เมื่อฝนตกหนักจะขับรถฝ่าฝนอย่างไรให้ปลอดภัย
ช่วงนี้ฝนตกบ่อยๆ สำหรับผู้ขับขี่หลายคนคงรู้สึกหงุดหงิดไม่น้อย และยังต้องเพิ่มความระมัดระวังมากกว่าเดิมอีกเป็นเท่าตัว
แต่จะให้จอดรถรอฝนหยุดตก คงรอนานแน่ๆ จะทำยังไงถ้าฝนยังตกไม่มีแววจะหยุด
วันนี้มีเทคนิคง่ายๆ ช่วยให้คุณขับรถฝ่าฝนกลับบ้านได้อย่างปลอดภัยมาฝาก
1. อย่าขับชิดคันหน้าเกินไป
ขณะฝนตกจะมองอะไรได้ไม่ชัดเจน บวกกับถนนเปียกลื่น ไม่ควรใช้ความเร็วสูง และที่สำคัญไม่ขับชิดคันหน้าจนเกินไป ควรทิ้งระยะห่างจากการขับในสภาพปกติ 10-15 เมตร เพื่อความปลอดภัย หากขับชิดเกินไปและมีการเบรกกระทันหัน รถยนต์ที่ตามหลังจะไม่สามารถใช้เบรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งละอองน้ำที่ดีดจากรถยนต์คันหน้ายังทำให้การมองของผู้ขับรถยนต์ที่ตามมาด้านหลังไม่ชัดเจน
2. ชะลอความเร็วเพื่อความปลอดภัย
ในกรณีที่ฝนตกหนัก ไม่ควรใช้ความเร็วสูงด้วยเช่นกัน จากการทดสอบในช่วงฝนเริ่มตกจนถึง 10 นาทีแรกค่าความต้านทานต่อการลื่นไถลของผิวถนนจะลดต่ำลงมาก เพราะน้ำฝนจะไปชะล้าง คราบดินหรือฝุ่นละอองที่อยู่บนถนนคล้ายกับมีการละเลงโคลนทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
3. เปิดไฟเพิ่มความปลอดภัย
แม้ช่วงฝนตกจะเป็นเวลากลางวัน แต่บ่อยครั้งสภาพอากาศในช่วงเวลาที่ฝนตกมักมืดครึ้มคล้ายช่วงหัวค่ำ ทำให้ประสิทธิภาพในการมองของผู้ขับลดลง การเปิดไฟคู่หน้าจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อความปลอดภัยทั้งต่อตนเอง และเพื่อนร่วมทาง เพราะจากทัศนวิสัยที่ไม่ชัดเจนผ่านการมองกระจกทั้งมองข้าง และมองหลัง ซึ่งมักมีเม็ดฝนเกาะ อาจจะทำให้ผู้ขับขี่ที่อยู่ด้านหน้าไม่สามารถสังเกต เห็นรถยนต์ที่ตามมาด้านหลังได้ การเปิดไฟส่องสว่างแบบต่ำจึงช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้ในระดับหนึ่ง
4. ใช้น้ำฉีดกระจกเพื่อมองทาง
ช่วงที่ฝนตกปรอยๆ หรือหลังฝนหยุดใหม่ๆ น้ำที่กระเด็นจากการดีดของล้อรถคันหน้ามีลักษณะเหนียวคล้ายโคลน เมื่อกระเด็นมาเกาะที่กระจกบังลมหน้าของรถยนต์คันหลัง ทำให้ไม่สามารถมองเห็นทัศนวิสัยได้ชัดเจน แม้ใช้ก้านปัดน้ำฝนก็ไม่สามารถกวาดได้อย่างหมดจด ต้องใช้น้ำฉีดกระจก ช่วยชะล้างคราบโคลน ผู้ขับควร ตรวจสอบระดับของน้ำในกระป๋องอยู่เสมอ แต่ข้อควรระมัดระวังคือไม่ควรฉีดน้ำในขณะขับด้วยความเร็วสูง
5. หลีกเลี่ยงการเปิดไฟฉุกเฉินเมื่อฝนตกหนัก
บ่อยครั้งที่ฝนตกหนักจนมองทางข้างหน้าไม่ชัดเจน ผู้ขับจึงไฟฉุกเฉินด้วยความหวังดี เพราะต้องการให้รถยนต์ที่ตามมาข้างหลังมองเห็นได้ชัดเจน แต่ในความจริงแล้วเป็นการรบกวนสายตา ยิ่งไปกว่านั้นหากผู้ขับคันหน้าต้องการเปลี่ยนช่องทาง จะทำให้ผู้ขับที่ตามมาข้างหลังไม่ทราบเพราะมีไฟกะพริบทั้ง 4 มุม แค่เปิดไฟต่ำก็เพียงพอแล้ว
การเดินทางในขณะฝนตกก่อนออกเดินทางทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยควรตรวจเช็คสภาพรถ และประกันรถยนต์ด้วย
หากประกันรถหมดอายุ ควรรีบต่อประกันโดยด่วน หากเกิดเหตุฉุกเฉินสามารถต่อประกันออนไลน์กับไดเร็คเอเชีย สามารถคุ้มครองได้ทันที
อะไรก็เกิดขึ้นได้ ทางที่ดีไม่ควรประมาทกับเรื่องเล็กๆ น้อย เท่านี้ทุกการเดินทางก็อุ่นใจได้เลย