หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ราชสำนักฝ่ายใน สมัยรัชกาลที่ 5

โพสท์โดย พระพันปีหลังม่าน

 

           ราชสำนักฝ่ายใน      ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าอยู่หัวนั้น    มีผู้นิยมวิ่งเต้นส่งบุตรหลาน      เข้าไปถวายตัวเป็นข้าหลวงในวังมากเป็นจำนวนมาก ผู้ใดมีช่องทางคุ้นเคยรักใคร่กับใคร      ก็ช่วยชักนำกันถวายตัวเป็นข้าหลวงของบรรดาเจ้านายพระบรมวงศ์   พระมเหสี   หรือเจ้าจอมชั้นผู้ใหญ่    เพื่อที่จะมีโอกาสได้รับการฝึกฝนขนบธรรมเนียม   จรรยามารยาท   และวิชาการชั้นสูงต่าง ๆ   สำหรับกุลสตรี    ในขณะเดียวกันก็อาจเป็นโอกาสอันดีในการแสวงหาโชควาสนา    ที่จะได้ถวายตัวรับราชการเป็นข้าหลวงพนักงาน     หรือจนกระทั่งอาจได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้รับไว้เป็นข้าบาทบริจาริกา 

 

           การที่บรรดาพระบรมวงศ์   พระภรรยาเจ้าและพระภรรยามีบริวารในสังกัดเป็นจำนวนมากนี้    จึงเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์เชิงอุปถัมภ์ในสังคมไทย ตลอดจนการแสดงถึงอำนาจบารมีของเจ้านายในแต่ละสำนัก      ทั้งยังช่วยสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างเจ้านายผู้เป็นเจ้าสำนักกับองค์พระมหากษัตริย์      ในกรณีที่ผู้เข้ามาถวายตัวเป็นข้าในสำนักนั้นเกิดเป็นที่โปรดปราน     จนได้เป็นบาทบริจาริกา ซึ่งส่วนใหญ่แล้วสตรีที่เข้ามาสู่บารมีของเจ้านายในแต่ละสำนักนั้น     มักเป็นญาติ หรือญาติของผู้พำนักอยู่ในสำนักนั้น     หรือขุนนางที่เจ้าสำนักคุ้นเคยหรือไว้วางใจ

 

 

            ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระภรรยาเจ้า  และพระภรรยามากขึ้น   โดยพระภรรยาเจ้า และพระภรรยาที่จะมีสำนักเป็นของตนเองได้นั้น ต้องอาศัยคุณสมบัติหลายประการ    เช่น  ด้านชาติตระกูล   มีพระราชโอรสหรือพระราชธิดาเป็นที่โปรดปราน    หรือได้รับราชการสนองพระเดชพระคุณจนเป็นที่โปรดปราน   เป็นต้น   สำนักที่มีบทบาทสำคัญได้แก่

 

 

 

 

 

 

 

สำนักของ สมเด็จที่บน

            เป็นสำนักของสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ    ทรงเป็นพระราชชนนีในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร (รัชกาลที่ 6) จึงนับได้ว่าสำนักของพระองค์เป็นสำนักที่รุ่งเรืองมากที่สุดในหมู่พระภรรยาเจ้า  และต่อมาเมื่อทรงได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระอัครมเหสี     มีพระราชโอรสเป็นหลักในการสืบราชสันตติวงศ์    จึงทำให้มีเจ้านายที่ทรงรักใคร่ต้องพระอัธยาศัยกันมาถวายความจงรักภักดีในสำนักของสมเด็จที่บนหลายพระองค์ด้วยกัน   เช่น พระองค์เจ้าศรีนาคสวาสดิ์    พระองค์เจ้าแขไขดวง    พระองค์เจ้าพวงสร้อยสอางค์    และพระองค์เจ้านารีรัตนา   เป็นต้น  นอกจากนี้ยังทรงมีเจ้าจอมหม่อมราชวงศ์แป้น   เจ้าจอมหม่อมราชวงศ์ปั้ม   เจ้าจอมหม่อมราชวงศ์แป้ม   เจ้าจอมหม่อมราชวงศ์แป้ว แห่งราชสกุลมาลากุล   เป็นข้าหลวงคนสนิทที่ทรงโปรดปรานไว้วางพระราชหฤทัยให้เป็นนางสนองพระโอษฐ์   มีอำนาจว่ากล่าวดูแลคนทั้งปวงโดยสิทธิ์ขาด   อีกทั้งยังทรงมีเจ้าจอมมารดาเลื่อน   เจ้าจอมมารดาแส   เจ้าจอมอ้น  เจ้าจอมศรีพรหมา   ธิดาเจ้าผู้ครองนครน่าน อยู่ในสังกัดสำนักสมเด็จที่บนอีกด้วย

 

 

 

 

 

 

 

สำนักของ สมเด็จพระตำหนัก

           เป็นสำนักของสมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี  สมเด็จพระอัครมเหสีพระองค์ที่ 2 ทรงเป็นพระราชชนนีในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร    โดยทรงมีเจ้าจอมอยู่ในสำนักของพระองค์ท่านหลายคนด้วยกัน เช่น เจ้าจอมมารดาหม่อมราชวงศ์เนื่อง สนิทวงศ์   เจ้าจอมมารดาพร้อม   เจ้าจอมหม่อมราชวงศ์ข้อ สนิทวงศ์   เจ้าจอมถนอม   และเจ้าจอมเรียม   เป็นต้น ส่วนข้าหลวงในสำนักนั้นมักเป็นสมาชิกจากตระกูลที่ใกล้ชิด    โดยเฉพาะตระกูลสุจริตกุล  และตระกูลชูโต

 

 

 

 

 

 

 

สำนัก "พระนางเจ้าพระราชเทวี"

           เป็นสำนักของพระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระราชเทวี    ทรงมีข้าหลวงในสำนักเป็นสตรีจากตระกูลบุนนาค    เพราะทรงมีศักดิ์เป็นหลานตาของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติ (ทัด บุนนาค)      อีกทั้งยังมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสำนักของเจ้าคุณจอมมารดาแพ    ในฐานะญาติสายสกุลบุนนาค    ซึ่งต่อมากลุ่มเจ้าจอม  “ก๊กออ”  ที่สังกัดอยู่กับเจ้าคุณจอมมารดาแพ     ได้มาถวายงานใกล้ชิดร่วมกับพระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี    ภายหลังจากที่เจ้าคุณจอมมารดาแพเปลื้องหน้าที่ตามวัยวุฒิ

 

 

 

 

 

 

 

สำนักของ ท่านองค์เล็ก

          เป็นสำนักของพระอัครชายาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมขุนสุทธาสินีนาฏ เรียกว่า “ก๊กพระวิมาดา”   เจ้าจอมและนางข้าหลวงส่วนใหญ่     มักสืบสายราชสกุลมาจากพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว   เช่น  ราชสกุลลดาวัลย์,   สิงหรา นอกจากฝึกหัดอบรมคุณสมบัติกุลสตรีแล้ว    สำนักของพระอัครชายายังมีโรงเลี้ยงเด็กด้วย

 

 

 

 

 

 

 

สำนัก ตำหนักเจ้าลาว

           เป็นสำนักของพระราชชายาเจ้าดารารัศมี    มีลักษณะเป็นเอกเทศ   ดำรงลักษณะเอกลักษณ์ของชาวเหนือเอาไว้     เช่น ไว้ผมยาว  เกล้ามวย  นุ่งซิ่น  และเมื่ออยู่ในตำหนักจะพูดจาภาษาเหนือเสมอ     โดยแต่เดิมพระราชชายาเจ้าดารารัศมีนั้นทรงอยู่ในสังกัดของสำนักสมเด็จที่บน     ต่อมาเมื่อได้ทรงเป็นพระมเหสีแล้ว    พระราชชายาจึงได้ทรงรับเอาพระญาติวงศ์   และข้าราชบริพารจากเมืองเชียงใหม่    เข้ามาอยู่ด้วยจนเกิดเป็นสำนักตำหนักเจ้าลาวขึ้น    กล่าวกันว่าผู้ที่มาอยู่ในตำหนักพระราชชายานั้น    นอกจากจะงามพิศและพูดเพราะแล้ว     ดูเหมือนจะมีศิลปะในด้านการขับร้อง ฟ้อนรำ     และดนตรีไทยแทบทั้งนั้น

 

 

 

 

 

 

 

 

สำนัก คุณจอมแพ

          เป็นสำนักของเจ้าคุณจอมมารดาแพ   เป็นพระภรรยาที่มีฐานะเป็นสะใภ้หลวง   พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชประดิพัทธิ์    และพระราชทานเกียรติยศให้มาก   โดยภายในสำนักของท่านนั้นมักเป็นสตรีที่มาจากสายสกุลบุนนาค    ของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ (ดิศ บุนนาค)   เช่น เจ้าจอมมารดาโหมด  เจ้าจอมมารดอ่อน   เจ้าจอมเอี่ยม   เจ้าจอมเอิบ   เจ้าจอมอาบ เจ้าจอมเอื้อม   เป็นต้น

                                                                                                                       

                                                                                                                         ..........โดย .....พระพันปีหลังม่าน

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
92 VOTES (4/5 จาก 23 คน)
VOTED: robin123
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
การพบงูทะเลยักษ์ ในปี 2391
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
สำนักงานพุทธฯ สั่งตรวจสอบ พ่อแม่ "น้องไนซ์" เชื่อมจิตเอาอีกแล้ว! เขมรก็อปปี้หนังไทย เรื่องเด็กหญิงวัลลี ยอดกตัญญู?
ตั้งกระทู้ใหม่