เรื่อง :  สรินณา อารีธรรมศิริกุล นักวิจัยอิสระ สหรัฐอเมริกา

ถึงผู้เขียนจะอาศัยอยู่ต่างประเทศห่างบ้านมาซะไกล แต่ก็ไม่วายติดละคร “แรงเงา” ในช่วงหลังๆ ของเรื่อง ผู้เขียนเริ่มรู้สึกว่ามุนินทร์แก้แค้นจนเกินเลย ทำให้คนดูอย่างผู้เขียนอาจจะงงๆ ไม่เข้าใจถึงอารมณ์และเหตุผลของตัวละครตัวนี้เท่าใดนัก จนทำให้กลับมาคิดถึงสาเหตุการตายของมุตตาว่าเกิดขึ้นจากอะไรแน่

 

 ปัญหา bullying ภาพจากละคร แรงเงา ThaiTV3

 

 ปัญหา bullying ภาพจากละคร แรงเงา ThaiTV3

 

 ปัญหา bullying ภาพจากละคร แรงเงา ThaiTV3

 

 

พอทบทวนสักพัก ก็คิดว่ามุตตาน่าจะฆ่าตัวตายจากปัญหา bullying นี้เอง (ไม่ใช่เพราะอกหักจากท่านผอ.) ผู้เขียนไม่แน่ใจว่าภาษาไทยได้ให้คำจำกัดของคำว่า bully ไว้หรือไม่ เพราะคิดไม่ออก ถ้าจะอธิบายคำนี้ก็หมายถึง การถูกผู้อื่นกลั่นแกล้งตั้งแต่การใช้คำพูดเสียดสี ด่าว่า ถากถาง ประจาน ไม่คบค้า ไปจนถึงการทำร้ายร่างกายและทรัพย์สิน รวมถึงการกลั่นแกล้งในรูปแบบของการใช้โซเชียลมีเดียด้วยซึ่งเรียกว่า cyberbullying ที่กล่าวมาทั้งหมด มุตตาโดนกระทำจากเพื่อนในกระทรวงที่ด่าว่า ซุบซิบ ไม่คบค้า ดาวน์โหลดวีดีโอขึ้นยูทูปประจาน ไปจนถึงแม่ตัวเองที่ bully ลูกตั้งแต่เด็กจนโต หรืออีกนัยหนึ่งคือถูกสังคมแคบๆ รอบตัวกลั่นแกล้ง

ที่ผู้เขียนคิดถึงการ bullying ขึ้นมาเพราะปัญหานี้กำลังระบาดหนักอยู่ในสังคมวัยรุ่นอเมริกัน และถูกพูดถึงกันอย่างกว้างขวางทั้งในรายการทีวี วงโซเชียลมีเดีย หนังสารคดี และข่าวการฆ่าตัวตายของเด็กวัยรุ่นจากการถูก bully ออกมาให้เห็นอยู่บ่อยๆ ผู้เขียนเลยถือโอกาสนี้เขียนถึงปัญหา bullying ในประเทศสหรัฐอเมริกาในบทความสัปดาห์นี้

สถานการณ์ปัญหา bullying ในประเทศสหรัฐอเมริกา

จากการสำรวจสถิติของ National Center for Education Statistics พบว่า28% ของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่1 ถึง 6 เคยถูก bully ในระหว่างปี 2008-2009 และศูนย์ป้องการและควบคุมโรคของสหรัฐอเมริกาพบว่า 20% ของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่3 ถึง 6 เคยถูก bully ในโรงเรียน และ 16% ของนักเรียนมัธยมปลายเคยถูก cyberbully ในปี 2011

สถิติจากองค์กรการกุศลอื่นๆ เช่น

• 1 ใน 7 ของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 6 ประสบปัญหา bully หรือเป็นคนที่ bully คนอื่นเสียเอง
• 56% ของนักเรียนเคยเห็นพฤติกรรม bullying ในโรงเรียน และ
• 87% ของนักเรียนคิดว่าการยิงกันที่โรงเรียนเกิดจากการแก้แค้นเพราะถูก bully

สหรัฐอเมริกามีกฎหมาย Anti-Bullying เป็นครั้งแรกที่รัฐจอร์เจียในปี 1999 และตอนนี้ก็มีเพียงรัฐมอนทานาที่ยังไม่ผ่านกฎหมายนี้ กฎหมาย Anti-Bullying ของแต่ละมลรัฐก็มีความแตกต่างในด้านเนื้อหาของกฎหมายตั้งแต่การให้นิยามของการกระทำไปจนถึงบทลงโทษ ส่วนในระดับประเทศหรือ federal law นั้นยังไม่มีกฎหมายบัญญัติเกี่ยวกับการbullying

ที่จริงปัญหานี้เกิดขึ้นมานานแล้ว แต่ถูกจับขึ้นมาเป็นกระแสทางสังคมมากขึ้นตั้งแต่ปี 2010 จากกรณีของนักศึกษามหาวิทยาลัยรัทเจอรส์ (Rutgers University) ชื่อเทเลอร์ คลีเมนที (Tyler Clementi) อายุ 18 ปี ได้ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองด้วยการกระโดดจากสะพาน George Washington Bridge เหตุเพราะถูกเพื่อนสองคนร่วมหัวกันตั้งกล้องคอมพิวเตอร์แอบถ่ายระหว่างที่เขากำลังจูบกับเพื่อนผู้ชายในห้อง และหลังจากนั้นยังทวิตข้อความชักชวนให้คนอื่นเข้ามาดู ศาลเพิ่งตัดสินคดีความนี้ให้หนึ่งในเพื่อนสองคนนั้นมีความผิด เพราะถือเป็นคดีอาชญกรรมล้วงละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น

และกรณีของนักเรียนชื่อฟีบี้ พรินส์ (Phoebe Prince) อายุ 15 ปี ถูกเพื่อนนักเรียนด้วยกันกลั่นแกล้งหลังจากมีเรื่องเกี่ยวกับแฟนผู้ชายในโรงเรียน จนทำให้เธอตัดสินใจอำลาโลกด้วยการแขวนคอตาย ทางบ้านของเธอได้มีการทำFacebook page เพื่อระลึกถึงเธอ แต่ก็มีข้อความจงเกลียดจงชังโพสต์ลงไป การตายของทั้งสองทำให้ปัญหาbullying ในโรงเรียนและสถานศึกษาของประเทศอเมริกาเป็นที่ถกเถียงในสังคมมากขึ้น

 

 

เกย์มีสิทธิ์เป็นเป้าสูง

การเป็นเกย์กลายเป็นเป้าสำคัญที่ทำให้ถูก bully ได้ง่ายๆ เด็กเหล่านี้มีโอกาสในการเป็นโรคซึมเศร้าและฆ่าตัวตายมากกว่าเด็กทั่วไปกว่าสองเท่าเพราะด้วยสภาพจิตใจที่อ่อนไหว

ทำให้เด็กอเมริกันส่วนใหญ่ที่มีเพศแตกต่างต้องพยายามซ้อนความเป็นตัวตนจริงๆ ไว้ โดยไม่กล้าเปิดเผยแม้แต่กับครอบครัวของตนเอง

ใครเคยดูละครอเมริกันเรื่อง Glee เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของนักเรียนในชมรมร้องเพลง มีตัวละครตัวหนึ่งเป็นเกย์ ซึ่งละครพยายามสะท้อนภาพสังคมในโรงเรียนอเมริกันและพยายามรณรงค์ให้เกิดการยอมรับกลุ่มวัยรุ่นเพศที่สามให้มากขึ้น นอกจากนั้นวันที่ 11 ตุลาคม หรือว่า National Coming Out Day สหรัฐอเมริกาประกาศอย่างเป็นทางการให้เป็นวันฉลองการเปิดเผยตัวตนของกลุ่มคนเพศที่สาม โดยปีนี้มีกลุ่มผู้ปกครองของเด็กที่เป็นเกย์ออกมาถือป้ายสนับสนุนการเปิดเผยตัวตนของเด็กวัยรุ่นเพศที่สามกันอย่างน่าสนใจ

แม้ว่าหลายฝ่ายจะพยายามสะท้อนภาพความจริงของสังคมอเมริกันในยุคปัจจุบัน แต่ก็ยังไม่ได้รับการยอมรับจากกลุ่มคนและองค์กรหัวอนุรักษ์นิยมมากเท่าที่ควรเช่น the American Family Association เชื่อว่าครอบครัวที่ “ถูกต้อง” ตามธรรมชาติและถูกหลักทางศาสนาคือพ่อเป็นเพศชายและแม่เป็นเพศหญิงเท่านั้น

ในทุกปีองค์กร the Southern Poverty Law Center จะจัดกิจกรรมการอบรมที่เรียกว่า Mix It Up at Lunch Day เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กๆ ที่ไม่เคยคุยกันได้พูดคุยกันซึ่งเชื่อว่าน่าจะช่วยลดปัญหาการ bullying ในโรงเรียนได้บ้าง แต่เมื่อโปรแกรมมีการเสริมเรื่องวัยรุ่นเกย์เข้าไป ก็เกิดการต่อต้านจากผู้ปกครองที่เป็นสมาชิกขององค์กร the American Family Association เป็นจำนวนมาก รวมทั้งโรงเรียนเองก็ปฎิเสธไม่ต้องการให้มีการอบรม เพราะกลัวว่าการอบรมจะเป็นการส่งเสริมวิถีชีวิตแบบรักเพศเดียวกัน

 

รณรงค์ต่อต้านการ bullying

ในขณะนี้มีโครงการรณรงค์ให้ความรู้เรื่องการ bullying ในโรงเรียนแก่นักเรียนและผู้ปกครองมากมาย ผู้อ่านลอง google คำว่า bullying ดูจะเห็นเว็บไซต์ที่ให้ความรู้และรณรงค์เรื่องนี้จากหลายฝ่ายทั้งโรงเรียน ผู้ปกครอง นักเรียน และรัฐบาลเองก็ให้ความสำคัญเพื่อแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง มีศูนย์ hotline เพื่อป้องกันการฆ่าตัวตายในเวปไซด์ต่างๆ เพื่อเป็นข้อมูลแก่วัยรุ่น

 

 

ที่น่าสนใจคือบริษัทเอกชนอย่างเช่น Facebook, AOL และช่องการ์ตูนเด็ก ก็ให้ความร่วมมือในการรณรงค์ให้ความรู้และช่วยกันดูแลการใช้โซเชียลมีเดียกันมากขึ้น เช่น Facebook ได้ตั้งเพจ Stop Bullying: Speak Up และมีการให้ลงชื่อเป็นคำมั่นสัญญาว่าตนเองจะไม่ bullyคนอื่นและจะไม่ยืนเฉยๆ ดูคนอื่นถูก bully ด้วย

ตอนนี้หน้าเพจนี้มีสมาชิกกว่าหนึ่งล้านคนแล้ว หรือถ้าเกิดเจอสถานการณ์ cyberbullying ใน Facebook ก็สามารถแจ้งไปทางบริษัทได้ นอกจากนั้น ดารานักร้อง Hollywood ก็ออกมาช่วยกันรณรงค์ให้ความรู้กันอีกทางหนึ่งด้วย

ที่จริงในกรณีประเทศไทย ทุกคนก็คงทราบกันดีว่าเคยเห็นคลิปนักเรียนทำร้ายกันในห้องน้ำและสถานที่สาธารณะลงยูทูปจนเป็นข่าว รวมทั้งการทำร้าย ล่าแม่มดกัน ในโซเชียลมีเดียในช่วงสามสี่ปีที่ผ่านมา แต่ยังไม่เคยเห็นการทำสำรวจหรือจัดทำสถิติเกี่ยวกับปัญหานี้ในประเทศเราอย่างจริงจังว่าหนักหนาขนาดไหน และหน่วยงานใดสามารถเข้าไปช่วยเหลือเด็กๆ เหล่านี้ได้ ซึ่งการ bullying น่าจะเป็นปัญหาสำคัญในหมู่วัยรุ่นไทยเหมือนกับสังคมอเมริกันเช่นกัน โดยเฉพาะวิธีการ cyberbullying ที่กำลังเพิ่มความรุนแรงมากขึ้น

สุดท้ายขอฝากกรณี Amanda Todd เป็นอุทาหรณ์สำหรับวัยรุ่นไทย เธอเป็นวัยรุ่นธรรมดาๆ คนหนึ่งที่ท่องเว็บหาความสำราญ ลองถูกลองผิดให้กับชีวิต แต่ชีวิตกลับพลิกผัน ทำให้อะแมนดาต้องจบชีวิตลงเพราะการ bullying เธอได้ลงวีดีโอในยูทูปเล่าเรื่องราวผ่านแผ่นกระดาษที่เขียนเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่เธอก็ทนไม่ไหว ตัดสินใจฆ่าตัวตาย

 

 

 

 

การนำเสนอข่าวหลัง Amanda Todd จากไป

 

 

 

 

ซ้ำขออภัยค่ะ