หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

บทสรุป กะเทยไทยนั่งรถจากหมอชิตไปหลังคาโลกคนเดียว

เนื้อหาโดย coconutza

กระเทยไทยหัวใจแบ๊ว เดินทางไกลด้วยรถจากหมอชิตไปถึงแดนหลังคาโลก

ทั้งชีวิตเคยเห็นหิมะแค่ในดรีมเวิลด์ จะไปญี่ปุ่นช่วงฤดูหนาวค่าเครื่องก็แพง

เกาหลีก็ไม่ชอบ เนปาลก็ดูจะโหดไป ยุโรปยิ่งไม่มีปัญญา ตัดสินในนั่งรถไปแชงกรีล่า

ด้วยงบ 18,000 นิดๆกับระยะเวลา 2 สัปดาห์ 4 เมืองแห่งยูนนาน

ตอนแรก จิ้มๆ https://board.postjung.com/796618.html

ตอน 2    จิ้มๆ https://board.postjung.com/796922.html

ตอน 3    จิ้มๆ https://board.postjung.com/797275.html

ตอน 4    จิ้มๆ https://board.postjung.com/798984.html

ตอน พิเศษ จิ้มๆ https://board.postjung.com/799587.html

ตอน 5    จิ้มๆ https://board.postjung.com/800200.html

ชอบงานเขียน "Share"หรือ"Like" สนับสนุนผู้เขียนได้นะคะ


Homesick อีกแล้ว

25.04.14
หลายวันที่จากบ้านมา วางแผนบ้าง ไม่วางแผนบ้าง หลุดแผนบ้าง นั่งรถวันละหกชั่วโมงอัพ
แถมเพิ่งไปเดินขึ้นเขามาอีกสามวัน เท่านี้มันคงเป็นสัญญาณที่เพียงพอจะผลักดันให้ฉันโหยหาบ้านแสนอบอุ่น
คิดถึงเตียงนอนนุ่มๆ คิดถึงอากาศร้อนๆของประเทศไทย เคยคิดว่าอากาศหนาวจะสบายกว่าแต่ฉันว่าฉันคิดผิด
ที่นี่มันหนาวเกินไปสำหรับฉัน ปากเริ่มมีรอยแตกเลือดไหลที่ปากมาสองวันแล้ว นิ้วแตกเจ็บมากๆมีแผลเต็มไปหมด
เมื่อวันก่อนฉันมีไข้นิดหน่อยเพราะร่างกายปรับอุณภูมิไม่ทัน ยาพาราแผงนึงที่เตรียมมาก็หมดแล้ว พอบอกแพนว่ามีไข้
แพนรีบหยิบยาผงมาให้ "ชงกับน้ำร้อนแล้วดื่มก่อนนอนนะ ยาตัวนี้ดีมากๆ"สาวน้อยน่ารักยิ้มหวานพร้อมส่งยาแก้ไข้ให้
คิดไม่ออกจริงๆถ้าวันนั้นฉันเลือกที่จะไม่เดินทางกับทุกคนฉันคงไม่มีประสบการณ์อันล้ำค่าแบบนี้

รู้สึกภูมิใจมากมายที่เทยตัวคนเดียว งกๆเงิ่นๆจะเดินทางมาไกลได้ขนาดนี้ หลายๆเหตุการณ์ที่ผ่านมาทำให้ภูมิคุ้มกัน
ด้านอารมณ์มากขึ้น ฉันแทบไม่เสียใจไม่หดหู่กับการจากลาอีกเลย ได้แต่คิดว่าวันนึงเราคงได้พบกันใหม่
อเล็กซ์เองก็ตอบเมล์มาในเช้าวันนี้ ฉันเล่าเรื่องเพื่อนคนจีนกลุ่มใหม่ให้อเล็กซ์ฟังและบ่นว่าเหงานิดหน่อย
หน้าหนุ่มจีนใส่แว่นท่าทางใจดียังไม่หายไปจากความทรงจำของฉัน อเล็กซ์แสดงความยินดีที่ฉันได้พบเพื่อนใหม่
"การเดินทางนี้ต้องให้อะไรบางอย่างกับเธอแน่ๆ เธอต้องได้เรียนรู้" ใจความบางส่วนของจากอีเมลล์อเล็กซ์

เช้านี้เช็คเอาท์และซื้อตั๋วรถเพื่อจะไปที่ลี่เจียงแล้วต่อรถไฟไปคุนหมิงในตอนกลางคืนอีกทอดนึง ฟังดูเป็นการเดินทางที่ยาวนาน
แต่ไม่รู้ทำไมทั้งตื่นตัวทั้งมีแรงดีใจที่จะได้กลับบ้านสักที พักหลังๆมานี่รู้สึกว่าจับกล้องน้อยลง  หรือฉันอาจจะขี้เกียจถ่ายภาพแล้วก็ได้
ถึงจะว่าอย่างนั้นก็ยังมีบางอย่างมาเซอร์ไพรส์ระหว่างทางกลับทำให้ต้องหยิบกล้องออกมาอีกครั้ง


กำลังงัวเงียๆ มองออกไปนอกหน้าต่างเจอธรรมชาติมาเซอร์ไพรส์


ไม่ได้นั่งริมหน้าต่างถ่ายรูปลำบากอีกแล้ว T^T


เมื่อสามวันก่อนยังเป็นพื้นดินแห้งๆอยู่เลย


ถนนลัดเลาะภูเขา เห็นแบบนี้แล้วเสียว


ถึงจะไม่ได้นั่งติดหน้าต่างแต่นั่งเบาะท้ายสุดของรถทำให้ได้ภาพมุมนี้มา


เหมือนจะถูกหิมะกลืน


ครั้งนี้ที่เห็นหิมะหนาขนาดนี้ ตื่นเต้นสุดๆ


หิมะใกล้ๆประเทศไทยใช้งบไม่ถึงสองหมื่นโชคดีมากที่เจอกัน


ได้ออกมาเดินข้างนอกด้วย


Bye Bye Snow mountain

และแล้วทิวทัศน์ก็ค่อยๆเปลี่ยนไปเรื่อยๆหิมะเองก็ค่อยจางหายไป เจอทิวทัศน์ใหม่เรื่อยๆ
กลายเป็นว่าฉันไม่ได้หลับเลยสักงีบเพราะมัวแต่มองออกไปนอกหน้าต่าง จนรถมาแวะพัก
เข้าห้องน้ำและทานข้าว


เจอทุ่งข้าวสาลี


กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา


ก่อนจะถึงแชงกรีล่าต้องผ่านนาพาไห่


ทุ่งกว้างสุดลูกหูลูกตา มีทั้ง ม้า แกะ จามรี 


และแล้วก็กลับมาแชงกรีล่าอีกครั้ง

จากลาแต่ไม่เสียใจ
การจากลาครั้งที่เจ็ดเป็นตัวเลขที่สวยงามมาก รถทัวร์มาจอดที่แชงกรีล่าเราต้องเปลี่ยน
ไปนั่งรถทัวร์อีกคันเพื่อไปลี่เจียง โดยครั้งนี้เหลือแค่ฉัน ทอม แพน เราออกมาขึ้นรถอีกคัน
พวกเราทั้งสามคนยิ้มให้ โทมะโทะและโปเต้ที่อยู่ในรถอีกคันผ่านกระจกหนาๆของรถทัวร์
พร้อมโบกมือให้กันจนรถทัวร์ทั้งสองคันห่างไปจนลับสายตา รู้สึกใจหายนะแต่ไม่เสียใจอีกแล้ว
เพราะยังไงวันนึงเราคงพบกันที่ไหนซักแห่งหรือถ้าไม่พบกันเรายังมีอีเมล์ให้ติดต่อกันอยู่
ทั้ง อเล็กซ์,คุณสตีเว่น,พี่หนุ่มพี่น๊อต,น้องมายด์,พี่สองคนที่แชงกรีล่า,ฮุ่ยฮุ่ยอาเล่ย,โทมะโทะและโปเต้
ทุกคนๆที่เข้ามาเติมเต็มการเดินทางของฉันได้ช่วยเหลือและสอนอะไรมากมาย ฉันจะไม่เสียใจอีกแล้ว
ที่ต้องจากลาใคร อยากจะให้การบอกลากันเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขและรอยยิ้มของพวกเรา


สถานีรถไฟลี่เจียง


นั่งรถเมล์กันตลอดไม่เคยนั่งแท็กซี่สักที
 
ลี่เจียง Again
ไทม์สคิปเวลามาถึงช่วงเย็นๆรถก็มาถึงลี่เจียงโดยสวัสดิภาพ สถานีขนส่งไม่ใช่สถานีเดียวกับครั้งแรก
ที่ฉันมาที่ลี่เจียง แต่ไม่เป็นไร....ไม่ต้องงงอะไรมากเรามากับคนจีนนี่ ทอม แพน ปฏิบัติการเดินถามทาง
ไปสถานีรถไฟ ทั้งสองคนมีตั๋วอยู่แล้วแต่ต้องเอาไปบุ๊คหรืออะไรสักอย่าง ส่วนฉันต้องซื้อตั๋ว

มาถึงสถานีรถไฟตอนซื้อตั๋วต้องใช้พาสปอร์ตยืนยันด้วย ปัญหาอย่างหนึ่งของพาสปอร์ตฉันคือ
สถานทูตแปะวีซ่าไว้หน้ากลางแล้วหน้ากลางเนี่ยเปิดหาไม่ค่อยจะเจอ เวลาตรวจทีต้องหากันทีนึง
ซื้อตั๋วลี่เจียง-คุนหมิงแบบ Hard sleep ในราคา 141.50 หยวน ถ้าเพิ่มอีกสิบหยวนจะได้เตียงล่าง
แต่ฉันปฏิเสธเพราะต้องเซฟเงินสุดชีวิต  แพนเป็นคนเจรจาซื้อตั๋วให้ ฉันเลยไม่ต้องปวดหัวอะไร

หลังจากจัดการเรื่องตั๋วเรียบร้อยพวกเราสามคนจัดแจงฝากกระเป๋าเป้ไว้ที่สถานีรถไฟ เพราะรถไฟออก
ตั้ง 4 ทุ่มมีเวลาเหลืออีกหลายชั่วโมง แพนอยากจะไปซื้อของฝากที่ลี่เจียงและไปกินหม้อไฟร้านอร่อยกัน
พวกเรานั่งรถเมล์กลับไปที่ตัวเมือง ฉันมีหน้าที่ตามเหมือนลูกเป็ดเดินตามแม่เป็ดไม่ได้คิดอะไรเลยเดินตามเจ้าถิ่นอย่างเดียว
เรามาหยุดที่หน้าร้านอาหารร้านนึงดูเป็นแบบโลคอลมากมาย มวลมหาประชาชนแน่นขนัดเต็มทุกโต๊ะเป็นสิ่งยืนยัน
ว่ามันคงจะอร่อยแหละ แต่ฉันเกรงว่ามันอาจจะอร่อยของเค้าแต่ไม่อร่อยของเรานี่สิ


เที่ยวจีนแบบคนจีน


หวานเกินไปละนะ =..=

รออยู่หลายนาทีหน้าร้านอาหาร โต๊ะก็ยังคงไม่ว่าง "เราจะย้ายร้านกัน"ทอมกล่าวขึ้นมา
ร้านมีรถตู้บริการพาไปส่งอีกสาขานึง(มีหลายสาขาด้วยเก๋จน) รถพาเราไปอีกสาขานึง
"แหม....ถ้าลงทุนทอมกับแพนอยากกินขนาดนั้นมื้อนี้มันคงเป็นมื้อที่พลาดไม่ได้สินะ"
ฉันคิดในใจระหว่างนั่งรถ แค่วูบเดียวราวกับวาร์ปเรามาถึงร้านสาขาสองที่คนโล่งกว่าร้านแรก


พาชนะของร้านอาหารในจีนจะห่อด้วยพลาสิกใส


เตรียมรอหม้อไฟ น้ำจิ้มจะเป็นพริกยูนนาน+ผงชูรส


หม้อไฟมื้อนี้ทอมสั่งเป็นไก่ดำกับน้ำซุปเข้มข้น


ข้าวสวยร้อนๆ ซุปข้นๆ อร่อยน้ำตาไหล

ยอมรับจริงๆว่ามื้อนี้ควรค่าแก่การจดจำมาก มันอร่อยซะจนฉันไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะไม่ได้กินอะไร
มาทั้งวันรึเปล่า แต่ช่างเถอะมีความสุขจริงๆขอบคุณทอมกับแพนมากค่าเสียหายหารกันคนละ 20 หยวน

หลังจากกินเสร็จแพนไปที่เมืองเก่าซื้อของฝากให้ครอบครัว เป็นขนมคล้ายๆขนมซาเปาทอดมีใส้เป็นดอกไม้
ฉันลองชิมมันไม่ได้อร่อยอะไรมากแต่กลิ่นดอกไม้หอมหวานไปทั่วทั้งปาก เลยซื้อไปฝากที่บ้านบ้าง 15 หยวนเอง

 

รถไฟจีน


กรี้ดสาวแตก!! ช๊อกโกแลตลาเต้คุมะกลิ่นหอมอร่อย แพ๊คเกจน่าซื้อมากเหมาะกับผู้หญิงแบ๊วๆเช่นเรา


ภายในสถานีรถไฟไฮโซหรูหรา โอ่โถง อลังการมาก


ภาพจากมือถือ

พอใกล้ถึงเวลาเกทต์เปิดให้เข้าไปหาที่นั่งในรถไฟได้ ฉันกับทอมและแพนไม่ได้ซื้อตั๋วพร้อมกัน
ทั้งสองคนอยู่อีกตู้นึง ส่วนฉันก็อยู่อีกตู้นึงซึ่งห่างกันพอสมควร ทอมกับแพมยังเดินมาส่งถึงตู้ขบวน
และบอกว่าตอนเช้าเดินออกมาแล้วยืนรอที่หน้าตู้เดี๋ยวจะเดินมารับ ฉันซาบซึ้งจนรู้สึกว่าคำขอบคุณไม่พอ
ฉันเลยขอบคุณเป็นภาษาจีนแอบดูจากดิคที่เตรียมไป "ปู๋เค่อฉวี่ แปลว่าไม่เป็นไร" แพนเสริมขึ้น
เป็นฉากน่ารักๆฉากนึงของชีวิตที่ฉันชอบและอดยิ้มไม่ได้ทุกครั้งที่นึกถึง

เข้ามาในขบวน จะเห็นห้องนึงมีเตียงนอนหกเตียงฝั่งละสามเตียงเป็นชั้นๆ เตียงด้านล่างจะมีพื้นที่เยอะสุด
สามารถนั่งได้ ส่วนเตียงอื่นๆนอนได้อย่างเดียว(นั่งแล้วหัวชนเพดาน) เตียงฉันอยู่บนสุดลำบากมากเวลา
ที่ปีนขึ้นไป รถไฟออกจากสถานีตรงเวลาดูเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับคนไทยอย่างฉัน วันนี้เดินทางทั้งวัน
ความเหนื่อยล้าเข้ามามีอำนาจเหนือสิ่งใดๆ ถึงแม้หมอนจะแข็ง เตียงจะแข็ง สภาพจะลำบากขนาดไหนก็ยังหลับได้สบายๆ

 

ร้องให้อีกครั้งแต่มีความสุข

26.04.14

เสียงเพลงคลาสสิคอันคุ้นเคยดังกระหึ่มรถไฟตอนที่นาฬิกาบอกเวลาใกล้หกโมงเช้า
เป็นสัญญาณว่ารถกำลังจะถึงคุนหมิง ฉันชอบความคิดที่เอาเพลงคลาสสิคมาเป็นนาฬิกาปลุกบนรถไฟนะ
เพราะฉันเรียนด้านดนตรีตะวันตกได้ฟังดนตรีคลาสสิคจากนักประพันธ์ระดับโหลกหลายท่าน ไม่เคยซะที
ที่จะตั้งเพลงคลาสสิคเป็นเสียงปลุกตอนเช้า เดี๋ยวกลับไทยค่อยมาตั้งปลุกแล้วกัน

ระหว่างที่เดินลงจากตู้ขบวนสู่ชานชาลาคิดในใจว่าถ้าพลัดหลงกับทอมและแพนหละจะทำยังไงต่อ
ฉันเริ่มมีอาการกลัวอีกครั้งคงเพราะว่าเป็นลูกเป็ดเดินตามหัวหน้าทัวร์มาหลายวัน ข้าวก็ไม่ต้องสั่งเอง
เลยวางใจ สุดท้ายปรับตัวไม่ได้กับสถานการณ์ที่ต้องอยู่คนเดียว ซ้ำร้ายยังไม่มีข้อมูลอะไรเลยเกี่ยวกับคุนหมิง
คิดว่าแค่จะแวะนิดๆหน่อยๆ หารู้ไม่ว่าคุนหมิงเป็นเมืองหลวงของมลฑลยูนนานขนาดเมืองใหญ่เทียบเท่ากรุงเทพ
สายรถเมล์เยอะแยะ เหมือนฝรั่งมาเที่ยวบ้านเราแล้วขึ้นรถเมล์ไม่ถูกคงจะอารมณ์นั้นแหละ

ระหว่างที่สมองกำลังวุ่นวายคิดนู่นนี่ ฉันได้เห็นสองรอยยิ้มที่คุ้นเคยยืนอยู่ตรงหน้าในชานชาลา
ไม่รู้จะพูดยังไงคนนึงไม่รู้จักเราดี ยอมให้เดินทางไปด้วยกัน ซึ่งฉันอาจจะเป็นภาระก็ได้
แต่ทอมกับแพนก็ไม่ได้ทิ้งฉันไปไหน ทั้งสองคนบอกว่าเดี๋ยวจะไปส่งขึ้นรถไปขนส่งสายใต้คุนหมิง
เพราะฉันต้องซื้อตั๋วรถทัวร์คุนหมิง-ห้วยทราย ทอมพยายามถามทางคนแถวสถานีรถไฟให้ว่าต้องขึ้นรถตรงไหน
จนเจอรถสายที่จะไปขนส่ง หมายเลข C71 ต้นสายอยู่หลังสถานีรถไฟไปสุดสายที่ขนส่งสายใต้ ทอมกับแพนมาส่ง
ถึงตรงนี้ ก่อนฉันจะขึ้นรถฉันโผเข้าไปกอดทั้งสองคนอย่างไม่อายพร้อมกับขอบคุณหลายครั้ง เรายิ้มให้กัน
พร้อมกับโบกมือลากันตรงนี้ ฉันไม่ได้ร้องให้.....ต่อหน้าทั้งสองคน พอขึ้นมาบนรถลับสายตาทั้งสองคน
น้ำตาฉันไหลอีกครั้ง ความผูกพันธ์ที่เรามีด้วยกัน ลำบากมาด้วยกันหลายวันมานี้มันมากพอที่จะทำให้
การจากลาครั้งนี้เป็รการจากลาที่ทำใจลำบาก แต่ถึงอย่างนั้นน้ำตาก็ไหลมาพร้อมกับรอยยิ้ม

 

Kunming 1st time

มาถึงขนส่งต้องตกใจเพราะรถคุนหมิง-ห้วยทราย มีวันละรอบ เวลาเดียวคือ 19.50 น.
ฉันก้มมองนาฬิกาที่ข้อมือ นี่เพิ่งจะเจ็ดโมงกว่าๆเองจะไปที่ไหนหละทีนี้ตั้งหนึ่งวันเต็มๆ
ครั้นจะให้นั่งอยู่สถานีขนส่งทั้งวันต้องแห้งตายแน่ ฉันตั้งสติแล้วซื้อตั๋วราคา 329 หยวน
รถจะไปถึงห้วยทรายเย็นๆของวันพรุ่งนี้ จำเป็นต้องเตรียมตัวหลายสิ่งหลายอย่าง

ฉันเดินออกมาจากสถานีขนส่งแบบเคว้งคว้างไม่มีจุดหมาย ฝากกระเป๋าเป้และของไม่จำเป็น
ไว้ที่สถานนี นึกขึ้นมาได้ว่ามีกูเกิ้ลแมพนี่นานั่งรถสายเดิมกลับไปที่สถานีรถไฟแล้วตั้งต้นจากตรงนั้น
ฉันหาข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวจากอากู๋แบบเร่งรีบ กูเกิ้ลแมพจะโชว์สายรถเมล์ที่จะไปจุดหมายที่เราค้นหา
นับว่าช่วยได้มากจริงๆ อันดับแรกคือหาของกินในเมืองฉันนั่งรถเมล์ไปลงที่ถนนเส้นนึงเห็นว่ามีห้างร้านใหญ่โต
เหลือบไปเห็นแม็คโดนอลเสมือนโอเอซิสกลางทะเลทรายที่เปิด 24 ชม.
เลยเข้าไปหาอะไรลองท้องในแม็คก่อนออกไปลุยคุนหมิง



เบอร์เกอร์ชีสเยิ้มๆ กับ น้ำเต้าหู้!!! ก็อร่อยอยู่ท้องดีนะ


สวัสดีคุนหมิง ยินดีที่ได้รู้จักวันนี้ฉันอยู่ที่นี่คนเดียว

 


ที่สำคัญคือ เลนซ์รถ เลนซ์จักรยาน เลนซ์ทางเท้า คนละเส้นกัน อะแมซซิ่ง


ร้านก๊อปแบรนด์เนมเปิดขายกันริมถนนแบบนี้เลย


คิดเพลินๆเกี่ยวกับประเทศจีนจากที่พบกเจอมาตลอดการเดินทาง

สิ่งที่ไม่ชอบในจีน
-ห้องน้ำชนบท,ขนส่ง สภาพเลวร้ายชนิดเข้าไม่ได้เลย
-คนจีนทิ้งขยะกันได้ทุกที่ ไม้เว้นแม้แต่ในอุทยานแห่งชาติ
-แซงคิวแชมป์โลก แซงแบบต่อหน้าต่อตาไม่แคร์สายตาชาวโลก
-ขากกกกกก ถุ้ย!!! ได้ยินทุกที่ทุกเวลา
-กินโคตรเร็ว ข้าวจานนึงหมดในเวลาไม่ถึง 5 นาที(สงสารคนกินช้าเถอะ)
พี่แกเล่นไม่เม้าท์อะไร จ้วงเอาๆ

สิ่งที่ชอบในจีน
-ต้นไม้ใหญ่กลางเมือง มองไปทางไหนก็เจอต้นสนสูงๆอยู่ริมถนนในย่านช๊อปปิ้ง(ถ้าบ้านเรามีต้นไม้เยอะๆบ้างคงดี)
-การคมนาคมรถไฟ เลิศเลอมากอ่ะรถไฟดูดี สถานีสะอาดใหญ่โตโอ้โห!!
-นโยบายรักษาสิ่งแวดล้อมเยี่ยม ถ้าซื้อของต้องจ่ายค่าถุงเพิ่ม(เหมือนญี่ปุ่น)ในแคร์ฟูลไม่ใช้ถุงพลาสติกแต่ใช้ถุงแบบย่อยสลายได้แทน
-มีเลนรถจักรยานยนต์,จักรยาน แยกกลางเมืองใหญ่ แถมฟุตบาตใหญ่ๆแยกออกมาอีก คนเดินสบายไม่ต้องกลัวรถเฉี่ยวไม่ต้องหลบแผงลอย
-ระบบขนส่งสาธารณะ(รถเมล์) ราคา 10 บาท รถเมล์ขับไม่เร็วมากจอดทุกป้ายไม่ต้องกดกริ่ง คนไม่ลง ไม่มีคนขึ้น รถก็จอดอยู่ดี ขึ้นลงทางเดียว 

นึกออกเท่านี้

 

สวนสัตว์คุนหมิง

คุนหมิงช่วงเมษายนอากาศดีเหมาะแก่การเดินเล่นทอดน่อง ไม่หนาวและไม่ร้อนเกินไปนั่นทำให้ฉัน
เดินได้ชิลๆเรื่อยๆ สถานที่แรกที่หาได้จากข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวในคุนหมิงและดูจะรองรับกับ
ค่าใช้จ่ายที่เหลือน้อยนิดในกระเป๋าฉัน สวนสัตว์คุนหมิง!! ใช้ฆ่าเวลาได้ครึ่งวันเลยเชียวนะ
ราคาค่าเข้าสวนสัตว์ถูกแสนถูกแค่ 25 หยวน แถมพิกัดอยู่กลางเมืองหาเจอง่ายดาย
นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่ได้เข้าสวนสัตว์ และดันเข้าคนเดียวด้วย วันนั้นเป็นวันหยุด
ทำให้มีครอบครัวและคู่รักมากมายมาเที่ยว ความสุขอาจจะอยู่ตรงที่ได้เห็นเด็กๆวิ่งเล่น
ทำหน้าตื่นเต้นเวลาเจอสัตว์นี่แหละ ฉันเองก็พลอยมีความสุขเล็กๆไปด้วยจากการแอบส่อง


ทางเข้าสวนสัตว์


นุ้งแพนด้าแดง


ขอหนมป๋มหน่อยฮะ (ระทวยนางน่ารักจริงไรจริง)


ทางเดินร่มรื่น

 


น้องช้างร่าเริง


เดินเพลินมากรู้สึกเหมือนได้กลับไปตอนอายุ 10 ขวบ


กรงนกแบบปิด


มีจุดนั่งพักและจุดรับประทานอาหารด้วย(แต่ไม่ได้กินกลัวสั่งแล้วคนขายไม่เข้าใจ)


จากสวนสัตว์จะมีจุดชมวิวเห็นเมืองคุนหมิงมุมสูง

 


ชอบมุมนี้ๆ


หนาวหรอคะลูก


พี่สำผัสได้ค่ะ (ม่ายยช่ายยยยเค้ารำไทเก๊กรึปล่าว)


นอกจากที่นี่มีจะเป็นสวนสัตว์แล้วยังไม่โซนเครื่องเล่นคล้ายดรีมเวิร์ลเลย เด็กๆกรี้ดกร๊าดกันใหญ่


เป็ดสายพันธ์ไหนเนี่ย


Black swan สวยเริดเชิ่ดโสด


อยากเล่นนะแต่เหมือนอายุจะเกินมาสักพักละ


นู๋หิวววววว!!!!


Kiss me




นุ้งม้าลายแครี่ขี้อ้อน เวลาคนเข้ามาใกล้กรงนางเดินมาหาตลอด


ทั้งๆที่ไม่สามารถให้อาหารได้นางก็ยังวิ่งมาหาคน น่ารักจัง

ห้องน้ำ(ที่)สาธารณะ
เดินจนทั่วสวนสัตว์ นั่งพัก ฆ่าเวลาไปเรื่อยๆเผลอแปปเดียวก็เกือบจะเที่ยง 
ได้เห็นวิถีชีวิตคนจีนในวันหยุด ส่วนใหญ่ผู้สูงอายุหลายคนนิยมมารำไทเก๊ก
บ้างก็พาหลานๆมาเที่ยวเล่น(ฉันแอบแหย่ลูกชาวบ้านเล่นไปหลายคน หนุกดี)
สิ่งหนึ่งที่ตกใจก็คือค่านิยมพาเด็กอุจจาระในที่สาธารณะยังมีอยู่(ห้องน้ำอาจจะอยู่ไกล)
น้องคงไม่ไหวแล้วรึเปล่า?ผู้ปกครองเลยให้น้องปล่อยซะกลางแจ้ง แถมไม่เช็ดก้นอีก T^T

 

มหาวิทยาลัยยูนนาน
สถานที่ต่อไปที่ฉันเลือกจะไปเยี่ยมเยือนคือ Yunnan University 
มหาวิทยาลัยยูนนานได้ชื่อว่าเป็นสถานที่นึงที่งดงามมากด้านสถาปัตยกรรม
การจะไปที่นั่นก็ได้เจ้ากูเกิ้ลแมพพาไปอีกเช่นเคย ฉันขึ้นรถเมล์ตามที่กูรูกูเกิ้ลแมพ
ชี้แนะว่าควรจะขึ้นสายนี้จากจุดที่ยืนอยู่ ก่อนเดินเข้ามหาลัยก็แอบหลงทางไปไหนก็ไม่รู้
เดินไปเดินมาจนมาเจอมหาวิทลัยจนได้


เข้ามาเจอหนุ่มๆหลายกลุ่มเล่นบาส แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก =,,= 


ตึกเรียนทันสมัย


ทางเดินกลางในมหาลัยร่มรื่น


ชอบต้นไม้เยอะๆแบบนี้

ระหว่างกำลังนั่งพักดูกูเกิ้ลแมพอยู่นั้น ประโยคภาษาไทยก็ลอยเข้าหู
ฉันรีบกวาดตามองหาต้นตอของเสียง เจอพี่ผู้หญิงสองคนกำลังคุยกัน
ไม่รอช้ารีบตรงดิ่งเข้าไปถามข้อมูล พี่คนไทยใจดีมาเรียนที่มหาลัยยูนนาน
ช่วยให้ข้อมูลไปแหล่งช๊อปปิ้งกลางเมืองคุนหมิง และกำชับหลายครั้งว่า
"ระวังกระเป๋าด้วยนะคะน้อง" สงสัยจะน่ากลัวจริงๆเรื่องนักวิ่งราวที่ได้ยินมา

การเที่ยวแบบไม่มีข้อมูลอะไรสักอย่างนี่ก็สนุกเหมือนกัน ข้อมูลต่างๆเพิ่งจะถูก
ค้นหาวันนี้นี่เอง สมองของฉันได้ทำงานแทบจะตลอดเวลา แถมได้กำหนดเอง
ว่าจะไปไหนต่อ จะอยู่ที่นี่นานแค่ไหน รู้สึกถึงอิสระที่สุดในวันนี้จากที่ผ่านมาต้อง
ตามคนอื่นตลอดไม่ใช่ว่าไม่ดีนะ แต่นี่เป็นครั้งแรกในหลายๆวันที่ได้ทำตามใจตัวเอง

 


เดินไปเดินมารู้สึกอยากมาเรียน


พยายามจะเดินหาขั้นบันไดที่หลายๆคนนิยมมาถ่าย หาไม่เจอซะงั้น


ชอบสถาปัตยกรรมตึกนี้


คุณแม่กับลูกสาวน่ารัก


หน้าต่าง

 

กลางเมือง
สถานที่ฆ่าเวลาที่ต่อไปคือแหล่งช๊อปปิ้งใหญ่ของเมืองคุนหมิง
สถานที่แห่งนี้อยู่ใจกลางเมือง(รึปล่าว) มีเนื้อที่กว้างประมาณหนึ่ง
และมีห้างร้านค้าจำนวนหนึ่ง สรุปคือเที่ยวแบบไม่รู้ข้อมูลอะไรนั่นเอง
ฉันออกมาขึ้นรถเมล์ตามที่พี่คนไทยบอกไว้จนไปถึงแหล่งช๊อปปิ้ง
อารมณ์คล้ายๆสยามบ้านเราเลยมีแต่เด็กวัยรุ่นใสๆ 


ห้างหรูมากไม่กล้าเดินเลย


ลักษณะย่านการค้าตรงนี้จะเป็น Walking street เดินได้อย่างเดียว


แดดแอบแรง


สัญลักษณ์ของย่านการค้าคือประตูเนี่ยแหละ

ฉันเริ่มจะปรับตัวไม่ค่อยทันกับชีวิตที่เปลี่ยนเร็วมากจากเมื่อวานยังอยู่กันกลางภูเขา
วันนี้เข้าเมือง หน้าโทรมๆที่ไม่ผ่านครีมผ่านแป้งแถมน้ำไม่ได้อาบอีกเริ่มไม่ค่อยมั่นใจ
ในหลายๆจุด แต่คิดไปคิดมาก็ช่างมันเถอะไม่มีใครรู้จักฉันนี่มาแค่ครั้งเดียวจะทำอะไรโก๊ะๆก็ยังได้
หลังจากกลับจากเดินทางครั้งนี้หลายครั้งที่ฉันออกจากบ้านทาแค่ครีมและแป้งเบาๆกลายเป็นคน
ขี้เกียจแต่งหน้าไปในที่สุด 


วันนี้เป็นวันสุดท้ายเลยกะจัดกินแบบจัดเต็ม KFC สูตรยูนนานรสชาติปะแล่มๆ


ไอติมแม็คอร่อยน้ำตาไหลอีกแล้ว ราคาแพงกว่าไทยแต่รสชาติเงี้ยเข้มข้นมาก(ใช้นม Yak รึเปล่า?)


คิดถึงหนัง Home alone สาวน้อยเงินในกระเป๋าก็จะหมด เร่ร่อนกลางเมืองใหญ่


เดินไปเรื่อยๆเจอร้านขายปลาหมึกแบบที่ลี่เจียงจัดซะหน่อย




ของกินเยอะมาก กินน้ำชาผลไม้ง่ายๆแค่จิ้มๆเอา


โรงภาพยนต์มีวัยรุ่นมากันเป็นกลุ่มๆคุยกันเสียงดัง น่าอิจฉามาก


บ่อตกปลา?? ตกแล้วเค้าเอาไปทำอะไรเอ่ย?

 


กลับมาไทยเพิ่งรู้ว่าย่านนี้เรียกย่าน"ม้าทอง"


ขนมที่ซื้อจากคาร์ฟูล โอรีโอ้ Birthday อร่อยดี นมรสมังคุดรสชาตินรกแตก


รถตำรวจมุ้งมิ้ง

ตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าที่ออกจากสถานีสายใต้ของคุนหมิงฉันแทบจะไม่ได้หยุดพักขาสองข้าง
เดินและเดินเพราะไม่รู้ว่าควรจะพาตัวเองไปนั่งพักตรงไหนดี เมืองใหญ่ทั้งเมือง ผู้คนเยอะแยะ
แต่คุยกับใครไม่ได้ซักคนไม่มีพื้นที่สงบๆให้ได้นั่งพัก ฉันยังคงเดินสำรวจเมืองคุนหมิงต่อไปเรื่อยๆ
จนมาหยุดชะงักที่หน้าห้างๆนึง ที่หยุดชะงักเพราะได้ยินเสียงคนร้องเพลงตอนแรกนึกว่าจะมีฟรีคอนเสิร์ต
จะได้นั่งดูฆ่าเวลา พอเข้ามาดูใกล้ๆกลายเป็นการประกวดร้องเพลงมีเด็กๆวัยรุ่นมากมายขึ้นไปร้องบนเวที
มีกรรมการคอยตัดสิน ถ้าไม่ผ่านเพลงจะหยุด จากที่ฟังๆบางคนร้องเพราะมากบางคนก็แทบจะทนฟังต่อไม่ไหว
ด้วยความที่ฉันเรียนจบเอก Voice Classic Performance เลยชอบที่จะฟังคนร้องเพลงแล้วคอมเม้นนู่นนี่ในใจ
ได้หยุดฆ่าเวลาที่นี่ไปเกือบชั่วโมงเลยแหละ 


อยู่ไกลต้องเขย่งยกกล้องขึ้นสูงๆ

หลังจากชมการประกวดได้ซักพักนึงถึงจุดอิ่มตัว เดินข้ามถนนผ่านสี่แยกใหญ่ๆจากด้านหน้าห้าง
เดินลัดเลาะไปเรื่อยโดยที่ไม่รู้ว่าจะไปไหนได้แต่เดินเรื่อยเปื่อยใจลอยพร้อมกับถึงขนมใหญ่ๆ
ที่ซื้อมาจากห้าง หรือนี่มันอาจจะเรียกว่าอารมณ์เปื่อยรึเปล่ามองนาฬิกาก็เพิ่งจะบ่ายสอง
ตำหนิตัวเองในใจว่าน่าจะหาข้อมูลของคุนหมิงมาบ้าง เพราะข้อมูลคุนหมิงที่ฉันมีอยู่คือ
สวนหิน เขาที่ต้องขึ้นกระเช้า แต่ละที่อยู่ไกลๆแถมใช้เงินหลายร้อยหยวน ทั้งเนื้อทั้งตัว
เหลือตังติดตัวไม่ถึงพันหยวนเรียกว่าเป็นเฮือกสุดท้ายถ้าหมดคือไม่มีอีกแล้ว เงินจำนวน
18,000 บาทที่แลกมาเกือบหมดเรียบ แต่ฉันคิดว่าคุ้มมากมายเลยกับสถานที่ต่างๆที่ได้ไปเหยียบ

ฉันเจอถนนเล็กๆลัดเลาะไปตามริมแม่น้ำอะไรซักอย่าง เดินดุ่มๆไปเรื่อยๆพบเจอผู้คนจำนวนมาก
ขายของแบกะดินลักษณะเหมือนของมือสอง จากสายตาที่ได้สังเกตุบรรยากาศรอบๆพบว่าคนส่วนใหญ่
ที่มาเดินแถวๆนี้เป็นผู้สูงอายุซะส่วนใหญ่ ฉันไม่รู้ว่าย่านนี้ชื่อย่านอะไรเลยขออนุญาติตั้งให้เอง
ว่า"ย่านผู้สูงอายุ" ฉันเดินเข้ามาหนีบกระเป๋ากล้องถ่ายรูปแน่นด้วยความระมัดระวัง เพราะสายตาของ
ผู้คนจับจ้องฉันเหมือนเป็นตัวประหลาดที่หลุดเข้ามาแบบผิดที่ผิดทาง จนเดินออกมาจากย่านนั้น
พบกับทิวทัศน์แบบนี้โดยบังเอิญ


แบบว่าบรรยายไม่ถูก อยากให้มายืนอยู่ตรงนี้เอง


เดินมาที่ฝั่งตรงข้างนั่งพักกินขนมตรงนี้เพราะไม่รู้จะไปไหนต่อดี


จะดีแค่ไหนกันนะถ้าได้มีความสุขร่วมกันกับใครซักคนเวลามองทิวทัศน์แบบนี้


ความเหนื่อยทั้งหมดหายเป็นปลิดทิ้ง

สุข สงบ สวยงาม

นั่งๆนอนๆมองดูทิวทัศน์อยู่นาน ได้สังเกตุเห็นคนรอบๆตัวกำลังเคลื่อนไหว
พ่อลูกพากันมาดูดอกไม้ดูอ่อนโยนและอบอุ่นมาก เหมือนเป็นส่วนเติมเต็มให้กับวันเหงาๆแบบนี้
หลายครั้งที่ฉันสังเกตุผู้คนรอบๆตัวแล้วเผลอยิ้มเพราะมีความสุขตาม ทั้งๆที่เราพูดคนละภาษา
อยู่ไกลกันหลายพันกิโลเมตรแต่เราดูไม่ต่างกันเลยสักนิด ระหว่างนั่งรอเวลาเพื่อจะกลับไป
ท่ารถสายใต้ ฉันเริ่มเห็นหลายๆสิ่งจากการเดินทางทั้งนี้ ทั้งทิวทัศน์แปลกตา และมิตรภาพดีๆ
ถ้าฉันกลัวและตัดสินใจที่จะไม่เดินทางครั้งนี้นั่นคงเป็นเรื่องที่น่าเสียใจมากๆแน่ การเดินทาง
ทำให้ได้เรียนรู้สิ่งสำคัญมากมายทั้งเป็นผู้ให้และเป็นผู้รับ การเดินทางที่ไร้จุดหมายแผนการ
ที่วางมาแน่นหนาถูกทำลายด้วยเหตุการณ์เฉพาะหน้าตลอดเวลา แต่นั่นแหละปัญหาหลายๆอย่าง
ก็นำพาฉันเดินไปสู่อีกเส้นทางนึง เส้นทางที่ฉันไม่เคยรู้จัก เส้นทางที่ไม่มีรีวิวที่ไหนในพันทิพ
เอาง่ายๆหมู่บ้านอวี่เปิงนี่ฉันไม่รู้จักมาก่อนยังไม่เข้าใจตัวเองมาจนถึงทุกวันนี้ว่าทำไมต้อนนั้น
ตัดสินใจที่จะตามคนไม่รู้จักกันไปเดินป่า เฉกเช่นการเดินหลงในคุนหมิงวันนี้ฉันไม่เคยเห็นดอกไม้
สีม่วงแสนงดงามแบบนี้ในรีวิวไหนมาก่อน เป็นเพราะว่าการเดินมั่วๆหลงทางพาฉันมาที่นี่

ขอบคุณความไม่แน่นอนของชีวิต เพราะว่ามันไม่แน่นอนคาดเดาไม่ได้นี่แหละชีวิตถึงได้น่าสนใจ

หลังจากฆ่าเวลาจนหนำใจได้เวลาที่ต้องเดินทางกลับไปขนส่งสายใต้ โดยเพิ่งพี่กูเกิ้ลแมพ
อย่าได้ถามฉันเลยเรื่องเกี่ยวกับสายรถเมล์แสนวกวนในคุนหมิงเพราะขนาดในกรุงเทพฉันยัง
รู้จักรถเมล์แค่บางสายเอง ฉันรอดมาได้ด้วยกูเกิ้ลแมพนี่แหละคอยเป็นแสงสว่างนำทาง
บอกว่ามีรถเมล์สายไหนผ่านสถานที่ๆฉันจะลงบ้าง ตอนกลับฉันใช้วิธีตั้งต้นที่สถานีรถไฟ
เหมือนเดิมโดยนั่งรถสายอะไรก็ได้ที่ผ่านสถานีรถไฟไปลงที่นั่น เป็นครั้งแรกเลยที่ได้นั่งรถเมล์
สองชั้น(แต่ไม่กล้าขึ้นไปนั่งชั้นสอง) มาลงป้ายใกล้ๆสถานีรถไฟ 


สัญลักษณ์กระทิงทองแสนคุ้นเคย


สถาปัตยกรรมอลังการดาวล้านดวง


ภาพสุดท้ายของกล้อง

สิ้นสุดปลายทาง

หลังจากนั้นฉันเป็นยังไงหน่ะหรอ? ก็ตามหารถเมล์สาย C71 ต๊อกๆ พอรถก็พยายามจะถาม
คนขับรถว่าไปสายใต้มั้ยโดยใช้กูเกิ้ลแปลอีกทีสื่อสารกันรู้เรื่องใช้ได้ ฉันมานั่งๆนอนๆรอ
ที่ขนส่งสายใต้เดินไปเดินมาซื้อขนมจุกจิกเอาไว้กินบนรถ กินเบอร์เกอร์ ไก่ทอด ที่ขนส่ง
เพราะไม่กล้าสั่งอาหารที่ร้านอาหารจีนเพราะมันจะเป็นเมนูภาษาจีนไม่ค่อยมีภาพให้จิ้ม
ถ้ากินร้านฝรั่งๆจะมีภาพให้จิ้มสั่งเป็นเซ็ตได้ รถออกตรงเวลา 19.50 หลับในรถมาเกือบตลอดทาง
อาจจะเรียกว่าสลบก็เป็นได้ หลับไม่รู้เรื่องอะไรเลยตั้งแต่วันนี้จนถึงเช้าของอีกวันไม่ได้สนใจสัมภาระ
ว่าจะอยู่หรือจะหายยังไง รถกลับมาทางเดิมเหมือนกับครั้งแรกที่เข้าประเทศจีนแต่ทำไมรู้สึกมันนาน
กว่าปกติ รู้สึกว่าใจของตัวเองบินกลับไปถึงบ้านก่อนที่ตัวจะถึงซะอีก

เวลาประมาณหกโมงเย็นกลับมาถึงด่านประเทศไทยแบบครบถ้วนทั้งสติและร่างกาย 
ขอบคุณเก่งเราไม่ได้เซลฟี่กับเธอขอบคุณในน้ำใจที่หยิบยื่นให้เพื่อจะส่งเรากลับ กทม.
เก่งเป็นคนเชียงรายไปเที่ยวแชงกรีล่าทางรถเหมือนกันแล้วเราดันมาเจอกันตอนขากลับ
พวกเราไปเดินทางคนเดียวเหมือนกัน ดีใจที่ได้รู้จักได้แอดเฟสบุ๊คติดตามชีวิตกันขอบคุณมากๆ
ขอบคุณป้าคนไทยที่ไปอยู่จีนแปลภาษาให้ตลอดทาง 

เรื่องราวแย่ๆจากประเทศไทย
ระหว่างที่กำลังอยู่ด่านไทยแล้วพยายามจะหาข้อมูลรถทัวร์กลับกรุงเทพ จากการสอบถามเจ้าหน้าที่
แถวๆนั้นพบว่ารถกรุงเทพเชียงของหมดแล้วต้องรอพรุ่งนี้ ฉันไม่อยากจะค้างเลยจะเข้าตัวเมืองเชียงราย
ไปหารถทัวร์กลับกรุงเทพระหว่างที่กำลังสับสนมีรถตู้คันนึงจอดอยู่หน้าด้านบอกว่าไปเชียงรายขึ้นคันนี้เลย
ฉันถามคนขับรถว่าไปที่ท่ารถจะมีรถกลับกรุงเทพมั้ย คนขับยืนยันหนักแน่นมีแน่นอนขึ้นเลย!!
ขึ้นไม่คิดด้วยความอยากกลับบ้านเต็มแก่ พอเจอราคาค่ารถถึงกับช๊อคราคาต่อคนคือ 400 บาท
แพงไปมั้ยค๊า!! อุทานออกมาดังมาก พนักงานรถพูดว่า"คันสุดท้ายแล้วถ้าไม่นั่งคันนี้ก็ไม่มีแล้ว"
พูดจาแบบนี้เป็นรถเถื่อนแหงๆ ระยะทางจากอำเภอเชียงของเข้าตัวเมืองร้อยกว่าโลคิดราคาขนาดนี้เลยหรอ
ฝรั่งที่แบ๊คแพ๊คที่นั่งข้างๆฉันยังบ่นว่าแพง ก่อนตาฝรั่งคนนี้จะขึ้นรถฉันพยายามจะถามเค้าว่าจะไปลงไหน
เพราะเค้าดูงงๆไม่รู้ว่ารถตู้ไปที่ไหน ยัยพนักงานรถพูดว่า"คุยอะไรกันรีบๆขึ้นรถสิค่อยไปคุยกันบนรถ"

ฉันโคตรจะเจ็บใจตรงที่ไปเที่ยวมาหลายที่ไม่เคยโดนฟันเลย อาจจะเพราะตื่นตัวคอยระมัดระวังตลอดเวลา
แต่พอเราเหยียบประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศบ้านเกิดคนพูดภาษาเดียวกันฟังรู้เรื่องไม่ต้องแปลผ่านกูเกิ้ล
ฉันกลับโดนโกงเงินแบบหน้าด้านๆโดยคนบ้านเดียวกัน ส่วนหนึ่งฉันอาจจะผิดที่ปิดสวิตระวังภัยตอนถึงไทย
จริงๆเราควรจะระมัดระวังทุกๆก้าวไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตามบนโลกใบนี้ และวันนั้นฉันก็ต้องค้างที่เชียงรายหนึ่งคืน
เพราะไม่มีรถกลับกรุงเทพอย่างที่คนขับรถตู้พูดไว้ ฉันคิดในแง่ดีว่านี่คงเป็นประสบการณ์อีกหนึ่งอย่างที่สำคัญ
ทำให้ตระหนักถึงความประมาทของตัวเอง 

ทุกเหตุการณ์ทั้ง สุข เศร้า เหงา ทุกข์ อารมณ์เสีย เหนื่อย มีความรัก ตื่นเต้น กลัว ทุกอย่างที่ฉันเล่ามามันเป็นแค่
ครึ่งนึงของความรู้สึกจริงๆ ถ้าไม่ได้แบกกระเป๋าออกเดินทางมาคงไม่ได้รับรู้ความรู้สึกแบบนี้อย่างแท้จริง
หลายภาพที่ฉันมองจากรีวิวคิดว่าสวย พอไปอยู่จริงๆกลับเฉยๆในขณะที่บางภาพสวยเกินรีวิวจากในพันทิพ
ไม่มีรีวิวไหนสวยเท่าสถานที่จริง ได้สัมผัสลมหายใจของคนที่อยู่ข้างๆกาย อากาศหนาวเหน็บทำให้เลือดไหล
หลายสิบรีวิวที่อ่านและท่องจำมามันเทียบไม่ได้เลยกับการเดินทางไปเองเพราะสถานการณ์ต่างๆไม่มีทางเหมือนกัน
ผู้คนที่พบเจอแตกต่างกัน นั่นคือเสน่ห์ของการเดินทาง ฉันกลับมาอยู่ที่บ้านจะเรียกได้ว่านอนตายไปหนึ่งสัปดาห์
กอบกู้ร่างที่แตกจากการเดินทาง กินและกินชดเชยกับที่ไปอยู่จีนแล้วไม่ค่อยได้กินข้าว

คิดว่าจะพักไม่เดินทางไปไหนอีกสักระยะเพราะเหนื่อยมากๆ แต่เป็นแบบนั้นไม่นานหรอก
ณ ตอนที่กำลังเขียนกระทู้อยู่ฉันแทบจะทนไม่ไหวที่ต้องอยู่เฉยๆฉันกำลังมีแพลนและจะออกเดินทางในเร็ววัน
กระเป๋าเองก็พร้อม เงินที่มีอยู่น้อยนิดพอจะพาไปได้ เหลือแค่รอคำตอบจากหัวใจคุณพร้อมมั้ยคะที่จะออกเดินทาง?


อเล็กซ์หลังจากที่ต่างคนต่างกลับบ้าน ส่งรูปในกล้องในโทรศัพท์ให้กัน


ฉันกับอเล็กซ์ที่ลี่เจียง

สำหรับเรื่องราวของเราสองคนก็ลงเอยด้วยการเป็น...........เพื่อนกันนั่นเอง 
จนถึงตอนนี้ฉันกับอเล็กซ์เองก็ยังคุยกันอยู่ในหลายๆเรื่อง และเราวางแผนว่า
จะทำโปรเจคแลกของขวัญกันโดยส่งเป็นพัสดุข้ามประเทศให้กัน น่าตื่นเต้นมากๆ
ถึงแม้มันจะจบลงแค่นี้ แต่ฉันก็รู้สึกว่าไม่ได้เสียดายอะไรดีซะอีกที่เราได้เป็นเพื่อนกัน
อดทนรอของขวัญจากอเล็กซ์ไม่ไหวแล้ว อเล็กซ์เองก็ต้องเซอร์ไพรส์กับของขวัญของฉันแน่ๆ
อุตส่าตั้งใจลงมือแฮนเมดเองสุดฝีมือ ขอบคุณสำหรับแรงใจแรงเชียร์เรื่องของฉันกับอเล็กซ์นะคะ

(คุยกันล่าสุดเห็นว่ามีแพลนจะมาเที่ยวไทยด้วย เราคงได้เจอกันนะ)


โปสการ์ดแฮนเมดหลังการเดินทาง

เราทำไว้เยอะมากกะเอาไว้แจกใครซักคนที่ชอบการเดินทางของเราจริงๆ ถ้าใครอยากได้เราก็ยินดีให้
แจกไปหลายอันแต่ก็ยังเหลืออีกเยอะมากถ้าอ่านมาถึงตรงนี้แล้วรู้สึกชอบสะกิดบอกเราได้นะคะ
ถ้าไม่ไกลมากยินดีเอาไปให้เลย ภายในกรุงเทพนี่แหละ เราชอบทำความรู้จักกับคนใหม่ๆตื่นเต้นดี 

พบกันใหม่กับทริปหน้าค่ะ

ชอบงานเขียน "Share"หรือ"Like" ให้กำลังใจได้นะคะ

การเดินทางอื่นๆอีกมากมายที่ : http://meledy.bloggang.com

Follow,ฟังเราบ่น,ถามข้อมูล,เป็นเพื่อนกัน จิปาถะ

ด้ที่ : https://www.facebook.com/natcha.roungsuti

 

ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ชอบการเดินทางของเราไลค์และแชร์

ถ้ามีโอกาสที่เรื่องราวของเรากลายเป็นเล่มเดี๋ยวจะมาอัพเดทนะคะ

ขอบคุณจริงๆที่อยู่เป็นเพื่อนในกระทู้เดินทางนี้จนถึงตอนสุดท้าย

หวังว่าเราคงจะพบกันในไม่ช้านะคะ 

 

เนื้อหาโดย: coconutza
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
coconutza's profile


โพสท์โดย: coconutza
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
60 VOTES (4/5 จาก 15 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ชาวเน็ตฮือฮา! ขายที่ดินพร้อมบ้าน 200 ล้าน ติดวิวสภาสัปปายะสภาสถานเขมรดราม่า วิจารณ์กันเอง! หลังเห็นมังกรที่ทำขึ้นมา? ลั่น มังกรหรือหนอนน้ำ!😃สาวแทบช็อก! เจอค่าไฟสุดโหด..เดือนเดียวพุ่ง 77 ล้านบาทแม่จีนโกรธจัดตบลูกชายหน้าหัน เหตุเพราะแอบดูสาวในห้องน้ำ จนตำรวจตามจับถึงบ้าน เเม่สุดเอือมเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งเเรก😌ซีอีโอ "ไบแนนซ์" ติดคุก 3 ปี ฐานฟอกเงินทีมเชื่อมจิตจ่อฟ้อง! สื่อปล่อยเฟกนิวส์..ไม่เคยบอกเชื่อมจิตแล้วจะไปนิพพานโควิด-19 อีกแล้ว!!!สาวร้องสายไหมต้องรอด คลีนิกทำ "จิ๊มิไหม้" แล้วไม่รับผิดชอบลูกสาวนางเอกดัง รุ่นใหญ่ โตเป็นสาวแล้ว
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
"ใบเตย สุธีวัน" กลับสู่บ้านเดิม เซ็นสัญญาเข้าบ้าน "อาร์สยาม"5 สาเหตุ ที่คนแก่ยึดติดกับอะไรเดิม ๆสาวแทบช็อก! เจอค่าไฟสุดโหด..เดือนเดียวพุ่ง 77 ล้านบาทพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์แต่โบราณ พรานผึ้งป่าทำพิธีขอขมาพญาผึ้งเพื่อปาดผึ้งเดือน 5ประเทศที่นิยมใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากที่สุดในโลก
ตั้งกระทู้ใหม่