ด้ายสีขาวของลุง
เอาเรื่องราวบนเฟส ที่สะท้อนมุมมองอย่างโหมกระพือมาให้อ่าน
"ด้ายสีขาว"บนเสื้อสีเขียว ที่สะกิดใจ
คนไข้หายใจหอบเหนื่อยมากมา 1 สัปดาห์ แต่เพิ่งมารพ. พอตรวจร่่างกายก็พบว่าหอบจริง หอบมาก ถ้ามาช้ากว่านี้อาจจะต้องใส่ท่อช่วยหายใจ
"แล้วทำไมคุณลุงเพิ่งมารพ. ล่ะ ถ้ามาช้ากว่านี้ ..." บอยพูดไปด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด เพราะคิดและตัดสินเอาเองอย่างเร็วว่าคุณลุงควรมารพ.เร็วกว่านี้ แต่ยังพูดไม่ทันเสร็จ สายตาดันไปเหลือบเห็น ด้ายสีขาวบนเสื้อสีเขียว ด้ายที่ทำให้ความหงุดหงิดของบอยค่อยๆหายไป ก่อนที่คุณลุงพยายาพูดตอบกลับมาว่า
"ก็ลุงไม่มีรถและไม่มีเงินเหมารถคนอื่นให้มารพ.ก็เลยทนอยู่บ้านเผื่อว่าจะดีขึ้น พอดีวันนี้ญาติมารพ.พอดีก็เลยถือโอกาสติดรถมาด้วย"
คำตอบของคุณลุงขยายความด้ายสีขาวที่เห็นด้วยตา และขยายใจบอยให้เห็นที่มาของความหงุดหงิด
ใจที่มันเร็ว ไปตัดสิน และต่อว่าคุณลุงด้วยน้ำเสียงก่อนแล้ว ว่าทำไมไม่รู้จักดูแลตัวเอง คงเป็นเพราะบอยให้ความสำคัญของโรคมากกว่าคน จึงทำให้บอยตัดสินไปว่า ที่โรคมีอาการแย่เป็นเพราะคุณลุงมาช้า ดังนั้นคุณลุงคือคนผิด คุณลุงคือคนที่ทำให้โรคมันแย่ลง (ทั้งๆที่่โรคไม่ควรจะแย่หากมารักษาเร็ว)
จริงๆแล้วไม่ใช่ความผิดของคุณลุงที่ไม่ดูแลตัวเอง แต่คงเป็นความผิดของบอยมากกว่าที่ไม่รู้จักคนไข้ ... คนที่ยากจนและอยู่ไกล เวลาเจ็บป่วยเขาก็มักจะมีแนวโน้มที่จะพยายามดูแลตัวเองภายใต้ข้อจำกัดก่อน หากหนักไม่ไหวก็ค่อยมารพ. เป็นธรรมดาอยู่แล้ว แต่ความธรรมดาบอยกลับมองข้ามไป
การรู้จักคนไข้ ยังนำไปสู่โอกาสพัฒนาระบบที่เอื้อให้คนกลุ่มนี้เข้าถึงรพ.ได้ง่าย การให้คนไข้รู้ว่าเมื่อไหร่ควรมารพ. รู้ว่าควรช่วยเหลือตัวเองเบื้องต้นอย่างไร
เป็นอีกครั้งที่บอยมุ่งรักษาโรค มากกว่ารักษาคน