี่ปุ่่น
           สลัมกะมะงะซากิ (Kamagasaki) ในเมืองโอซาก้า มีความเป็นมายาวนานตั้งแต่ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งญี่ปุ่นเริ่มพลิกตัวฟื้นฟูประเทศครั้งใหญ่ แรงงานจำนวนมากหลั่งไหลเข้ามาหางานทำในเขตเมืองใหญ่ เช่น ย่านกะมะงะซากิ ในเมืองโอซาก้า โดยเฉพาะเมื่อมีการจัด EXPO '70 ในเมืองโอซาก้า ทำให้เกิดการจ้างงานในย่านนี้จำนวนมาก ผู้คนเข้ามาหางานทำ มาแล้วก็ไม่กลับ อยู่ยาวๆ กันไป
           ซึ่งตอนนั้นก็ไม่มีปัญหาเรื่องการจ้างงานเท่าไหร่ เพราะช่วงทศวรรษ 1970 เป็นช่วงที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นบูมเต็มที่ เมื่อเศรษฐกิจเฟื่องฟูก็ทำให้เกิดความต้องการแรงงานเป็นจำนวนมาก ผู้คนก็ยิ่งแห่แหนเข้ามาหางานทำกัน จนย่านกะมะงะซากิถูกขนานนามเป็น "labor towns" กลายเป็นตลาดแรงงานที่สำคัญขึ้นมา ซึ่งในยุคนั้นเรียกว่าแรงงานทุกคนมั่นใจได้เลยว่ามีงานทำทุกวันแน่นอน
           ปัญหาคือพอถึงปี 1991 ญี่ปุ่นเกิดฟองสบู่แตก เศรษฐกิจจากบูมเป็นบึ้ม เละเป็นโกโก้ครั้นช์ ตลาดแรงงานย่านกะมะงะซากิก็รับไปเต็มๆ จาก "labor towns" กลายเป็น "welfare towns" ผู้คนตกงาน ไร้บ้าน กลายเป็นสลัมมาจนทุกวันนี้
ที่สำคัญ 
          ประดาผู้อาศัยอยู่ในสลัมแห่งนี้ถึงแม้จะมีความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก หาเช้ากินค่ำไปวันๆ แต่พวกเขาต่างก็ภาคภูมิในตนเอง เพราะพวกเขาถือตนว่ามีส่วนร่วมในการสร้างชาติหลังสงครามโลก ความเจริญเกิดขึ้นบนบ่าที่พวกเขาทำงานหนักแบกรับไว้ โดยได้ค่าตอบแทนแสนถูก 
แต่มันช่างน่าเจ็บใจ 
            เมื่อสลัมกะมะงะซากิแห่งนี้ได้ถูกลบออกจากแผนที่ทางการ ทางการเมืองโอซาก้าไม่อนุญาตให้ชื่อ Kamagasaki ปรากฏในแผนที่ของเมือง และยังไม่สนับสนุนให้ใช้คำนี้ในสื่ออีกด้วย จนสลัมแห่งนี้กลายเป็นแดนลับแล (nation's dark secret) ของญี่ปุ่นไป (ทางการโอซาก้าโปรโมทชื่ออื่นขึ้นมาแทนคือ Airin-chiku เพื่อสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้แก่ย่านนี้ แต่คนทั่วไปยังเรียกชื่อเดิมอยู่) 
            ล่าสุดภาพยนต์ที่มีเนื้อหากล่าวถึงสลัมกะมะงะซากิเรื่อง Fragile กำกับโดยชินโง โอตะ (Shingo Ota) ได้ถูกบีบให้ถอนตัวออกจากการจัดฉายในเทศกาลภาพยนต์แห่งเมืองโอซาก้า (Osaka Asian Film Festival) ด้วยเหตุผลว่ามันเป็นประเด็นอ่อนไหวเกินไป อาจส่งผลกระทบต่อผู้คนที่ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น
            เพราะเนื้อหาของภาพยนต์กล่าวถึงวิถีชีวิตของแรงงาน และคนไร้บ้านในกะมะงะซากิ  โอตะ ผู้กำกับของหนังที่ถูกถอนออกไป ให้สัมภาษณ์ว่าสิ่งที่เจ้าหน้าที่ทำ คือความพยายามปกปิดความจริง ราวกับย่านกะมะงะซากิไม่มีตัวตน
 
ฮ่องกง
            อีกมุมหนึ่งของสลัมฮ่องกงที่คุณอาจไม่เคยเห็น ก็คือบ้านที่ใหญ่กว่าห้องน้ำของบางคนเพียงนิดเดียวแต่รวมทุกห้องเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นห้องอาหาร เตียงนอน มุมครัวและทุกๆ สิ่งในห้องเดียว 
 
 
            เกาะฮ่องกงมีขนาดเพียง 1,104 ตารางกิโลเมตร (426 ตารางไมล์) แต่มีประชากรเจ็ดล้านกว่าคน จึงทำให้ฮ่องกงเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นมากที่สุดในโลก ส่งผลให้ค่าเช่าบ้านที่นี่สูงถึง 90 เหรียญฮ่องกงหรือราว 360 บาทต่อตารางฟุตต่อเดือน
เนื่องจากการรอบ้านสงเคราะห์จากรัฐบาลกินเวลานาน จึงทำให้ประชาชนจำนวนไม่น้อยต้องอาศัยอยู่ในห้องที่เล็กอย่างที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีใครอยู่ได้
 
 
สลัมบนหลุมศพ วิมานหรูในฟิลิปปินส์
            พื้นที่ สุสาน ดังกล่าวนั้นกินเนื้อที่กว่า 54 เอเคอร์ ที่มากพอที่จะทำให้กลุ่มคนที่ไม่มีทางเลือกกว่า 6000 คนมองข้ามความน่ากลัวไปหมดสิ้น ปูนและหินอ่อนที่ใช้เป็นหลุมศพถูกแปลงเป็นพื้นรองรับกระท่อมซอมซ่อ หรือไม่ก็เป็นเตียงเลยโดยตรง ส่วนระบบสาธารณูปโภคอย่างไฟฟ้าก็จะต่อจากถนนละแวกนั้น และน้่ำนั้นมาจากบ่อน้ำในสุสาน
 
 
 
           แต่นั่นก็ใช่ว่าจะดูสิ้นหวังอย่างที่เราคนนอกมอง หมู่บ้านสุสานนี้เชื่อมต่อกับถนนและซอยจำนวนมาก มีลานบาสเกตบอล ร้านสะดวกซื้อ ร้านคาราโอเกะ ร้านอาหาร และอินเตอร์เนตคาเฟ่ ส่วนอาชีพของชาวบ้านก็หากินจากสุสานโดยการรับจ้างขนศพ เก็บขยะขาย รับจ้างทำความสะอาดหลุมศพ หรือแม้แต่เป็นยามเฝ้าสุสานเพื่อป้องกันพวกมิจฉาชีพที่คอยมาขุดศพขโมยของมีค่า
 
 
 
 
 
 
 
"สลัม" สูงที่สุดในโลกในเวเนซุเอลา
ที่มา http://www.bloggang.com/
 
 
           ถ้าพูดถึง "สลัม " หรือชุมชนแออัด เรามักจะนึกถึงบ้านหลังเล็กๆ มุงหลังคาสังกะสี ด้านล่างเป็นน้ำครำอย่างที่มักเห็นในละคร แต่ที่กรุงการากัส ของเวเนซุเอลา เค้ามีสลัมบนตึกระฟ้าความสูง 45 ชั้น เรียกว่าเป็นสลัมที่สูงที่สุดในโลก 
           สลัมที่ว่านี้คืออาคารที่มีชื่อว่า "ทาวเวอร์ ออฟ เดวิด" (Tower of David) มีความสูง 45 ชั้น โดยแต่เดิมสร้างขึ้นเพื่อหวังเป็นหน้าเป็นตาในย่านธุรกิจของกรุงการากัส แต่กลับก่อสร้างไม่เสร็จและถูกปล่อยทิ้งร้างตั้งแต่ปี 2537 จนเมื่อปี 2550 จึงเริ่มมีบรรดาคนไร้บ้านเข้าไปจับจองเป็นที่อยู่อาศัย
 
 
 
 
              อาคารสูงแห่งนี้ก็เลยกลายเป็นบ้านของคนไร้บ้านกว่า 3,000 คน ที่ได้อยู่อาศัยหลับนอนกันอย่างสุขสบาย กลายเป็นสลัมที่สูงที่สุดในโลก พวกเขาใช้ความพยายามต่อน้ำไฟกันเองตามอัตภาพ แถมยังช่วยลงขันครอบครัวละ 32 ดอลลาร์ต่อเดือน สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายให้กับคนที่มาคอยดูแลความปลอดภัยในอาคาร
 
เคนย่า
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
โรมาเนีย
 
 
 
 
อินเดีย
 
 
 
 
 
ซ้ำขออภัยค่ะ 
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
MuayMuaythai's profile


โพสท์โดย: MuayMuaythai
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
100 VOTES (4/5 จาก 25 คน)
VOTED: narintanom, Dexter Suttipong, B NuttiCha, โก๊ะทอง, สาวสี่เสี่ยน, SiamLover, rawi, vho, MuayMuaythai, Ployza, Noina stupid, Tripop, krungky, nkart, ใบไม้ในกำมือ, จืด ณ โพสท์จัง, ข้าวโพดคั่ว, เค้า เเมว นะ, Babyjeab
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ขำสุดซอย..ฮาก๊าก..คลายเครียด!
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
อดีตหัวหน้าพรรคคนดัง ย้ายซบ ปชป. ตอบแทนบุญคุณช่วยเป็น สส. สมัยแรกช็อตฮาประชาชี : บ้านญาติบรรยากาศแบบนี้ ต้องหาคนมานอนเป็นเพื่อนหน่อยเน่อ ไม่งั้นหลอนแน่ๆเขมรเคลมอีก? อ้าง ข้าวเหนียวทุเรียน คือขนมดั้งเดิมของเขมรโบราณ!ตอนเรียนกับตอนทำงานเต่างกันแค่ไหน?
ตั้งกระทู้ใหม่