วิธีการป้องกันการเกิดสิวอักเสบ
1. ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของ Olive Oil, Lanolin, Sodium Laury Sulphate หรือการไปรบกวนบริเวณผิวบ่อย ๆ เช่น การขัดหน้าด้วยสครับ หรือการนวดหน้าด้วยครีมที่ส่วนผสมของน้ำมัน
2. เรื่องของอาหาร สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ เพราะอาหารไม่ใช่สาเหตุของ การทำให้เกิดสิว แต่ถ้าสังเกตุว่าเมื่อ รับประทานอาหารบางชนิด ทำให้มีสิวเห่อขึ้น ที่ใบหน้าทุกครั้ง แบบนี้ก็ควรหลีกเลี่ยงอาหารชนิดนั้นเสีย
3. การทาครีมละลายหัวสิวก่อนล้างหน้าจะช่วยให้สิวหลุดออกได้ง่ายจึงทำให้ไม่เป็นสิวอักเสบตามมาภายหลัง
4. ภาวะเครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ ระบบขับถ่ายไม่ดี และประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ จะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้
5. การรับประทานยา Isotretinoin ในการรักษาสิว ถ้าคุณรู้ว่าตัวเองจะตั้งครรภ์ควรหยุดยานี้ อย่างน้อย 3 เดือน
6. การรับประทานแร่ธาตุสังกะสีจะช่วยลดการอุดตันของรูขุมขนซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดสิวและแร่ธาตุยังช่วยให้วิตามินเอ
7. การรับประทานยาคุมกำเนิดไม่ได้ช่วยในการรักษาสิวโดยตรง ยาคุมกำเนิดเหมาะสำหรับคนที่มีภาวะฮอร์โมนเพศชายในร่างกายสูงกว่าปกติ เช่นเป็นสิวง่าย หน้ามัน ขนดก
8. การฉีดยารักษาสิวอักเสบเม็ดใหญ่ ๆ ให้ยุบเร็วขึ้นเป็นการรักษาที่ปลายเหตุควรรักษาที่ต้นเหตุของสิวคือรักษาสิวเม็ดเล็ก ๆ โดยการทายาแล้วกดออกก่อนที่สิวเม็ดเล็กๆ จะบวมเป็นเม็ดใหญ่เพราะถ้าบวมอักเสบเป็นเม็ดใหญ่แล้วก็จะทำให้เกิดรอยดำและรอยแผลเป็นหลุมได้
9. ทำดีท็อกซ์ การเป็นสิวย่อมแสดงว่าร่างกายในช่วงนั้นมีท็อกซินหรือพิษสะสมในร่างกาย การทำดีท็อกซ์จะช่วยขจัดสารพิษในร่างกายได้
แนวทางในการรักษาสิวอักเสบให้ได้ผลดี ก็คือ เมื่อเราทำการรักษาสิวอักเสบให้หายปกติแล้วด้วยวิธีการที่เหมาะสม ควรทำการป้องกันทันที เพื่อป้องกันการกลับมาใหม่ของสิวอักเสบ เพราะสิวอักเสบส่วนใหญ่มีปัจจัยที่ก่อให้เกิดสิวอักเสบทั้งภายในตัวเราและนอกตัวเรา นั่นก็คือภาวะการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน และแบคทีเรียในบรรยากาศรอบตัวเรา ดังนั้นถ้าคุณแก้ไขปัญหาสิวอักเสบตรงจุดได้แล้ว ก็อย่าลืมทำการป้องกันในระยะยาวต่อไปค่ะ