เกร็ดน่ารู้ที่คุณอาจยังไม่รู้.....
โพสท์โดย Gamery
ประวัติปาท่องโก๋
สมัยราชวงศ์ซ้อง ขุนนางกังฉินกับภรรยา ร่วมกันวางกลอุบายใส่ร้ายว่าแม่ทัพงักฮุยและแม่ทัพตงฉินหนีทัพ ทำให้แม่ทัพงักฮุยอัน
เป็นที่รักของประชาชน ถูกประหารชีวิต ประชาชนต่างโกรธแค้น ขุนนางกังฉินและภรรยาแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ ซึ่งปกติชาวบ้าน
จะนิยมทานแป้งทอด จึงมีความคิดปั้นแป้งคู่แทนขุนนางกังฉินและภรรยานำลงไปทอดในน้ำมันร้อนๆ และก่อนจะทานก็จะฉีกออก
เป็นสองท่อน เพื่อเป็นการระบายแค้น
เผย! สถานที่ร้อนที่สุดในโลก แต่มีมนุษย์อาศัย
สถานที่แห่งนี้ได้รับการเรียกขานว่า เมืองผี ไม่มีรายงานถึงจำนวนผู้พักอาศัยในสถานที่แห่งนี้ที่แน่นอน ไม่มีถนน ไม่มีไฟฟ้า ไม่มี
ประปา สิ่งเดียวที่เชื่อมต่อระหว่างคนของเมืองนีือกับโลกภายนอกคือ กองคาราวานอูฐที่เข้าไปทำเหมืองเกลือ
รายละเอียด สถานที่แห่งนี้มีชื่อว่า Dallol เป็นเมืองทางตอนเหนือของประเทศเอธิโอเปีย ระดับพื้นดินในบริเวณนี้อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลถึง 130 เมตร ปัจจุบัน Dallol ได้รับการบันทึกว่าเป็นสถานที่ร้อนที่สุดในโลก(ที่มีมนุษย์ตั้งรกรากอยู่อาศัย) ด้วยอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปี 34 องศาเซลเซียส(ประเทศไทยมีอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปีอยู่ที่ 27 องศาเซลเซียสข้อมูลจากเว็บกรมอุตุนิยมวิทยาhttp://www.tmd.go.th/info/info.php?FileID=22)ในอดีตเคยมีการสร้างทางรถไฟเข้าไปเพื่อทำเหมืองเกลือ คาดว่ามีเกลือกว่า 5 หมื่นตันที่ขนส่งออกมาผ่านรางรถไฟนี้แต่เหมืองนี้ก็หยุดลงหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ความพยายามเปิดเหมืองใหม่อีกครั้งไม่ประสบผลสำเร็จ และเมื่อจบสงครามโลกครั้งที่สองทางอังกฤษได้รื้อถอนรางรถไฟทั้งหมด บริเวณที่มีการทำเหมืองเกลือคือบริเวณใกล้ภูเขาไฟDollol ที่เกิดการระเบิดครั้งสุดท้ายเมื่อปี 1926 ภาพจั่วหัวคือบริเวณปากปล่องภูเขาไฟ ทีมีซัลเฟร เกลือ และแร่ธาตุต่างๆตกผลึกเห็นเป็นสีสันต่างอย่างหน้าตื่นใจ
คาราวานอูฐที่เข้าไปขนเกลือจาก Dallol
นี้คือซากอารยธรรมที่หลงเหลือจากการทำเหมืองเกลือในอดีต
การเข้าไปท่องเที่ยวยังสถานที่แห่งนี้ได้รับคำแนะนำว่าควรเข้าไปถึงพื้นที่ Dallol ในตอนเช้า คนนำทางมักจะให้นักท่องเที่ยวพักอยู่ที่หมู่บ้าน Ela ซึ่งเป็นบริเวณเดียวกันที่คาราวานอูฐจะแวะพัก และรีบออกเดินทางอีกครั้งในตอนเช้าตรู่ เพื่อไปเยือน สถานที่ร้อนที่สุดในโลก
อิคคิวซังเณรน้อยเจ้าปัญญาการ์ตูนสุดสนุก ท่านมีตัวตนอยู่จริงๆ
เมื่อ 600 ปีที่ผ่านมาเป็นยุค Muromachi (ประมาณ พศ.1338-1573) ช่วงที่ญี่ปุ่น ยังยึดติดเรื่องศักดินา
อิคคิว ซัง เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเณรน้อยหลังจากโชกุน Yoshimitsu Ashikaga ต้องการจะรวมประเทศญี่ปุ่น ในศตวรรษที่ 15 มีพระในนิกายเซนถือกำเนิดขึ้นที่ใคร ๆ รู้จักในนาม "Ikkyu San (อิคคิว ซัง)" ผู้ฉลาดหลักแหลม เขาเกิดในปี 1394 และตายในปี 1481 ด้วยวัย 87 ปีพ่อของเขาคือจักรพรรดิ์ Gokomatsu ซึ่งมีชายาสองฝ่ายคือ Nantyo (ชายาฝ่ายใต้) และ Hokutyo (ชายาฝ่ายเหนือ) แม่ของอิคคิวคือ Nantyo ภรรยาลับ ๆ ของจักรพรรดิ์ Gokomatsu พระองค์เกรงอำนาจของชายาฝ่ายเหนือ Hokutyo แม่ของอิคคิวจึงต้องออกจากราชวังตั้งแต่ Ikkyu ยังไม่เกิด พระจักดิ์พรรคส่งเจ้าชายและชายา ฝ่ายใต้ (แม่ของอิคคิว) มาจากพระราชวัง โชกุน Ahikaga จึงเปลี่ยนชื่อให้เจ้าชายน้อยว่า Ikkyo การ์ตูนเรื่องนี้พยายามจะนำเสนอ การใช้ชีวิตของ อิคคิว ในวัดและต้องคอยต่อสู้กับลูกสาวพ่อค้า Yayoi ที่คอยเอาเปรียบวัด รวมถึงเรื่องศาสนา มีทั้งมุขตลกสำหรับเด็ก ๆ และเรื่องรวมความซาบซึ่งต่าง ๆ ไว้ครบ
เมื่ออิคคิวเกิดและอายุได้ 6 ปี อิคคิวได้บวชเรียนในวัดนิกายเซ็นในเกียวโตชื่อวัด "Ankokuji (อังโคะคุจิ)" อิคคิวฝึกตนค่อนข้างจะเข้มงวด จากหลวงพ่อของวัดอังโคะคุจิถึง 10 ปี รอบ ๆ ตัวของอิคคิวมีแต่ขุนนางชั้นสูงในสมัยนั้น ต่างก็เสแสร้ง และหลอกลวง ไม่จริงใจกับอิคคิว พวกขุนนาง เมื่ออิคคิวอายุได้ 16 ปี เขาเริ่มทนไม่ได้กับความเสแสร้างไม่จริงใจของพวกขุนนาง
อิคคิวได้ออกจากวัดอังโคะคุจิ หลังจากนั้นชีวิตของอิคคิวก็พบกับความทุกข์ยากแสนสาหัส อิคคิวได้เป็นนักเรียนของ Kenou Osyou ซึ่งเป็นผู้มีชื่อเสียงทางด้านศาสนาของนิกายเซนจนกระทั่งอิคคิวเสียชีวิตเมื่อมีอายุได้ 87 ปี ในปี 1481 ชีวิตของอิคคิวนั้นได้ทำให้ทุกคนเห็นว่าเขามีฐานะเป็นถึง เจ้าชาย ในจักรพรรษดิ์ แต่ว่าอิคคิว ไม่เคยสนใจยศศักดิ์ ตำแหน่ง ความร่ำรวม เกียรติยศเพราะสิ่งเหล่านี้เป็นการเริ่มต้นของความสกปรก ความโลภ จิตใจของอิคคิวบริสุทธิ์และไม่สนใจกับเกียรติยศใด ๆ
เทศกาลโยนแพะ ประเทศสเปน
เทศกาลที่เป็นที่โต้เถียงกันมากที่สุด เพราะของที่เอามาโยนนั้นคือสัตว์เป็นๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่ และมันคงไม่ชอบใจนักที่จะถูกเอามาโยนแบบนี้ สัตว์ที่ว่านี้คือ แพะ ซึ่งถูกโยนลงมาจากหอระฆังสูง 50 ฟุต ลงมายังพื้นด้านล่างที่มีกลุ่มคนถือผ้าผืนใหญ่รอรับตัวมันอยู่ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่นักต่อต้านการทารุณกรรมสัตว์จะหัวเสียและเรียกร้องให้ยกเลิกงานเทศกาลนี้
ที่เมือง Manganeses de la Polvorosa ซาโมรา ประเทศสเปน จะมีการจัดงานเทศกาลนี้เพื่อเฉลิมฉลองให้กับแพะชื่อดังในประวัติศาสตร์เมือง เรื่องมีอยู่ว่า มีพระรูปหนึ่งซึ่งเลี้ยงแพะเอาไว้ ทุกๆ วันเขาจะพาแพะเดินไปตามที่ต่างๆ เพื่อเอานมของมันให้กับคนยากไร้ อย่างไรก็ตาม วันหนึ่ง แพงตัวนี้หนีขึ้นไปบนหอระฆัง เมื่อระฆังดังขึ้นมามันก็ตกใจมากจนวิ่งตกลงมาจากหอคอย แต่โชคดีที่ด้านล่างมีคนผ่านไปมาที่ถือผืนผ้าใบอยู่จึงรับมันเอาไว้ได้พอดี และแพะตัวนี้ก็รอดชีวิต แต่สำหรับแพะผู้โชคร้ายที่โดนเอามาโยนในงานเฉลิมฉลองนี้ส่วนมากไม่ได้โชคดีแบบแพะต้นเรื่องและตกลงมาตายเสียส่วนมาก ปัจจุบันนี้เทศกาลนี้ถูกแบนไปตั้งแต่ปี 2002 แล้ว แต่เชื่อว่ายังมีคนแอบทำกันอยู่ดี
ที่มา:
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
40 VOTES (4/5 จาก 10 คน)