หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

วิตามินไม่ต้องกินทุกวัน

โพสท์โดย Nightingale

วิตามินไม่ต้องกินทุกวัน

วิตามินเป็นสารอาหารที่มีความจำเป็นต่อชีวิต แต่ต้องการปริมาณน้อยเป็นมิลลิกรัมหรือไมโครกรัมต่อวัน ร่างกายจะนำวิตามินแต่ละชนิดไปสร้างสารช่วยเร่งปฏิกิริยาเคมีต่างๆในร่างกาย

ปกติแล้วสิ่งมีชีวิตสามารถสังเคราะห์วิตามินบางชนิดได้อย่างเพียงพอ ขณะที่บางชนิดก็จำเป็นต้องได้รับจากอาหาร คนและสัตว์ต้องการวิตามินอย่างน้อย 13 ชนิดจากอาหารเพื่อการเจริญเติบโตและการทำงานที่ปกติ

เราจำแนกวิตามินออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ วิตามินที่ละลายได้ในน้ำ และวิตามินที่ละลายได้ในไขมัน (มีอยู่ 4 ชนิดเท่านั้นคือ วิตามินเอ ดี อี และ เค)

วิตามินกลุ่มที่ละลายได้ใน "น้ำ" 
วิตามินที่ละลายได้ในน้ำ ได้แก่ วิตามินบีต่างๆ และวิตามินซี

1.วิตามินบี 1 พบมากในธัญพืช ข้าวซ้อมมือ นม และเนื้อสัตว์
ถ้าขาดจะทำให้เป็นโรคเหน็บชา มือเท้าอาจจะบวม อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร วิงเวียน ไม่มีแรง และอาจทำให้เกิดภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน

2.วิตามินบี 2 พบมากในนม เนื้อสัตว์และพืชผักใบเขียว
ถ้าขาดจะเป็นโรคปากนกกระจอก คือมีแผลที่มุมปาก ลิ้นอักเสบ เยื่อบุตาอักเสบ เจริญเติบโตช้า

3.วิตามินบี 3 (ไนอาซิน) พบมากในนม ไข่ เนื้อสัตว์
ถ้าขาดจะทำให้ผิวหนังอักเสบ ท้องเดิน และสมองเสื่อม

4.วิตามินบี 5 (กรดแพนโทเทนิก) ช่วยในการสร้างเซลล์และลดความเครียด พบในอาหารเกือบทุกชนิดทั้งจากพืชและสัตว์ จึงไม่ค่อยพบการขาดวิตามินชนิดนี้

5.วิตามินบี 6 พบมากในเนื้อสัตว์ ถั่วลิสง จมูกข้าวสาลี ผักและผลไม้ ช่วยการทำงานของระบบประสาทและการสร้างเม็ดเลือด
ถ้าขาดจะอ่อนเพลีย โลหิตจาง ชาปลายมือปลายเท้า

6.วิตามินบี 12 ช่วยในการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง พบได้ทั่วไปในผลิตภัณฑ์อาหารจากสัตว์ทุกชนิด (เนื้อสัตว์ นม เนย) ร่างกายมีความต้องการในวันหนึ่งๆ ต่ำมากในระดับไมโครกรัม จึงมีเก็บสะสมไว้ที่ตับเป็นจำนวนมาก เพียงพอที่จะใช้ได้นาน
คนปกติมักไม่ขาดวิตามินนี้ แต่คนที่เป็นโรคบางอย่างจะทำให้ดูดซึมวิตามินนี้ไม่ได้ เมื่อขาดจะทำให้เกิดโลหิตจางที่รุนแรง อาจทำให้สมองและไขสันหลังพิการ

7.ไบโอทิน ช่วยในการเจริญเติบโต แบคทีเรียในลำไส้ของเราสามารถสังเคราะห์วิตามินนี้ได้อย่างเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย จึงไม่ค่อยพบการขาดวิตามินชนิดนี้

8.กรดโฟลิก แบคทีเรียในลำไส้ก็สามารถสังเคราะห์ได้เพียงพอกับความต้องการ

9.วิตามินซี วิตามินยอดนิยม โดยเฉพาะบรรดาวัยรุ่น เพราะมุ่งผลทางด้านผิวพรรณ ซึ่งวิตามินซีมีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และยังช่วยเสริมภูมิต้านทาน ช่วยในการสร้างผิวหนัง กระดูก ฟัน และหลอดเลือด
ถ้าขาดจะเป็นโรคลักปิดลักเปิดหรือเลือดออกตามไรฟัน เหงือกบวม ฟันหลุดง่าย ปวดข้อ ข้อบวม แผลหายช้า ร่างกายติดเชื้อง่าย

 

วิตามินกลุ่มที่ละลายได้ใน "ไขมัน"

1.วิตามินเอ พบมากในนม ตับ ไข่แดง ผักใบเขียวและใบเหลือง รวมทั้งผลไม้ที่มีสีเหลืองหรือส้ม ช่วยในด้านการมองเห็นและการสร้างเนื้อเยื่อผิวหนัง
ถ้าขาดจะเป็นโรคตาบอดกลางคืน เยื่อบุตาและกระจกตาอักเสบ ตาแห้ง ผิวแห้งแข็ง ถ้าได้รับมากเกินไปจะเป็นพิษทำให้ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ ปวดในกระดูก ผิวหนังหลุดลอกและผมร่วง

2.วิตามินดี พบมากในตับ นม ไข่ เนื้อสัตว์ ร่างกายสามารถสังเคราะห์ได้เพียงพอกับความต้องการใช้ถ้าผิวหนังได้รับแสงแดดที่พอเหมาะเป็นประจำ
 ถ้าขาดจะเป็นโรคกระดูกอ่อน ชักและกล้ามเนื้อเกร็ง ถ้าได้รับมากเกินไปจะเป็นพิษ ทำให้วิงเวียน เบื่ออาหาร ปัสสาวะบ่อย ท้องเดิน ระดับแคลเซียมในเลือดสูงซึ่งอาจเกาะกับเนื้อเยื่อต่างๆ เช่น หลอดเลือด หลอดลม ไต

3.วิตามินอี พบมากในน้ำมันพืช เนยเทียม ถั่ว และผักใบเขียว
ถ้าขาดจะเกิดผลเสียต่อระบบกล้ามเนื้อ ระบบประสาท หัวใจและหลอดเลือด เกิดโลหิตจาง กล้ามเนื้อลีบ ถ้าได้รับมากเกินไปจะทำให้ปวดศีรษะ กล้ามเนื้ออ่อนล้า ตาพร่ามัว ท้องเดิน

4.วิตามินเค พบมากใน ผัก ไข่แดง โยเกิร์ต ช่วยในการแข็งตัวของเลือดและบำรุงกระดูกและฟัน ปกติแล้วเชื้อแบคทีเรียในลำไส้สามารถสังเคราะห์ได้อย่างเพียงพอ

เหตุที่ เอมิลี่ ต้องบรรยายยืดยาวในเชิงวิชาการเช่นนี้ เพราะปัจจุบันพบว่าการตลาดของสินค้าสุขภาพและอาหารเสริมในบ้านเรา มักจะโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้กินวิตามินกันมากๆ เพราะมีประโยชน์ ทำให้ร่างกายแข็งแรง และยังมีการแข่งขันกันหลายยี่ห้อว่าของตัวเองมีวิตามินเกลือแร่อยู่หลายชนิด แค่อ่านฉลากข้างขวดก็มากมายจนมึนแล้ว

การให้ข้อมูลเพียงด้านเดียว คือประโยชน์แต่ไม่ได้กล่าวเน้นถึงปริมาณความต้องการที่เหมาะสมกับร่างกายของแต่ละบุคคล รวมทั้งโทษของการได้รับสารเหล่านี้มากจนเกินไป ก็อาจทำให้เกิดโทษตามมาได้ค่ะ

เราจึงเห็นคนปกติทั่วไปหลายๆคน ที่ร่างกายแข็งแรงดีแต่กินวิตามินชนิดเม็ดเป็นกำมือวันละหลายๆมื้อ เหตุเพราะมีวิตามินหลายยี่ห้อให้เลือกกิน ทั้งบำรุงร่างกาย บำรุงผิวพรรณ บำรุงสมอง บำรุงสายตา ฯลฯ เรียกได้ว่าแค่วิตามินมากมายในแต่ละมื้อก็ทำให้อิ่มแทนข้าวได้เลย

นอกจากนี้แล้ว วิตามินที่ได้มาจากการสังเคราะห์ ย่อมปลอดภัยน้อยกว่าวิตามินที่ได้รับจากอาหารตามธรรมชาติ (ที่ถูกสุขอนามัย) โดยคนทั่วไปที่กินอาหารได้ตามปกติครบทั้ง 5 หมู่ จะได้รับวิตามินต่างๆที่เพียงพออยู่แล้วค่ะ แต่ถ้ามีอายุที่มากขึ้น และทานอาหารได้น้อย หรือกินอาหารไม่ครบถ้วนเพียงพอ ก็สามารถเสริมวิตามินเพิ่มได้ค่ะ แต่ต้องเป็นปริมาณที่เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละบุคคลจึงจะไม่เกิดโทษ เช่น คนปกติทั่วไปที่ส่วนใหญ่ได้อาหารครบอาจกินวิตามินแบบรวมสัปดาห์ละครั้ง หรือวันเว้นวันก็ได้ โดยให้เลือกที่จำเป็นและเหมาะสม

ถ้าเปรียบร่างกายเป็นรถยนต์ อาหารที่ต้องกินทุกวันก็เหมือนกับเชื้อเพลิงที่ใช้ขับเคลื่อนรถยนต์โดยตรง ซึ่งต้องหมั่นเติมอยู่ตลอด ส่วนวิตามินเปรียบเหมือนน้ำมันเครื่อง ที่ช่วยหล่อเลี้ยงเครื่องยนต์ให้ทำงานดีขึ้น จึงไม่สิ้นเปลืองมาก นานๆก็เติมที ดังนั้น ในคนปกติจึงไม่จำเป็นต้องกินวิตามินเสริมมากจนเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดโทษได้นั้นเองค่ะ

ที่มา: โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Nightingale's profile


โพสท์โดย: Nightingale
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
16 VOTES (4/5 จาก 4 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เลือดกรุ๊ปไหนมีสมรรถภาพร่างกายดีกว่ากัน?อุบัติเหตุรถบัสพุ่งชนต้นไม้ที่ลำปาง คนขับเสียชีวิต บาดเจ็บ 33 คนขอทานที่ท่าเรือ: สะท้อนภาพความยากแค้นของราษฎรในยุคปลายราชวงศ์ชิงรวมวิธีสร้างรายได้หลากหลายรูปแบบ จากแอพ Tik Tok มาลองดูกันเน่อ ว่าคุณเหมาะสมกับการหารายได้ด้วยวิธีไหนบ้างสัตว์โลกน่าสนใจ : คางคกซูรินาม สัตว์เลื้อยคลานแปลก ที่เลี้ยงลูกอยู่บนหลังตัวเองชาวเน็ตพบหนูตายในขนมปังปอนด์ชื่อดังของญี่ปุ่น
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
"ทักษิณ" หวังเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย ความขัดแย้งในพม่าสิ้นเดือนเหมือนสิ้นใจ 5 วิธี จัดการเงินยังไงให้สิ้นเดือนไม่หมดตัวสาวเครียด! เมื่อมารู้ทีหลังว่าแฟนที่คบด้วยกันติด HIVห้างสรรพสินค้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ในเขตจังหวัดภาคอีสานของไทยประเทศที่มีจำนวนนักท่องเที่ยว เข้ามาท่องเที่ยวในไทยมากที่สุด
ตั้งกระทู้ใหม่