หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

"ด็อกเตอร์เอ็มเบ็ดก้าร์" ผู้เรียกร้องสิทธิและความเท่าเทียมกันให้กับ "คนจัณฑาล"

โพสท์โดย ขนมปังขิง

ผู้เขียน : พระอัครเดช โลภะผล

วัดฉาง ต.บางปรอก อ.เมือง จ.ปทุมธานี

 

ดร.เอ็มเบ็ดก้าร์

 

ประเทศอินเดียได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีศาสนาและลัทธิต่างๆรวมอยู่ด้วยกันมากมายหลากหลายศาสนา หลากหลายลัทธิซึ่งคำสอนต่างๆนั้นก็มีอยู่มากมาย แต่ประเทศอินเดียนั้นมีศาสนาหลักคือ ศาสนาพราหมณ์ หรือศาสนาฮินดูในปัจจุบัน ชาวอินเดียเชื่อว่าพวกเขาเกิดมาจากส่วนหนึ่งของพรหมและหากปฏิบัติโยคะ หรือการทรมานตนต่างๆให้เต็มที่แล้วก็จะสามารถเข้าถึงพรหมันกลับเข้าไปเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับพรหมอีก ศาสนาพราหมณ์นั้นเป็นศาสนาที่มีอายุยืนนานแทบจะมาก่อนศาสนาอื่นๆในโลกหรืออาจจะเกิดก่อนศาสนาใดๆในโลกก็ว่าได้เพราะว่ามีอายุไม่ต่ำกว่า 3,000 ปี และศาสนาพราหมณ์นั้นมีเอกลักษณ์ที่เด่นอีกอย่างหนึ่งคือ ระบบวรรณะ ซึ่งมหาตมะคานธีได้กล่าวเอาไว้ว่า “ระบบวรรณะเป็นเอกลักษณ์ของประเทศอินเดีย” ในวรรณะทั้ง 4 นั้นมี


           • วรรณะกษัตริย์ ทำหน้าที่ปกครองบ้านเมือง 
          • วรรณะพราหมณ์ ทำหน้าที่สั่งสอน ทำพิธีทางศาสนา
          • แพทย์ ทำหน้าที่ทำอาชีพค้าขายต่างๆ
          • ศูทร ทำหน้าที่ทำอาชีพกสิกรรมต่างๆ


          แต่ยังมีอีกวรรณะหนึ่งซึ่งถือว่าไม่เป็นที่ยอมรับของสังคมอินเดียซึ่งอาจถือได้ว่าเป็นกาลกินีของประเทศอินเดียเลยก็ว่าได้วรรณะนั้นก็คือวรรณะจัณฑาล คนในวรรณะนี้ทำหน้าที่ล้างส้วม เก็บขยะงานหนักๆต่างๆ ที่อยู่ก็ไม่มีเป็นของตนเอง อาหารบางครั้งก็ต้องเก็บหากินตามกองขยะ วรรณะจัณฑาลนี้ยังสามารถแบ่งออกได้อีกเป็น 3 จำพวก คือ


          • พวกที่แตะต้องไม่ได้
          • พวกที่มองด้วยไม่ได้
          • พวกที่พูดคุยด้วยไม่ได้


          เพราะเหตุนี้เองวรรณะจัณฑาลจึงเป็นที่รังเกียจของวรรณะทั้งสี่ ซึ่งถือว่าเป็นอวรรณะ มหาตมะคานธีได้กล่าวไว้ว่า “วรรณะจัณฑาลถือเป็นความอัปยศของสังคมฮินดู” และการถือระบบวรรณะในประเทศอินเดียก็ได้มีการสืบทอดกันต่อมา จนกระทั่งมีเพชรเม็ดงามได้บังเกิดขึ้นในหมู่ของชนจัณฑาลนั่นก็คือ ดร.เอ็มเบ็ดการ์ หรือในตอนเด็กๆมีชื่อว่า พิม โดยดร.เอ็มเบ็ดก้าร์นั้นตั้งแต่เล็กโดนระบบวรรณะกดขี่ ข่มเหง รังแก ไม่ว่าจะเป็นในโรงเรียนที่ห้ามนั่งเรียนโต๊ะเดียวกันกับคนวรรณะอื่นๆ การจะดื่มน้ำจากที่สาธารณะก็ต้องอาศัยเพื่อนช่วยกรอกน้ำเข้าปากให้โดยที่ห้ามสัมผัสกับบ่อน้ำโดยเด็ดขาด มีอยู่ครั้งหนึ่งพิมต้องการเดินทางไปเยี่ยมบิดาของเขาจึงได้ขอเช่าเกวียนเพื่อเดินทาง แต่พอเดินทางไปได้สักพักคนขับเกวียนรู้ว่า พิมเป็นคนวรรณะจัณฑาลก็ถูกขับไล่ลงจากเกวียน เพราะกลัวว่าความอัปมงคลจะมาติดที่เกวียน แต่พิมเองก็สงสัยว่าทำไมไม่กลัวความอัปมงคลติดเงินค่าจ้างเดินทางหรืออย่างไร ด้วยความคับแค้นใจที่มีอยู่ทำให้พิม ตั้งใจแน่วแน่ว่า สิ่งเดียวที่จะยกระดับควาบเป็นคนจัณฑาลของเขาได้ก็คือการศึกษาเพราะการศึกษาจะช่วยให้เขาอยู่รอดในสังคมอินเดียได้ เขาจึงได้ตั้งใจศึกษาหาความรู้อย่างเต็มความสามารถ จนวันหนึ่งครูใจพระที่คอยช่วยเหลือพิมอยู่บ่อยๆได้ให้พิมใช้นามสกุลเดียวกันกับเขาแต่เดิมพิมนามสกุลว่า สักปาล ซึ่งใครได้ยินก็รู้ว่าเป็นคนจัณฑาล ได้รับการเปลี่ยนนามสกุลใหม่ว่า เอ็มเบ็ดก้าร์ ซึ่งเป็นนามสกุลของคนในวรรณะพราหมณ์ แต่หลังจากนั้นไม่นานความลับก็ถูกเปิดเผยเมื่อมีคนรู้
ว่าเอ็มเบ็ดก้าร์ที่เปลี่ยนนามสกุลใหม่ที่แท้ก็คือ พิม สักปาล นั่นเอง จึงทำให้พิมต้องทนรับความกดขี่ข่มเหงรังแกต่อไป เมื่อเอ็มเบ็ดก้าร์จบปริญญาตรีแล้วก็ได้ทุนไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ในต่างประเทศนั้นเอ็มเบ็ดก้าร์เห็นว่าไม่มีการถือวรรณะใดๆทั้งสิ้นทุกคนต่างเป็นอิสระเสรี มีสิทธิเท่าเทียมกัน ไม่มีการกดขี่ข่มเหงใดๆเลย ซึ่งคนในวรรณะพราหมณ์ที่มาเรียนต่อที่ต่างประเทศก็พักอยู่ร่วมห้องเดียวกับเอ็มเบ็ดก้าร์โดยที่เขาไม่ได้กลัวความอัปมงคลมาติดตัวเขาแต่อย่างใด เขาก็ปฏิบัติกับเอ็มเบ็ดก้าร์เหมือนคนทั่วๆไป เอ็มเบ็ดก้าร์ตั้งใจเรียนเป็นอย่างมาก เขาใช้วันๆหนึ่งอ่านหนังสือวันละไม่ต่ำกว่า 18 ชั่วโมง จนเอ็มเบ็ดก้าร์เรียนจบปริญญาโท และปริญญาเอก ทางด้านเศรษฐศาสตร์ และทางด้านรัฐศาสตร์ ปริญญารวมแล้วไม่ต่ำว่า 7 ปริญญา ซึ่งถือได้ว่าเป็นคนจัณฑาลคนแรกเลยก็ว่าได้ที่เรียนจบเป็นด็อกเตอร์ เมื่อเรียนจบเขากลับมาประเทศอินเดียเพื่อทำงานชดใช้เงินที่เรียนไปแต่ก็ยังไม่วายถูกระบอบวรรณะข่มเหงอีก แม้เอ็มเบ็ดก้าร์จะเป็นด็อกเตอร์แล้ว แต่ความเป็นจัณฑาลก็ยังคงมีอยู่ในตัวเขาอยู่นั่นเองการทำงานโดยไม่มีเพื่อนร่วมงาน และลูกน้องก็ถือวรรณะทำให้ด็อกเตอร์เอ็มเบ็ดก้าร์รู้สึกท้อแท้เป็นอย่างมาก เขาจึงหนีไปเป็นอาจารย์สอนพิเศษในมหาวิทยาลัย และได้สอนเป็นที่โดดเด่น อาจารย์หนุ่มผู้มีไฟแรงสอนเรื่องที่ยากให้เข้าใจง่าย จึงมีผู้สนใจเข้าฟังในชั่วโมงที่ด็อกเตอร์เอ็มเบ็ดก้าร์บรรยายเป็นจำนวนมาก แต่แล้วเหมือนถูกกลั่นแกล้งเมื่อมีคนรู้ว่าด็อกเตอร์เอ็มเบ็ดก้าร์เป็นคนจัณฑาลจึงทำให้ถูกรังเกียจตั้งแต่ในวันนั้นเป็นต้นมา ด็อกเตอร์เอ็มเบ็ดก้าร์จึงไปเปิดสำนักงานทนายความเพื่อว่าความให้แก่คนในวรรณะจัณฑาล บางครั้งว่าความให้ฟรีๆก็มี และได้จัดพิมพ์หนังสือ มุขนายกเพื่อเป็นปากเป็นเสียงแก่คนในวรรณะจัณฑาล โดยเรียกร้องสิทธิต่างๆที่คนในวรรณะจัณฑาลไม่ได้รับเท่าเทียมกันกับคนในวรรณะอื่นๆ ให้มีสิทธิเท่าเทียมกัน ในตอนนั้นประเทศอินเดียยังอยู่ภายใต้การปกครองของประเทศอังกฤษ ด็อกเตอร์เอ็มเบ็ดก้าร์จึงมีโอกาสเป็นตัวแทนของชนชั้นจัณฑาลร่วมเรียกร้องความเป็นอธิปไตยและเรียกร้องสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค ให้แก่คนวรรณะจัณฑาล เขาเคยกล่าวไว้ครั้งหนึ่งว่า สัตว์เดรัชฉานยังเอาเข้าไปอยู่ร่วมกับมนุษย์ในบ้านได้ ทีเราเป็นมนุษย์แท้ๆทำไมถึงเข้าไปอยู่ร่วมกันไม่ได้ เพราะการที่เคยถูกระบบวรรณะกดขี่ ข่มเหง รังแกมาก่อนจึงทำให้ด็อกเตอร์เอ็มเบ็ดก้าร์เป็นผู้นำที่สำคัญของชนชั้นวรรณะจัณฑาลในการที่จะให้ประเทศอินเดียมีระบบวรรณะเดียวคือ วรรณะฮินดู ด็อกเตอร์เอ็มเบ็ดก้าร์ได้เคยเข้าร่วมประชุมครั้งสำคัญๆหลายครั้ง เช่นการประชุมโต๊ะกลม เพื่อเรียกร้องเอกราชและล้มล้างระบบวรรณะ แต่มหาตมะคานธีกล่าวไว้ว่า เอกราชมาก่อน เรื่องอื่นทีหลัง โดยไม่ได้ให้ความสนใจต่อเรื่องอื่น วิธีการเรียกร้องสิทธิของคนจัณฑาลโดยการนำของด็อกเตอร์เอ็มเบ็ดก้าร์นั้น เขาใช้วิธีการเรียกร้องอย่างสงบเพื่อไม่ให้มีการกระทบกระทั่งกันอย่างรุนแรง หรือที่เรียกว่า สัตยาเคราะห์ นั่นคือ การใช้มวลชนเข้าไปไหว้เทพเจ้าฮินดูในโบสถ์ โดยเรียกร้องให้เปิดโบสถ์เพราะพวกเขาถือว่า พวกเขาก็นับถือศาสนาฮินดูเหมือนกันทำไมจะไหว้เทพเจ้าของพวกเขาไม่ได้ จากเหตุการณ์นี้ทำให้เกิดการกระทบกันถึงขั้นบาดเจ็บกันไปก็มีหลายราย เพราะพวกพราหมณ์ไม่ยอมให้วรรณะจัณฑาลเข้าไปไหว้เทพเจ้า และอีกครั้งหนึ่งที่บ่อน้ำสาธารณะซึ่งคนในวรรณะจัณฑาลห้ามเข้าไปใช้ แต่รัฐบาลสร้างไว้สำหรับคนทั่วไป จึงเกิดการรวมตัวกันขึ้นเพื่อที่จะไปดื่มน้ำและใช้บ่อน้ำสาธารณะนั้น ก็เกิดการปะทะกันอีกแต่วรรณะจัณฑาลก็ได้เรียกร้องสิทธิของพวกเขาได้อีกครั้งหนึ่งจึงได้ดื่มน้ำและใช้น้ำสาธารณะนั้น แต่พอหลังจากกลุ่มคนจัณฑาลจากไปแล้ว พวกพราหมณ์ได้ทำพิธีขับไล่เสนียดความอัปมงคลออกไปจากบ่อน้ำ พวกจัณฑาลได้กล่าวว่า พวกเขาได้ดื่มและใช้น้ำเท่านั้นน้ำยังไม่สกปรกเท่ากับพิธีขับไล่เสนียดของพวกพราหมณ์เลย ในที่สุดโอกาสก็มาอยู่ในมือของด็อกเตอร์เอ็มเบ็ดก้าร์เมื่ออินเดียได้อิสรภาพจากประเทศอังกฤษ ด็อกเตอร์เอ็มเบ็ดก้าร์เป็นผู้ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 7 คน ในการร่างรัฐธรรมนูญฉบับแรกของอินเดีย ซึ่งก็เท่ากับว่าด็อกเตอร์เอ็มเบ็ดก้าร์จะได้กำจัดระบบวรรณะที่ไม่เป็นธรรมของอินเดียได้ เพราะการร่างรัฐธรรมนูญนั้นงานส่วนใหญ่อาจจะถือได้ว่าทั้งหมดด็อกเตอร์เอ็มเบ็ดก้าร์เป็นคนลงมือทำเอง การร่างรัฐธรรมนูญโดยคนที่มาจากวรรณะจัณฑาลก็เสร็จเป็นรัฐธรรมนูญฉบับแรกของประเทศอินเดียโดยใช้เวลาไม่นานนักระบบวรรณะก็ถือได้ว่าสิ้นซากไป แต่เป็นเพียงในรัฐธรรมนูญเท่านั้น

เพราะในความเป็นจริงคนอินเดียส่วนใหญ่ยังคงใช้ระบบวรรณะที่สืบทอดกันมานานหลายพันปีเช่นเดิม ในการดำรงชีวิตประจำวัน

 

 

 

          ไม่ใช่ว่าด็อกเตอร์เอ็มเบ็ดก้าร์ต่อสู้เพื่อความเสมอภาคแต่เพียงเท่านั้น ด็อกเตอร์เอ็มเบ็ดก้าร์ยังได้เผาคัมภีร์มนูซึ่งถือว่าเป็นคัมภีร์อันศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาฮินดู เหตุที่ด็อกเตอร์เอ็มเบ็ดก้าร์เผาคัมภีร์นี้ก็เพราะเชื่อว่า ความอยุติธรรมในเรื่องระบบวรรณะได้เกิดจากคัมภีร์เล่มนี้ก็ว่าได้ ด็อกเตอร์เอ็มเบ็ดก้าร์จึงไม่ให้การยอมรับในคัมภีร์นี้และได้เผาทิ้งไป จากนั้นไม่นานด็อกเตอร์เอ็มเบ็ดก้าร์ได้นำหมู่ชนกว่าห้าแสนคนปฏิญาณตนเป็นพุทธมามกะ ซึ่งการกระทำของด็อกเตอร์เอ็มเบ็ดก้าร์ในครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นประวัติศาสตร์ของประเทศอินเดียเนื่องจากเขาได้ปลุกพุทธศาสนาให้ตื่นขึ้นมาในอินเดียอีกครั้งหนึ่ง 

สาเหตุที่ดร.เอ็มเบ็ดก้าร์หันมานับถือพุทธศาสนานั้นก็เพราะว่า พุทธศานาไม่มีการแบ่งแยกชั้นวรรณะให้ความเสมอภาคเท่าเทียมกันและมีความเป็นเสรีภาพมากกว่าศาสนาฮินดูที่เชื่อถือในระบบวรรณะ จากเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งนี้เองชาวอินเดียที่นับถือพระพุทธศาสนาเมื่อสวดไตรสรณ์คมจึงมักจะสวดคำว่า พิมฺพํ สรณํ คจฺฉามิ ต่อท้ายด้วย เพราะถือว่าด็อกเตอร์เอ็มเบ็ดก้าร์เป็นผู้นำความเสมอภาค เสรีภาพกลับมาสู่วรรณะจัณฑาล

นอกจากนี้แล้วด็อกเตอร์เอ็มเบ็ดก้าร์ยังได้เปิดมหาวิทยาลัย 2 แห่ง เพื่อเป็นที่ให้ความรู้แก่ผู้ที่ต้องการศึกษาหาความรู้โดยไม่มีการแบ่งชนชั้นวรรณะ เรียกร้องสิทธิให้คนจัณฑาลมีสิทธิเข้ารับราชการ
ได้เหมือนกับคนในวรรณะอื่นๆ ยกระดับความเป็นอยู่ของคนจัณฑาลให้ใช้ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น 

 

ซ้ำขออภัยค่ะ

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ขนมปังขิง's profile


โพสท์โดย: ขนมปังขิง
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
96 VOTES (4/5 จาก 24 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ช็อตฮาประชาชี : บ้านญาติบรรยากาศแบบนี้ ต้องหาคนมานอนเป็นเพื่อนหน่อยเน่อ ไม่งั้นหลอนแน่ๆปลัดทรงสืบ แฝงนั่งชิลล์อยู่ริมหาดจอมเทียน เจอเหตุรัวปืน4 ราศีที่ชอบเล่นตลกแกล้งคนเลขเด็ด อ.โกย บ้านไร่ งวด 2 พฤษภาคม 2567พฤติกรรมและวัฒนธรรมแปลกประหลาด แต่เป็นเรื่องปกติของผู้คนในอิตาลี ที่คุณอาจจะสงสัยและไม่รู้มาก่อน!อดีตผู้บริหารหญิง Google ไทย เมาแล้วขับ ลาออกเมื่อต้นปี..ทั้งนี้ยังมาก่อเหตุซ้ำอีก!ป่วน ! 3 จว.ใต้ ใบปลิวเกลื่อนยะลา ขณะที่ชาวบ้านไปละหมาดวันศุกร์แล้งหนัก...ประปาไร้น้ำ เกาะพีพีต้องซื้อน้ำใช้ภาพถ่ายจากกล้องอินฟราเรด เชอร์โนบิลจากเหตุการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เผยเขตหวงห้าม
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
แล้งหนัก...ประปาไร้น้ำ เกาะพีพีต้องซื้อน้ำใช้ช็อตฮาประชาชี : บ้านญาติบรรยากาศแบบนี้ ต้องหาคนมานอนเป็นเพื่อนหน่อยเน่อ ไม่งั้นหลอนแน่ๆอดีตผู้บริหารหญิง Google ไทย เมาแล้วขับ ลาออกเมื่อต้นปี..ทั้งนี้ยังมาก่อเหตุซ้ำอีก!อดีตหัวหน้าพรรคคนดัง ย้ายซบ ปชป. ตอบแทนบุญคุณช่วยเป็น สส. สมัยแรก
ตั้งกระทู้ใหม่