ทำไม? เพจคุณถึงเรียก Like กับ Share ไม่ได้
ใครๆ ก็ต้องการยอด Like กับ Share เยอะๆ บน facebook ของตัวเองจริงไหมครับ เพื่อจะเป็นการแสดงให้เห็นว่าเพจของตนเองนั้นมีผู้คนสนใจ และติดตาม ตามไปยังเว็บไซต์ของตนเองเพื่อที่จะได้ขายของ แต่พอตัวเลขไม่ดี หรือไม่สูงขึ้น ก็ไม่เป็นที่น่าพอใจเมื่อเทียบกับคู่แข่งก็จะกลายเป็นปัญหาและความหนักใจกับคนดูแลเพจพอสมควร แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากกว่านั้นก็คือการมองไปที่ตัวเลข Like กับ Share โดยไม่ได้คำนึงถึงปัจจัยที่เกี่ยวข้องซึ่งมีผลทำให้เพจนั้นไม่สามารถมีตัวเลขที่ดีขึ้นมาได้ ซึ่งปัจจัยสำคัญๆ เกิดจากอะไร มาดูกันครับ
กด Like คือเขาชอบแต่อาจไม่ Share ต่อ
คงต้องมาเข้าใจกันเสียก่อนว่า Like กับ Share มีความแตกต่างกัน Like คือคอนเทนต์ที่ถูกใจ หรือชื่นชอบ ซึ่งการกด Like ก็เป็นประหนึ่งกับการแสดงความเห็นด้วย หรือสนับสนุนคนโพสต์ และหรือจะแสดงความเห็น ถ้าเป็นรูปภาพก็ประมาณว่าฉันชอ่บรูปนี้ รูปนี้สวยถูกใจ แต่ Share นั้นคือเนื้อหาที่ผู้เยี่ยมชมคิดว่าควรค่าที่จะบอกต่อนั่นเอง เพราะฉะนั้น ถ้าต้องการเนื้อหาที่ต้องการให้คนมีการ Share ก็ต้องคิดด้วยมุมมองของการ Share ไม่ใช่การคิดแบบเนื้อหาที่อยากให้คน Like
คน Like เพจ ไม่ได้แปลว่าเขาจะต้องตาม Like เนื้อหาคุณ
ปัญหาที่มักเจอเวลาคุยกับลูกค้าหลายรายคือการตั้งคำถามว่าทำไมเนื้อหาที่เป็นสินค้าคุณไม่ถูก Like เลย หรือน้อยมาก เราก็ลองคิดซิว่าชีวิตประจำวันของเราจริงๆ แล้ว มีสินค้าอะไรที่เราอยากกดไลค์เวลาเห็นรูปโฆษณา ใช่ว่าการนำเสนอเนื้อหาที่เป็นรูปสินค้าจะไม่สามารถเรียก Like ได้นะ แต่ Marketer ต้องเข้าใจว่ากลุ่มผู้บริโภคนั้นมีหลายระดับ ตั้งแต่ระดับ คนที่ชอบสินค้าตัวนี้ คนที่สนใจ และ เฉยๆ คนเหล่านี้ก็ล้วนมีระดับความชอบที่แตกต่างกัน ถ้าเราเทียบสินค้าของ Apple นั้น การโพสต์รูปสินค้าแต่ละชิ้นก็จะได้ Like เพียบเพราะ Apple นั้นมีคนที่ชื่อชอบเยอะมาก แล้วหันกลับมาดูสินค้าของคุณว่ามีคนนิยมชมชอบมากแค่ไหน แล้วเพราะเหตุใดเขาจะต้องกด Like รูปสินค้าของคุณกัน เขาแค่เปิดโอกาสให้ึคุณเข้าไปในหน้า Feed ของเขาเท่านั้นเอง
เพจของคุณไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของเขา
การที่คนจะกด Like เนื้อหาของคุณก็แสดงว่าเขามีความชื่นชอบกับเนื้อหานั้น เห็นด้วย หรืออยากส่วนร่วมกับเนื้อหานั้น ฉะนั้นแล้วถ้าคุณเสนอเนื้อหาที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย มันก็ย่อมมีโอกาสสูงที่คุณจะได้ Like จากคนที่เห็นเนื้อหา ยกตัวอย่างง่ายๆ เพจเกี่ยวกับสินค้าผู้หญิง ทำกิจกรรมในการสร้างแฟนด้วยการประกวดสาวสวยจนมีแฟนมากมายหลายหมื่นคน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ดูดีทีเดียว แต่ปัญหาคือกลุ่มคนที่เข้ามาร่วมโหวตซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย นั่นทำให้แฟนเพจของคุณล้วนแล้วแต่เป็นผู้ชาย คำถามคือหลังเสร็จกิจกรรมไปแล้วเนื้อหาประเภทสินค้าผู้หญิงของคุณจะสามารถทำให้ผู้ชายกด Like ได้หรือ
พูดในสิ่งที่เขาอยากฟัง
การพูดในสิ่งที่คนอื่นอยากฟัง เป็นเรื่องพื้นฐานของการสื่อสาร แต่ทำไม Marketer หรือคนทำการตลาดหลายคนไม่ค่อยเข้าใจกัน คือเนื้อหาบนโลก Social นั้นไม่เหมือนกับการสื่อสารสมัยก่อนที่ผู้บริโภคถูกยัดเยียด หรือโฆษณาคั่นรายการ การคิดว่าเราจะแทรกโฆษณาสินค้าของคุณไปใน Feed ของเขาแล้วจะเอา Like เอา Share มันดูไม่ดีเท่าไร อย่าเน้นการพูดถึงสินค้าหรือเรื่องของตัวเอง เพราะนั่นไม่ใช่เรื่องที่เขาอยากรับฟัง โดยเฉพาะกับบนหน้า Feed ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเขา ไม่ใช่ว่าคุณได้เจอกลุ่มเป้าหมายแล้ว และจะทำการสื่อสารกับพวกเขาเพียงอย่างเดียว แต่ต้องคิดให้ดีด้วยว่าจะสื่อสารกับพวกเขาอย่างไร
กระตุ้นให้ผู้เยี่ยมชมกด Like
เคยเห็นไหมครับเนื้อหาประเภทมีคำพูดที่ว่า “Like เลย” “Like กันหน่อย” “ใคร Like ของให้ถูกหวย” และคิดกันไปว่าถ้ามีจะทำให้เนื้อหาของเขาได้ Like กัน แต่ถ้าเนื้อหาของคุณไม่ได้เรื่องตั้งแต่ต้นแล้ว ต่อให้ใส่คำว่า Like คำว่า Share มันก็แทบไม่มีประโยชน์อะไรเลย ยกตัวอย่างง่ายๆ ระหว่างเนื้อหานี้ “Share บอกต่อกันด่วน วันนี้สยามพารากอนลดราคา 70% ทั้งห้าง วันเดียวจบ!” กับ “ช่วย Share กันหน่อย โฆษณาตัวใหม่ของสยามพารากอนมาแล้ว” ในเนื้อหาอันแรก ถ้าเป็นคนธรรมทั่วๆ ไปก็คงจะมีโอกาส Share กันสูงเพราะมันเป็นเนื้อหาที่มีประโยชน์ มีมูลค่า ทำให้เขาอยากแบ่งปันกับคนอื่น แต่กับเนื้อหาอันที่สอง คนทั่วไปก็คงจะไม่ได้รู้สึกแคร์อะไรกับโฆษณาของสยามพารากอน คงจะมีแต่หน้าม้า หรือพวกบรรดาแฟนพันธุ์แท้ที่จะ Share